มัลลิกา เผย 'จุรินทร์' แนะผู้ส่งออกไทยจับตาเทรนด์สินค้ากระแสปังในตลาดโลก หนุนส่งออกปี 65


พาณิชย์เดินหน้าผลักดันการส่งออกสินค้าไทย ตามยุทธศาสตร์ “ตลาดนำการผลิต” ของ 'จุรินทร์' แนะผู้ส่งออกไทยจับตาเทรนด์สินค้ากระแสแรงในตลาดโลกอย่างใกล้ชิด ชี้เครื่องดื่มไฮเอนด์ เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพมาแรงในตลาดจีนและสิงคโปร์ สหรัฐฯ ขาดแคลนนมและของใช้สำหรับเด็ก ขณะที่ละตินอเมริกาต้องการเครื่องสำอางส่วนผสมธรรมชาติ อาหารเพื่อสุขภาพทำจากพืช  

30 ม.ค.2565 - นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ตามนโยบายของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์) ที่มอบหมายให้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศจับตาแนวโน้มหรือกระแสความนิยมสินค้าประเภทต่าง ๆ ในตลาดต่างประเทศ เพื่อวิเคราะห์โอกาสทางการค้าและผลักดันการส่งออกสินค้าไทยให้บรรลุเป้าหมายขยายตัวร้อยละ 3-4 ในปี 2565 ล่าสุด ได้รับรายงานแนวโน้มสินค้าที่กำลังมาแรงจากทูตพาณิชย์ในประเทศต่าง ๆ ดังนี้

จีน กระแสเครื่องดื่มไฮเอนด์จำพวกน้ำแร่ น้ำอัดลม น้ำผักผลไม้ เครื่องดื่มธัญพืช เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ กำลังมาแรง เห็นได้จากปีที่ผ่านมายอดจำหน่ายเครื่องดื่มไฮเอนด์ที่มีราคาสูงกว่าราคาเฉลี่ย 2 เท่าหรือมากกว่าขยายตัวถึงร้อยละ 8.0 จากปีก่อนหน้า โดยมีปัจจัยหนุนจากความหลากหลายของเครื่องดื่มในตลาด ผู้บริโภคจีน  มีกำลังซื้อสูงขึ้นส่งผลให้เลือกซื้อเครื่องดื่มที่สะท้อนถึงฐานะทางสังคม รวมถึงการขยายตัวของกลุ่มผู้บริโภค Gen Z

นางมัลลิกา กล่าวว่าผู้ประกอบการไทยที่ต้องการบุกเข้าสู่ตลาดจีนว่า การแข่งขันของตลาดเครื่องดื่มไฮเอนต์ในจีนยังไม่รุนแรงเท่ากับตลาดระดับกลางและล่างที่เน้นแข่งขันด้วยราคาเป็นหลัก แต่จะต้องเน้นที่คุณภาพและภาพลักษณ์สินค้าเป็นจุดขายสำคัญ ตัวอย่างเช่น เครื่องดื่มกระทิงแดงของไทยที่เน้นประชาสัมพันธ์ถึงสรรพคุณของสินค้า เป็นต้น นอกจากนี้ เครื่องดื่มประเภท “ชานมที่ดื่มแล้วไม่อ้วน” หรือ “ชานมแคลอรี่ต่ำ” กำลังเป็นกระแสบูมอย่างมากในตลาดจีน โดยเฉพาะผู้บริโภคยุคใหม่ที่รักสุขภาพและผู้หญิงที่ใส่ใจเรื่องการควบคุมน้ำหนัก โดยควรชูจุดเด่นของการทำตลาดด้วยการใช้นมจากพืชแทนสัตว์ เน้นวัตถุดิบที่มีแคลอรี่เป็นศูนย์ ใช้สารทดแทนน้ำตาล แสดงปริมาณแคลอรี่ให้เห็นอย่างชัดเจน พร้อมเน้นคีย์เวิร์ดสำคัญ เช่น “no milk added”     "Oil Cut, Not Fat" แคลอรีต่ำ ไขมันต่ำ เป็นต้น  

สำหรับโอกาสของผลไม้ไทยในจีนนั้น ทุเรียนสดเป็นผลไม้ที่จีนนำเข้ามากที่สุด โดยอนุญาตให้นำเข้าจากไทยเท่านั้น ทำให้ทุเรียนไทยมีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด และส่งเสริมให้ราคาจำหน่ายมีแนวโน้มสูงขึ้น โดยราคานำเข้าในปี 2564 เพิ่มขึ้นเป็น 5.11 เหรียญสหรัฐ/กิโลกรัม ทั้งนี้ ข้อมูลล่าสุดตั้งแต่ ม.ค.-พ.ย. 64 จีนนำเข้าทุเรียนสดปริมาณ 0.809 ล้านตัน มูลค่า 4,132 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวร้อยละ 68.1 เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า นำเข้าจากไทยมากกว่าร้อยละ 90 โดยเฉพาะทุเรียนพันธุ์หมอนทอง ที่เหลือเป็นการนำเข้าทุเรียนแช่แข็งจากมาเลเซีย ซึ่งยังไม่สามารถแข่งขันกับทุเรียนไทยได้ เนื่องจากราคาจำหน่ายค่อนข้างสูง อีกทั้งช่องทางจำหน่ายมีจำกัดเมื่อเทียบกับทุเรียนไทย

นอกจากนี้แม้ว่ารายการอาหารในเทศกาลสำคัญของจีนยังคงเน้นอาหารจีนเป็นหลัก แต่สินค้าอาหารจากต่างประเทศก็เริ่มเป็นที่นิยมเช่นกัน จึงน่าจะเป็นช่องทางสำหรับสินค้าอาหารไทยหรือธุรกิจร้านอาหารไทยที่จะเข้าไปเพิ่มส่วนแบ่งตลาดได้เช่นกัน ผู้ประกอบการไทยจึงไม่ควรพลาดโอกาสขยายธุรกิจไปยังช่วงเทศกาลสำคัญของจีนด้วย โดยคำนึงถึงความสะดวกสบายในการซื้อ การรักษาคุณค่าทางโภชนาการ และความคิดสร้างสรรค์นวัตกรรมทางสินค้า เพื่อผลิตสินค้าหรือบริการที่เหมาะสมกับฤดูกาลและเทศกาลของจีน เช่น ต้มยำกุ้งกล่องกึ่งสำเร็จรูป หม้อไฟ  ต้มยำกุ้งที่เป็นกล่องของขวัญ ส้มตำกึ่งสำเร็จรูป ทอดมันกุ้งหรือปลากึ่งสำเร็จรูป เป็นต้น  

สิงคโปร์ ล่าสุดเปิดตัวไวน์ถั่วเหลือง (Soy Wine) ครั้งแรกของโลกจากเวย์ถั่วเหลือง ซึ่งเป็นผลพลอยได้จากการผลิตเต้าหู้ มีรสชาติคล้ายสาเก ผลไม้และดอกไม้ อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระจากถั่วเหลืองและปราศจากกลูเตนอีกด้วย ทั้งนี้ ตลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของสิงคโปร์เป็นตลาดที่มีมูลค่าการค้ามหาศาล อีกทั้งเป็นการมุ่งเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ชื่นชอบไลฟ์สไตล์แบบยั่งยืนที่กำลังเป็นกระแสความนิยมในปัจจุบัน ผู้ประกอบการไทยจึงควรเร่งส่งเสริมการวิจัยเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม รวมถึงนำนวัตกรรมใหม่ ๆ มาใช้ในการผลิต เพื่อเพิ่มส่วนแบ่งตลาดอาหารและเครื่องดื่มแบบยั่งยืนในสิงคโปร์ให้มากขึ้น

สหรัฐอเมริกา สินค้านมสำหรับเด็ก รวมถึงของใช้สำหรับเด็กกำลังประสบภาวะขาดแคลนจากนโยบายปิดเมืองของจีนส่งผลให้ผู้ประกอบการในสหรัฐฯ หันไปนำเข้าสินค้าจากแหล่งผลิตประเทศใกล้เคียงทดแทน จึงเป็นโอกาสของไทยในการเจาะตลาดสินค้ารถเข็น เสื้อผ้า รองเท้า โต๊ะเปลี่ยนผ้าอ้อม เบาะรองนอน รวมถึงของเล่นสำหรับเด็ก นอกจากนี้ ผู้ประกอบการไทยควรเน้นเจาะตลาดสินค้านมสำหรับเด็กที่ทำจากพืช (Plant-based Baby Formula) มากขึ้น  

ลาตินอเมริกา ผู้บริโภคชาวโคลอมเบียเริ่มจับจ่ายซื้อสินค้าเพิ่มขึ้นภายหลังสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศมีทิศทางดีขึ้น โดยสินค้าที่มียอดจำหน่ายสูงสุดช่วงไตรมาสที่ 3 และ 4 ของปีที่ผ่านมา ได้แก่ สินค้าเสริมความงาม เครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์สำหรับสัตว์เลี้ยง อาหาร ยาและเวชภัณฑ์ จึงเป็นโอกาสของไทยที่จะเร่งส่งออกสินค้าที่ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคในตลาดนี้ ได้แก่ เครื่องสำอางจากส่วนผสมธรรมชาติ เครื่องปรุง อาหารเพื่อสุขภาพและอาหารที่ทำจากพืช โดยใช้ประโยชน์จาก FTA ไทย-ชิลี ทั้งนี้ ตลาดลาตินอเมริกาดังเช่นโคลอมเบียยังคงคำนึงถึงราคาและความคุ้มค่าเป็นปัจจัยหลักในการเลือกซื้อสินค้าเป็นสำคัญ

“ถึงแม้ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 จะส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตและความต้องการสินค้าของผู้บริโภคในตลาดภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วโลก โดยคำนึงถึงปัจจัยด้านราคาและระมัดระวังการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น อย่างไรก็ดี นอกจากการวางแผนการผลิตที่เน้นลดต้นทุนแล้ว ผู้ส่งออกไทยควรมุ่งสร้างจุดเด่นในเรื่องประโยชน์ใช้สอยและคุณภาพที่ดีของสินค้า เพื่อให้สามารถแข่งขันได้ในราคาที่เหมาะสม และมีโอกาสทางการตลาดในประเทศเป้าหมายมากขึ้น” ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

พาณิชย์ดันข้าวประณีตสู่เวทีโลก จับมือ MasterChef-3 สายการบิน ปั้นอาหารไทยระดับสากล

พาณิชย์ดัน “ข้าวประณีต” และ “วัตถุดิบสินค้าเกษตร” สู่เวทีโลก ปั้นโมเดล Local Ingredients World Class Experiences จับมือ MasterChef–3 สายการบิน ยกระดับเกษตรไทยเป็นประสบการณ์อาหารระดับสากล

‘เอ็กซิมแบงก์’กางแผนงานปี69 ปั้มSMEภาคส่งออกเพิ่ม2พันราย

‘เอ็กซิมแบงก์’ ปักธงปี 69 ปั๊มลูกค้าเอสเอ็มอีภาคส่งออกเพิ่ม 2 พันราย ผ่าน 4 แนวทางบูมเต็มสูบ ชูธง Export Co-pilot ยกระดับชีดความสามารถการแข่งขันผู้ประกอบการให้เติบโตอย่างเข้มแข็งและยั่งยืน ผ่านเครื่องมือการเงินและการบริหารความเสี่ยง พร้อมคาดส่งออกไทยปี 68 โต 10% ส่วนปี 69 เหลือ 0-2%

เอกฉันท์!‘กนง.’ลดดอกเบี้ย0.25% คงจีดีพีปี68ที่2.2%ครึ่งปีหลังชะลอ

เอกฉันท์! ‘กนง.’ มีมติลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% ต่อปี จาก 1.50% ต่อปี เป็น 1.25% ต่อปี โดยให้มีผลทันที พร้อมคงจีดีพีปี 68 ไว้ที่ 2.2% แต่ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจปี 69 เหลือ 1.5% ส่วนปี 70 ที่ 2.3%

‘ศุลกากร’ยันส่งออกน้ำมันไปลาวไม่ได้พุ่งจนผิดสังเกต

‘ศุลกากร’ แจงข้อมูลส่งออกน้ำมันไป สปป.ลาว ตรงกันทุกหน่วยงาน ยืนยันหลังตรวจสอบทุกด่านพบปริมาณไม่ได้เพิ่มขึ้นจนผิดสังเกต ย้ำชัดไทยงดส่งออกน้ำมันไปกัมพูชาแล้ว 100% ตั้งแต่ ก.ค. 2568 พร้อมขอความร่วมมือคู่ค้าไทยงดส่งต่อน้ำมันไปประเทศที่สาม

‘พลังงาน’ สั่งเข้ม! ตรวจสอบส่งออกน้ำมัน สกัดลักลอบส่งน้ำมันไปกัมพูชา

"พลังงาน" สั่งเข้ม! ตรวจสอบปริมาณการส่งออกน้ำมัน ทั้งทางบก-ทางเรือ พร้อมร่วมมือกองทัพเต็มที่ สกัดลักลอบส่งน้ำมันเข้ากัมพูชา