
1 เม.ย. 2568 – แถลงการณ์ ศูนย์รับแจ้งเพื่อตรวจสอบความเสียหายของอาคารที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว (ศรต.ยผ.) กรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทยวันจันทร์ที่ 31 มีนาคม 2568
ขอรายงานผลการดำเนินการในวันอาทิตย์ที่ 30 มีนาคม 2568
ศูนย์รับแจ้งเพื่อตรวจสอบความเสียหายของอาคารที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว (ศรต.ยผ.) ณ กรมโยธาธิการและผังเมือง ถนนพระรามที่ 6 ได้ร่วมกับสภาวิศวกร วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย สมาคมผู้ตรวจสอบอาคาร และวิศวกรอาสาภาคเอกชน จำนวน 155 คน ดำเนินการตรวจสอบอาคารที่มีการแจ้งว่าได้รับความเสียหาย โดยมีการแบ่งอาคารในการตรวจสอบออกเป็น 3 กลุ่ม และขอรายงานผลการดำเนินงานตามการแบ่งกลุ่มอาคาร ดังนี้
อาคารกลุ่มที่ 1 ได้แก่ อาคารภาครัฐ เช่น โรงพยาบาล โรงเรียน อาคารราชการในเขตกรุงเทพมหานคร โดยกรมโยธาธิการและผังเมืองเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบดำเนินการตรวจสอบร่วมกับ สภาวิศวกร วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย สมาคมผู้ตรวจสอบอาคาร และวิศวกรอาสาภาคเอกชน ดำเนินการตรวจสอบอาคารที่ได้รับการร้องขอ ในวันที่ 30 มีนาคม 2568 จำนวน 38 หน่วยงาน จำนวน 124 อาคาร สามารถใช้งานได้ปกติจำนวน 117 อาคาร / มีความเสียหายปานกลาง สามารถใช้งานได้จำนวน 7 อาคาร และไม่มีอาคารที่มีความเสียหายอย่างหนักและระงับการใช้อาคาร
สรุป ดำเนินการตรวจสอบอาคาร สะสมตั้งแต่ วันที่ 28 – 30 มีนาคม 2568 จำนวน 69 หน่วยงาน จำนวน 213 อาคาร สามารถใช้งานได้ปกติจำนวน 190 อาคาร / มีความเสียหายปานกลาง สามารถใช้งานได้ จำนวน 20 อาคาร /โครงสร้างมีความเสียหายอย่างหนักโดยได้สั่งให้ระงับการใช้งานอาคาร จำนวน 3 อาคาร และทางเชื่อมอาคาร จำนวน 1 แห่ง
อาคารกลุ่มที่ 2 ได้แก่ อาคารสูง โรงแรม คอนโดมิเนียม หอพัก ห้างสรรพสินค้าที่เป็นของภาคเอกชน อาคารเหล่านี้ เป็นอาคารที่ต้องมีการตรวจสอบอาคารตามกฎหมายควบคุมอาคารทุกปีอยู่แล้ว กรมโยธาธิการและผังเมืองได้แนะนำให้เจ้าของอาคารให้ผู้ตรวจสอบอาคารที่เคยตรวจสอบเข้าดำเนินการ ตามคู่มือสำรวจความเสียหายขั้นต้นของโครงสร้างอาคารหลังจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวของกรมโยธาธิการและผังเมือง ในกรณีที่ผู้ตรวจสอบอาคาร
ไม่สามารถตรวจสอบอาคารได้ ทางกรมโยธาธิการและผังเมืองมีผู้ตรวจสอบอาคารที่ขึ้นทะเบียน จำนวนมากกว่า 2,600 ราย สามารถค้นหาผู้ตรวจสอบอาคารได้ผ่านเว็บไซต์กรมโยธาธิการและผังเมือง ปัจจุบันกรมโยธาธิการและผังเมือง เปิดสายด่วนสำหรับขอรับคำปรึกษาและแจ้งเหตุที่หมายเลข 1531 / 02 299 4191 และ 02 299 4312 ตลอด 24 ชั่วโมง
ทั้งนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้มีหนังสือด่วน สั่งการให้กรุงเทพมหานคร ในฐานะเจ้าพนักงานท้องถิ่น แจ้งให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองอาคารตามมาตรา 32 ทวิ แห่งพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 ได้แก่ อาคารสูง อาคารขนาดใหญ่พิเศษอาคารชุมนุมคน โรงมหรสพ โรงแรมตั้งแต่ 80 ห้องขึ้นไป โรงงานที่มีความสูงมากกว่า 1 ชั้น และพื้นที่ตั้งแต่ 5,000 ตารางเมตรขึ้นไป สถานบริการที่มีพื้นที่ตั้งแต่ 200 ตารางเมตรขึ้นไป อาคารชุดหรืออาคารอยู่อาศัย รวมที่มีพื้นที่ตั้งแต่ 2,000 ตารางเมตรขึ้นไป และป้าย ให้ดำเนินการตรวจสอบสภาพอาคาร โครงสร้างของตัวอาคารและอุปกรณ์ประกอบต่าง ๆ ของตัวอาคาร รายงานผลการตรวจสอบให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นทราบ พร้อมมาตรการควบคุมกรณีพบว่าอาคารมีความชำรุดในระดับต่าง ๆ เพื่อสร้างความมั่นใจต่อผู้พักอาศัยและผู้ใช้อาคาร
อาคารกลุ่มที่ 3 ได้แก่ อาคารบ้านพักอาศัย ตึกแถว ห้องแถว และอาคารทั่วไปในพื้นที่กรุงเทพมหานครกรุงเทพมหานครจะเป็นหน่วยงานรับผิดชอบในการตรวจสอบให้คำแนะนำและให้คำปรึกษาแก่พี่น้องประชาชน
ผ่าน Traffyfondue ซึ่งข้อมูล ณ วันที่ 30 มีนาคม 2568 ได้รับแจ้งทั้งหมด 12,599 เรื่อง และดำเนินการแล้วเสร็จ 10,245 เรื่อง
สำหรับอาคารในต่างจังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว ทางกรมโยธาธิการและผังเมือง ได้สั่งการให้โยธาธิการและผังเมืองจังหวัด ดำเนินการตรวจสอบอาคาร ร่วมกับวิศวกรขององค์ปกครองส่วนท้องถิ่นและวิศวกรอาสาของเอกชนในพื้นที่ ร่วมกันดำเนินการเช่นเดียวกับส่วนกลางและให้คำปรึกษาแก่พี่น้องประชาชนในพื้นที่ โดยสั่งการให้มีการตรวจสอบอาคารสาธารณะ เช่น โรงพยาบาล หรืออาคารหน่วยงานของรัฐ เพื่อให้เกิดความมั่นใจในการใช้อาคาร ปัจจุบันได้มีผลการตรวจสอบอาคารในส่วนจังหวัด 76 จังหวัด จำนวน 595 อาคาร สามารถใช้งานได้ปกติจำนวน 499 อาคาร / มีความเสียหายปานกลาง สามารถใช้งานได้ จำนวน 92 อาคาร / โครงสร้างมีความเสียหายอย่างหนักโดยได้สั่งให้ระงับการใช้งานอาคาร จำนวน 4 อาคาร
สรุปผลการตรวจสอบอาคารที่มีการแจ้งว่าได้รับความเสียหาย ตั้งแต่วันที่ 28 – 30 มีนาคม 2568 ทั้งในกรุงเทพมหานคร และต่างจังหวัด รวมทั้งสิ้น จำนวน 808 อาคาร นอกจากนี้ กรมโยธาธิการและผังเมืองมีช่องทางให้เจ้าของอาคาร ผู้ตรวจสอบอาคาร หรือพี่น้องประชาชน สามารถรับทราบข้อมูลต่าง ๆ ผ่านช่องทางการประชาสัมพันธ์ของกรมฯ สื่อมวลชน โทรทัศน์ วิทยุ หนังสือพิมพ์ และสื่อออนไลน์
สำหรับความคืบหน้าในการดำเนินการรื้อถอนเครนที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว บริเวณริมทางด่วนดินแดง ได้ดำเนินการยึดรั้งส่วนที่เหลือ ค้ำยันพื้น และปิดคลุมส่วน 10 เมตร ให้มีความมั่นคงแข็งแรง และเปิดใช้งานทางด่วนตามปกติแล้ว ตั้งแต่เวลา 05.00 น. ของวันที่ 31 มีนาคม 2568 และสำหรับส่วนที่เหลือ คณะทำงาน ฯ จะประชุมพิจารณากำหนดช่วงเวลาในการรื้อถอนที่ไม่กระทบต่อผู้ใช้ทางด่วนอย่างเร่งด่วนต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ครม.ไฟเขียวแต่งตั้ง บิ๊ก มท. 20 ตำแหน่ง ผู้ว่าฯคนใหม่ 18 จังหวัด-2 ผู้ตรวจราชการ
ที่ประชุม ครม. มีมติอนุมัติตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ เรื่องการแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่างจากการโยกย้ายและเกษียณอายุราชการในสิ้นปีงบประมาณ 2568 รวมทั้งสิ้น 20 ตำแหน่ง ดังนี้
ไฟเขียวจ่ายเยียวยาน้ำท่วมสงขลา 5 แสนครัวเรือน 4.75 พันล้าน
'ก.ช.ภ.จ.' สงขลา เคาะช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย 5.28 แสนครัวเรือน วงเงิน 4.75 พันล้านบาท 'ปลัด มท.' สั่งเร่งเบิกจ่ายให้ถึงมือประชาชนให้เร็วที่สุด
'นายกฯหนู' คิกออฟ ยุติความรุนแรงสตรี ยับยั้งก่อนเกิดเหตุจริง
นายกฯ Kick off นโยบายยุติความรุนแรงสตรี พร้อมทำงานเชิงรุก สร้างความปลอดภัย รับบทบาทผู้หญิงพลังสำคัญของประเทศ
นายกฯ ชี้โยกย้ายทั้งวงรอบและตามความเหมาะสม เป็นเรื่องปกติการบริหารราชการแผ่นดิน
นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการโยกย้ายของกระทรวงมหาดไทยจะมีโยกย้ายนอกฤดูหรือไม่
ช่วยครัวเรือนละ 9 พันบาท หลักเกณฑ์ใหม่เยียวยาผู้อาศัยในพื้นที่น้ำล้อมรอบเกิน 7 วัน แม้ไม่ท่วมบ้าน
นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.มีมติเห็นชอบหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในช่วงฤดูฝน ปี 2568 เพิ่มเติมตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
'ธรรมนัส' เศร้า เจ้าหน้าที่ถูกยิงดับ 2 เจ็บ 1 ที่จังหวัดกระบี่
รองนายกฯ ธรรมนัส แสดงความเสียใจต่อเหตุสลดในศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตร จ.กระบี่ หลังเกิดเหตุยิงจากความขัดแย้งเรื่องแก้แบบโครงการกว่า 8 ล้านบาท ทำให้เจ้าหน้าที่เสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บ 1 ราย พร้อมยืนยันจะช่วยเหลือครอบครัวผู้สูญเสียอย่างสุดความสามารถ


