พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า ลมหนาวมีกำลังอ่อนลง อุณหภูมิสูงขึ้น 2-5 องศา

12 ก.พ.2568 - กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า ในช่วงวันที่ 12 – 18 ก.พ. บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นที่ปกคลุมประเทศไทยและทะเลจีนใต้มีกำลังอ่อนลง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนจะมีอุณหภูมิสูงขึ้น 2 – 5 องศาเซลเซียส กับมีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาบางพื้นที่ โดยมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน แต่ยังคงมีอากาศเย็นในตอนเช้า

สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังปานกลางที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันมีกำลังอ่อน ทำให้คลื่นลมมีกำลังอ่อนลง โดยอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร

ข้อควรระวัง ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง ระวังอันตรายจากอัคคีภัยเนื่องจากสภาพอากาศแห้ง และระมัดระวังอันตรายในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกไว้ด้วย ตลอดช่วง ส่วนในช่วงวันที่ 14 - 18 ก.พ. 68 ชาวเรือบริเวณอ่าวไทย และทะเลอันดามัน ควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง

คาดหมายอากาศรายภาค ระหว่างวันที่ 12 – 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568

ภาคเหนือ

อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาบางพื้นที่ โดยอุณหภูมิจะสูงขึ้น 2 – 3 องศาเซลเซียส ตลอดช่วง อุณหภูมิต่ำสุด 16 – 21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 – 36 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8 - 13 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 5 - 10 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาบางพื้นที่ โดยอุณหภูมิจะสูงขึ้น 3 - 5 องศาเซลเซียส ตลอดช่วง อุณหภูมิต่ำสุด 16 – 21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31 - 36 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10 - 15 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 - 15 กม./ชม.

ภาคกลาง

อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาบางพื้นที่ โดยอุณหภูมิจะสูงขึ้น 2 – 4 องศาเซลเซียส กับมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน ตลอดช่วง อุณหภูมิต่ำสุด 18 – 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32 – 37 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 - 15 กม./ชม.

ภาคตะวันออก

อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาบางพื้นที่ โดยอุณหภูมิจะสูงขึ้น 2 – 4 องศาเซลเซียส กับมีอากาศร้อนในตอนกลางวันตลอดช่วง อุณหภูมิต่ำสุด 21 – 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32 – 36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)

ในช่วงวันที่ 12 – 13 ก.พ. อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง
ส่วนในช่วงวันที่ 14 – 18 ก.พ. มีฝนฟ้าคะน้องร้อยละ 10 – 20 ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 15 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 20 – 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31 – 35 องศาเซลเซียส

ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)

ในช่วงวันที่ 12 – 13 ก.พ. อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้าทางตอนบนของภาค โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ 14 – 18 ก.พ. มีฝนฟ้าคะน้องร้อยละ 10 – 20 ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 10 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 22 - 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 - 36 องศาเซลเซียส

กรุงเทพและปริมณฑล

หมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาบางพื้นที่ อุณหภูมิจะสูงขึ้น 2 – 4 องศาเซลเซียส กับมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน ตลอดช่วง อุณหภูมิต่ำสุด 22 – 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 – 37 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 - 15 กม./ชม.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

กรมอุตุฯ เผยพายุลูกใหม่กำลังก่อตัวบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง

กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานว่า ขณะนี้หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณด้านตะวันออกของประเทศฟิลิปปินส์ มีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุหมุนเขตร้อนได้ และมีแนวโน้มจะเคลื่อนผ่านประเทศฟิลิปปินส์ลงสู่ทะเลจีนใต้

อุตุฯ เตือนใต้ฝนตกหนักถึงหนักมาก เหนือ-อีสาน-กลางอุณหภูมิลดลง

กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้าว่า ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส พังงา ภูเก็ต ตรัง และสตูล

ครม. ดัน 'กรมอุตุฯ' ใช้ระบบ Tomorrow.io ยกระดับแจ้งเตือนภัยพิบัติเทียบมาตรฐานโลก

ครม.ไฟเขียว กรมอุตุฯ จับมือ Tomorrow.io ดันระบบพยากรณ์ไทยเทียบโลก ทดลองใช้ 3 เดือน “ไม่ใช้งบ” พร้อมของบกลางเล็กน้อย เสริมเสาสัญญาณ–วิทยุฉุกเฉิน