นักวิชาการธรรมศาสตร์ เผยไทยต้องผลักดัน ‘ความรู้ทางการเงิน’ เป็นวาระแห่งชาติ แก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนพุ่ง-ตัวเลขการออมคนไทยต่ำ รัฐต้องแบกรับภาระงบอุดหนุน-ช่วยเหลือ แนะเร่งจัดทำหลักสูตรความรู้การเงิน ตั้ง ป.1 – ป.ตรี ทันที ไม่ต้องรอรัฐบาลใหม่!
7 เมษายน 2568 - รศ. ดร.วิชัย วิทยาเกียรติเลิศ อาจารย์ประจำภาควิชาคณิตศาสตร์และสถิติ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยจำเป็นต้องผลักดันเรื่องการให้ความรู้ทางการเงิน (Financial Literacy) เป็นวาระแห่งชาติ เพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องคนไทยขาดทักษะทางการเงินพื้นฐาน ไม่มีวินัยทางการเงิน ตลอดจนขาดความรู้ในการออม การลงทุน และการวางแผนชีวิตทางการเงิน ซึ่งทั้งหมดนี้จะช่วยแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือนและหนี้เสีย (NPL) ได้อย่างยั่งยืน
สำหรับการให้ความรู้ทางการเงินดังกล่าว ควรกำหนดเป็นหลักสูตรความรู้ทางการเงินเพื่อชีวิตมั่นคงและยั่งยืน (Financial Literacy for Sustainable Living) บรรจุเป็นวิชาภาคบังคับ ตั้งแต่ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถึงมหาวิทยาลัยชั้นปริญญาตรี รวมระยะเวลา 16 ปีเต็ม เพื่อเปลี่ยนทัศนคติทางการเงินของคนไทยทั้งประเทศ โดยในช่วง ป.1 - ป.3 ควรมุ่งเน้นให้รู้จักเงินออมก่อนใช้ ซึ่งต้องแยกแยะให้เห็นถึง ‘ความจำเป็น’ กับ ‘ความอยาก’ และเริ่มบันทึกรายรับ-รายจ่าย
ขณะที่ การเรียนรู้ในระดับชั้น ป.4 - ป.6 ต้องทำให้นักเรียนเข้าใจว่าดอกเบี้ยคืออะไร และต้องฝึกการวางแผนงบประมาณ พร้อมทั้งเปิดพื้นที่ความเข้าใจองค์ความรู้เรื่องประกันภัย เมื่อเข้าสู่ระดับชั้นมัธยมศึกษา ม.1 - ม.3 ก็สามารถที่จะเสริมสร้างความเข้าใจเรื่อง ‘หนี้ดี-หนี้เสีย’ ดอกเบี้ยเงินกู้ สวัสดิการ เช่น ประกันสังคม กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เป็นต้น
ถัดมาในระดับชั้น ม.4 - ม.6 เรียนรู้สิ่งซับซ้อนขึ้น อย่างเรื่อง ภาษี หุ้น กองทุนรวม สินทรัพย์ดิจิทัล การวางแผนเกษียณ ฯลฯ สุดท้าย คือผู้ที่อยู่ในระดับอุดมศึกษา และอาชีวะ ต้องยกระดับองค์ความรู้เรื่องการวางแผนภาษี การเงินทั้งชีวิต การลงทุนอย่างมีเป้าหมาย และการสร้างรายได้ที่เกิดจากการเป็นเจ้าของทรัพย์สิน (Passive Income) ไปจนถึงการรู้เท่าทันเศรษฐกิจและวิกฤตการเงิน
รศ. ดร.วิชัย กล่าวว่า หนี้ครัวเรือนไทยในไตรมาส 3 ปี 2566 อยู่ที่ 16.5 ล้านล้านบาท หรือ 90.9% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ หรือ GDP ซึ่งสูงติดอันดับต้นๆ ของโลก และสูงต่อเนื่องมาตลอดในระยะ 10 ปีหลัง นอกจากนี้ หนี้สาธารณะของไทยเมื่อปลายปี 2566 อยู่ที่ 10.6 ล้านล้านบาท หรือ 61.4% ของ GDP และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากภาระใช้จ่ายเพื่อสังคมและเศรษฐกิจ ตัวเลขการออมของคนไทยในปี 2566 พบว่า คนไทยออมเฉลี่ยเพียง 7-8% ของรายได้เท่านั้น ซึ่งต่ำกว่าประเทศพัฒนาแล้วหลายเท่า อย่างประเทศ สิงคโปร์ ที่มีอัตราการออมเฉลี่ยเกิน 20% ของรายได้
ทั้งนี้ หากปล่อยสถานการณ์นี้ไว้อีก 5-10 ปี โดยไม่เร่งแก้ไขอะไรเลย จะทำให้ภาครัฐต้องแบกรับภาระเพิ่มขึ้นมหาศาล ทั้งเงินอุดหนุน เงินช่วยเหลือ เงินบำนาญ และภาวะเศรษฐกิจเปราะบางและความเหลื่อมล้ำก็จะถ่างออกอย่างรุนแรงมากกว่าที่เป็นอยู่ ทางออกระยะยาวของเรื่องนี้จึงหนีไม่พ้นการผลักดันเรื่อง Financial Literacy ให้เป็นวาระแห่งชาติ และต้องเริ่มต้นตั้งแต่ระบบการศึกษา เพราะการปลูกฝังพฤติกรรมทางการเงิน ต้องใช้เวลาและความต่อเนื่อง
นักวิชาการธรรมศาสตร์ จึงเสนอว่า หากรัฐและสังคมเห็นถึงความสำคัญและร่วมมือกันลงมือทำอย่างจริงจัง ผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นกับประเทศไทยจะได้คือครัวเรือนและหนี้เสีย (NPL) จะลดลงอย่างต่อเนื่องเพราะประชาชนมีวินัยทางการเงิน ไม่ตกเป็นเหยื่อแชร์ลูกโซ่ หรือเป็นหนี้นอกระบบ คนไทยจะมีทักษะในการวางแผนอนาคตได้ มีเงินออม มีแผนเกษียณ อีกทั้งภาครัฐจะสามารถลดภาระหนี้สาธารณะจากการที่ประชาชนเข้มแข็งทางการเงิน ซึ่งส่งผลต่อเสถียรภาพเศรษฐกิจประเทศระยะยาวโดยตรง
“กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องทำทันทีไม่ต้องรอรัฐบาลใหม่ ไม่ต้องรอใคร เพราะนี่คือการลงทุนสร้างภูมิคุ้มกันให้ประเทศ ลงทุนวันนี้ดีกว่าเสียหายวันหน้า ต้องสร้างคนรุ่นใหม่ที่มีวินัยทางการเงิน รู้จักใช้รู้จักออมรู้จักลงทุนเพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจในระยะยาว” นักวิชาการธรรมศาสตร์ กล่าว.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ห่วง! น้ำลด แต่ความเครียดยัง 'วิกฤต'
นักวิชาการ มธ. ชี้ ระดับน้ำหาดใหญ่ลด แต่ระดับความเครียดยังวิกฤต เสนอบูรณาการจัดระบบช่วยเหลือด้านจิตใจเร่งด่วน แนะเฝ้าระวังผู้ประสบภัย 3 กลุ่ม ห่วงประชาชนเสพข่าวมากอาจเข้าสู่โหมด Survivol Guilt รู้สึกผิดที่ตัวเองรอดแต่คนอื่นไม่รอด ขณะที่ “ธรรมศาสตร์” จับมือวุฒิสภา-หน่วยงานรัฐ-เอกชน จัดทำฐานข้อมูลน้ำท่วมอย่างเป็นระบบระดับประเทศ
นักวิชาการ มธ. หนุนมาตรการ เก็บภาษีนำเข้าสินค้าออนไลน์ตั้งแต่บาทแรก สร้างความเป็นธรรม SME ไทย
นักวิชาการธรรมศาสตร์ ชื่นชม “กรมศุลกากร” เก็บภาษีนำเข้าสินค้าที่ขายผ่านแพลตฟอร์ม E-commerce ทุกชิ้น ตั้งแต่บาทแรก ระบุเป็น
'นักเศรษฐศาสตร์' ชำแหละซื้อหนี้ NPLนโยบายประชานิยม เกิดวิกฤติสถาบันการเงิน หายนะในอนาคต
รศ.ดร.ชิดตะวัน ชนะกุล อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ให้ความเห็นว่า นโยบายซื้อหนี้รายย่อยมองผิวเผินอาจเป็นไปเพื่อแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน แต่ความจริงแล้วจะนำมาซึ่งหายนะ
เปิด 3 หลักสูตรใหม่ผลิตคน SDGs ช่วงชิงความได้เปรียบให้ไทย ลุย Green Economy มูลค่า 300 ล้านล้าน
“ธรรมศาสตร์” ลมใต้ปีกประเทศไทย ประกาศเปิด 3 หลักสูตรใหม่ ผลิตกำลังคนด้าน SDGs ช่วงชิงความได้เปรียบทางเศรษฐกิจ เสริมกำลัง “รัฐ-เอกชน-อุตสาหกรรม” พร้อมลุย Green Economy มูลค่ากว่า 300 ล้า
'ธรรมศาสตร์' ผนึก ASMG ทำแนวทางรักษา H.pylori ระดับอาเซียนใหม่ ช่วยหลายร้อยล้านคนรอด 'มะเร็งกระเพาะ'
ธรรมศาสตร์ ผนึก “ASMG - ผู้เชี่ยวชาญนานาชาติ” จัดทำแนวทางการรักษาเชื้อ H.pylori ระดับภูมิภาคอาเซียนฉบับใหม่ ยกระดับมาตรฐาน – เพิ่มประสิทธิภาพการรักษ
นักวิชาการ ชี้บริจาคโดยเสน่หาไม่มีสิทธิเรียกคืน ยกเว้นใช้ผิดวัตถุประสงค์
นักวิชาการธรรมศาสตร์ แนะตรวจสอบความน่าเชื่อถือ “มูลนิธิ” อย่างง่าย ผ่านฐานทะเบียนข้อมูลกรมการปกครอง-ฐานข้อมูลในระบบ e-Donation ของกรมสรรพากร ชี้หากบริจาค


