'มาริษ' เผย การประชุมเพื่อแก้ปัญหาระหว่างเมียนมากับเพื่อนบ้าน เป็นไปด้วยดี ทุกฝ่ายแสดงความจริงใจ ในการร่วมแก้ไขอย่างจริงจัง พร้อมชื่นชมไทย ที่ริเริ่มจัดการหารือในครั้งนี้
19 ธ.ค.2567 - ที่โรงแรมคาเพลลา กรุงเทพ เขตสาทร นายมาริษ เสงี่ยมพงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ แถลงถึงการประชุมอย่างไม่เป็นทางการระหว่างประเทศเมียนมาและประเทศเพื่อนบ้าน 6 ประเทศ (สปป.ลาว จีน อินเดีย บังกลาเทศ เมียนมา และไทย) ซึ่งมีผู้แทนระดับรัฐมนตรีและผู้แทนระดับสูงจากแต่ละประเทศเข้าร่วม โดยกล่าวว่า การหารือในวันนี้มีความสำคัญอย่างมาก เนื่องจากเป็นครั้งแรกที่เมียนมาและประเทศเพื่อนบ้านทั้ง 5 ประเทศ ได้มีโอกาสมาพบและหารือกัน เพื่อสะท้อนความจริงจังของทุกประเทศในการร่วมมือกันมากยิ่งขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ทั้งปัญหาในเมียนมา และปัญหาที่ส่งผลกระทบถึงประเทศเพื่อนบ้าน และกระทบในระดับภูมิภาค โดยการหารือครั้งนี้ มาจากข้อริเริ่มของไทย ต่อเนื่องจากการประชุม BIMSTEC และย้ำว่าการประชุมในวันนี้ จะช่วยเสริมให้การประชุมในกรอบอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการในวันพรุ่งนี้ (20 ธ.ค. 67) ในความพยายามแก้ไขปัญหาในเมียนมา ผ่านฉันทามติ 5 ข้อของอาเซียน ให้มีผลเป็นรูปธรรมและชัดเจนยิ่งขึ้น พร้อมเล่าว่าบรรยากาศการหารือวันนี้เป็นไปด้วยดี มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นต่าง ๆ อย่างตรงไปตรงมา เปิดเผย และสร้างสรรค์ ทั้งด้านความมั่นคงชายแดน อาชญากรรมข้ามชาติ ยาเสพติด การหลอกลวงออนไลน์ รวมถึงการแก้ปัญหาและบริหารจัดการน้ำร่วมกัน เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมทั้งระบบ เนื่องจาก ไทย เมียนมา และลาว ต่างเป็นส่วนหนึ่งในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง
นอกจากนี้ นายมาริษ เปิดเผยว่า พลเอกอาวุโส ตาน ฉ่วย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเมียนมา ได้เล่าต่อที่ประชุม ถึงความคืบหน้าสถานการณ์ทางการเมืองของเมียนมา ในการเตรียมการจัดการเลือกตั้ง ทั้งการจัดทำสำมะโนประชากร และจดทะเบียนพรรคการเมือง ซึ่งปัจจุบันมีถึง 53 พรรค และยังแจ้งด้วยว่า รัฐบาลเมียนมามีความตั้งใจที่จะเชิญผู้สังเกตการณ์การเลือกตั้งจากต่างประเทศ เช่น จากประเทศเพื่อนบ้าน โดยขณะนี้กำลังพิจารณารายละเอียด และแจ้งให้ประเทศเพื่อนบ้านให้รับทราบ
ทั้งนี้ ที่ประชุมยังได้หยิบยกหารืออย่างกว้างขวางถึงสถานการณ์ความมั่นคงบริเวณชายแดนแต่ละด้านของเมียนมา ซึ่งมีความแตกต่างกันอย่างมาก ทั้งปัญหายาเสพติด ปัญหาการลักลอบข้ามแดน การค้าอาวุธ และการหลอกลวงออนไลน์ โดยทุกประเทศเห็นพ้องที่จะยกระดับความร่วมมือในการแก้ปัญหาให้ใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะ การแลกเปลี่ยนความร่วมมือ และการประสานงานในการบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งหลายประเทศพยายามเสนอความช่วยเหลือซึ่งกันและกันในด้านต่าง ๆ และจุดนี้เอง ที่เป็นเป้าหมายที่ชัดเจนในการจัดการประชุมครั้งนี้ที่ไทยต้องการเห็นความร่วมมือ และความจริงใจของประเทศเพื่อนบ้านทุกประเทศในการช่วยเหลือเมียนมา โดยทุกประเทศต้องการเห็นสันติภาพ เสถียรภาพ และความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันเกิดขึ้นในเมียนมา และต้องการให้ฝ่ายต่าง ๆ ในเมียนมายุติการใช้ความรุนแรง ซึ่งถึงเวลาแล้วที่จะต้องหันหน้ามาคุยกันเพื่อหาทางออกอย่างสันติ โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเมียนมา ได้แจ้งในที่ประชุมว่า รัฐบาลเมียนมาได้เปิดประตูสำหรับพูดคุยเพื่อหาทางออก โดยกระบวนการทางการเมือง และยังมีกลไกในการเปิดประตูให้ทุกฝ่าย เข้ามาร่วมแก้ปัญหาโดยสันติ
นายมาริษ ได้เล่าด้วยว่า ทุกประเทศที่เข้าร่วมการประชุม ต่างแสดงความชื่นชมไทยที่จัดการหารือในครั้งนี้ขึ้น และเห็นพ้องว่าการพูดคุยเรื่องเมียนมามีความจำเป็น เนื่องจากเพื่อนบ้านต่างได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในเมียนมาโดยตรง และเพื่อนบ้านทุกประเทศรวมทั้งไทย มีความเข้าใจในความอ่อนไหวของสถานการณ์ในเมียนมาดีกว่าประเทศอื่น ๆ และเห็นประโยชน์ว่า การพบหารือกันระหว่างเมียนมากับประเทศเพื่อนบ้านในลักษณะนี้ มีประโยชน์ ตนเองจะนำผลการหารือระหว่างเมียนมาและเพื่อนบ้านในวันนี้ ไปถ่ายทอดในการประชุมในกรอบอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการ วันพรุ่งนี้ (20 ธ.ค. 67) ได้รับทราบเพื่อเป็นส่งเสริมการดำเนินงานในการพยายามแก้ปัญหาเมียนมา ในกรอบของอาเซียนต่อไป และเชื่อมั่นว่าืการพบปะหารืออย่างสร้างสรรค์ในวันนี้ที่ไทยเป็นผู้ริเริ่ม จะนำไปสู่การขยายความร่วมมือ และช่วยเสริม ความพยายามของอาเซียนในการแก้ปัญหาภายในเมียนมาให้สมบูรณ์ในอนาคตอันใกล้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศย้ำเจตนารมณ์ของไทยในการส่งเสริม ความร่วมมือภายใต้ยุทธศาสตร์ฟ้าใสในงานพบหารือกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้องที่จังหวัดเชียงราย
นายศรัณย์ เจริญสุวรรณ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้แทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ร่วมเปิดงานพบหารือกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อขับเคลื่อน ความร่วมมือตามแผนปฏิบัติการร่วมภายใต้ยุทธศาสตร์ฟ้าใส (CLEAR Sky Strategy) ระหว่างไทย สปป.ลาว และเมียนมา
ครม. เห็นชอบต่อใบอนุญาตทำงานให้คนต่างด้าว 3 สัญชาติ
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการต่ออายุใบอนุญาตทำงานให้กับคนต่างด้าว 3 สัญชาติ
ทหารยกระดับคุมเข้มชายแดนไทย-เมียนมา ป้องรุกล้ำอธิปไตย
ทหารไทยหน่วยเฉพาะกิจรามนู กองกำลังนเรศวร พร้อมอาวุธปืนหนัก-รถยานเกราะ นำกำลังพลออกลาดตระเวนตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา และวางกำลังตามจุดล่อแหลม
รัฐบาลแถลงแก้ชายแดน กองทัพระงับถอนอาวุธหนัก กต.รุกฟ้องโลก เจรจาภาษีสหรัฐฯจบสิ้นปี
โฆษกรัฐบาล ย้ำนายกฯหนักแน่นแก้ชายแดน สหรัฐฯแยกเรื่องการค้า กับปมขัดแย้งไทย-เขมร ด้าน “โฆษก กห.” ย้ำจะปล่อยเชลยศึกจนกว่าจะหมดสิ้นเป็นปรปักษ์ “สตช.” เชิงรุกปราบปรามสแกมเมอร์-อาชญากรรมออนไลน์ จับมือทั้งใน-ต่างประเทศ
ทหารเมียนมาเปลี่ยนจุดบึ้ม 'เคเคปาร์ค' ส่วนตึก 5 ชั้นเอียงใกล้ถล่ม
ทหารเมียนมาร่วมกับกะเหรี่ยงกองกำลังพิทักษ์ชายแดน (BGF.) พันธมิตรของทหารเมียนมา ยังคงเดินหน้าวางระเบิดทำลายอาคาร สำนักงานในพื้นที่เมืองเอ่งจี่เหมี่ยง
กต. ประณามกัมพูชาเริ่มยิงฝั่งไทย ใช้พลเรือนเป็นโล่มนุษย์ ที่บ้านหนองหญ้าแก้ว
นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ขอชี้แจงและยืนยันข้อมูล ตามที่ได้รับแจ้งจากกองทัพบกว่า ทหารกัมพูชาเป็นฝ่ายเริ่มใช้อาวุธปืนยิงเข้ามายังฝั่งไทยในพื้นที่ชายแดนบ้านหนองหญ้าแก้ว


