
รัฐบาลเข้ม ตรวจสารพิษตกค้างในผัก-ผลไม้ ลดความเสี่ยง/อันตราย เน้นกำชับส่วนราชการทำนโยบายเพื่อสุขภาพที่ดีของ ปชช.
15 ธ.ค. 2567- นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลบูรณาการความร่วมมือแก้ไขปัญหาสารพิษตกค้างจากวัตถุอันตรายทางการเกษตรในผัก และผลไม้ ตั้งแต่ต้นน้ำ (แปลงปลูก/นำเข้า) กลางน้ำ (โรงคัดบรรจุ) และปลายน้ำ (สถานที่จำหน่าย) โดยดำเนินงานภายใต้คณะกรรมการอาหารแห่งชาติ ในการขับเคลื่อนเพื่อจัดการความเสี่ยงของสารพิษตกค้างในผักผลไม้ การสื่อสารเพื่อลดความเสี่ยงหรืออันตรายจากสารพิษตกค้าง รวมถึงการปรับเกณฑ์มาตรฐานสารพิษตกค้างให้ครอบคลุมชนิดผักผลไม้ และการใช้วัตถุอันตรายทางการเกษตรในปัจจุบัน
นายอนุกูล กล่าวว่า จากข้อมูลการตรวจวิเคราะห์ผักผลไม้ในประเทศตั้งแต่ปี 2560 ถึง ปี 2567 รวม 2,193 ตัวอย่างผ่าน 81.35% (1,784 ตัวอย่าง) ไม่ผ่าน 18.65% (409 ตัวอย่าง) ซึ่งยังพบปัญหาสารพิษตกค้างในผักผลไม้ โดยปีงบประมาณ 2568 สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย. ) ได้ร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ ตรวจเฝ้าระวังความปลอดภัยของผักและผลไม้สด ณ โรงคัดบรรจุทั่วประเทศ จำนวน 854 แห่ง เพื่อกำกับดูแลมาตรฐานการผลิตของโรงคัดบรรจุผักผลไม้สดตามหลักเกณฑ์ GMP และตรวจสอบการแสดงฉลากเพื่อการตามสอบย้อนกลับถึงแหล่งที่มา รวมทั้งเก็บตัวอย่างผักและผลไม้สด ส่งตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการมาตรฐาน โดยมีการสื่อสารความเสี่ยงเป็นระยะ และสรุปสถานการณ์ความปลอดภัยด้านสารพิษตกค้างจากวัตถุอันตรายทางการเกษตร แจ้งต่อกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งกำกับดูแลแปลงปลูกในประเทศ เพื่อให้สามารถนำไปสู่การแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุ
นายอนุกูล กล่าวต่อว่า กรณีที่ผลการตรวจประเมิน GMP ไม่ผ่านตามเกณฑ์ อย. และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด จะบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด เพื่อให้กลไกการตรวจสอบสารตกค้างจากวัตถุอันตรายทางการเกษตรมีประสิทธิภาพสอดคล้องตามที่กฎหมายกำหนด นอกจากนี้ อย. ยังมีมาตรการเฝ้าระวังการนำเข้าผักผลไม้อย่างเข้มงวดด้วยเช่นกัน โดยการตรวจกัก เก็บผัก ผลไม้กลุ่มเสี่ยง เช่น องุ่น สาลี่ คื่นช่าย ปวยเล้ง เป็นต้น ส่งตรวจวิเคราะห์ หากผลการตรวจไม่ผ่านจะถูกดำเนินคดี และไม่สามารถนำเข้าผัก ผลไม้นั้นได้ ทั้งนี้ ผู้จำหน่าย ตลาดค้าปลีก ควรเลือกผัก ผลไม้จากแหล่งที่น่าเชื่อถือ และสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ว่ามาจากแหล่งใด สำหรับผู้บริโภค ควรให้ความสำคัญกับการล้างทำความสะอาดผักและผลไม้ก่อนรับประทานหรือนำมาปรุงอาหาร ซึ่งจากผลงานวิจัยพบว่าการล้างอย่างถูกวิธีด้วยน้ำธรรมดา น้ำผสมโซเดียมไบคาร์บอเนต (ผงฟู/เบคกิ้งโซดา) หรือน้ำผสมเกลือ มีประสิทธิภาพในลดปริมาณสารพิษตกค้างได้ ไม่ว่าจะเป็นสารพิษชนิดดูดซึมหรือไม่ดูดซึม นอกจากนี้ ควรเลือกซื้อผักและผลไม้ตามฤดูกาล เลือกให้หลากหลาย และไม่ควรบริโภคชนิดเดียวกันซ้ำ ๆ ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงจากสารพิษตกค้างได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สกลนครนำโด่ง จ้างแรงงานกรมชลฯ มากที่สุดกว่า 5.2 พันคน
นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า โครงการจ้างแรงงานชลประทานทั่วประเทศ ที่ดำเนินการโดยกรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์นั้น
เตือนเล่นน้ำทะเลช่วงนี้ ระวัง 'มังกรทะเล' แนะวิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้น
นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เตือนประชาชนและนักท่องเที่ยวระมัดระวัง ความปลอดภัยในการท่องเที่ยว โดย กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข
ครม.ทุ่มแสนล้านอุ้มชาวนา
ชาวนาเฮ! ครม.ไฟเขียว 1.06 แสนล้าน แจกไร่ละพัน ไม่เกินหมื่นบาทต่อครัวเรือน
จ่ายภาษีรถผ่าน 'เป๋าตัง' ได้แล้ว ข่าวดี! ปี 69 ต่อใบขับขี่-จดทะเบียน
รัฐบาลขับเคลื่อนมาตรการดิจิทัลครบวงจร เปิดให้ชำระภาษีออนไลน์ผ่านแอปฯ เป๋าตัง เดินหน้าต่อยอด e-Service คาดปี 69 เปิดให้ต่อใบขับขี่-จดทะเบียนรถ
รัฐบาลโวนโยบาย ‘นับคาร์บได้ผล’ ลดจำนวนผู้ป่วย NCDs 5 หมื่นราย
รัฐบาลโวนโยบาย “นับคาร์บได้ผล” ปชช. ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภค ลดจำนวนผู้ป่วย NCDs กว่า 5 หมื่นราย
รัฐบาลสยบเฟกนิวส์ ยันกรมศิลป์ไม่เคยสั่งทำลายปราสาท เพื่อประโยชน์ทหาร
รัฐบาลเตือนข่าวปลอม 'กรมศิลป์อนุญาตทำลายปราสาทเพื่อประโยชน์ทางทหาร' ขอ ปชช. อย่าเชื่อ อย่าแชร์สร้างความเข้าใจผิด กระทบภาพลักษณ์ไทยในเวทีโลก

