
13 เม.ย. 2568 – สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศต่อกรณี “คนไทยกับสงกรานต์ (Soft Power)” กลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,298 คน (สำรวจทางออนไลน์และภาคสนาม) ระหว่างวันที่ 8-11 เมษายน 2568 พบว่า สงกรานต์ปีนี้ ตั้งใจจะเข้าวัด ทำบุญ สรงน้ำพระ ร้อยละ 60.86 จากเหตุการณ์แผ่นดินไหว กลุ่มตัวอย่าง ร้อยละ 67.34 ไม่กังวลกับการท่องเที่ยวช่วงสงกรานต์ (ไม่ค่อยกังวล ร้อยละ 34.44 และไม่กังวล ร้อยละ 32.90) หากสงกรานต์ไทยจะเป็น Soft Power ระดับโลก คิดว่าหัวใจของสงกรานต์ไทย คือ วิธีเล่นน้ำที่สุภาพ สนุก และปลอดภัย ร้อยละ 63.56 ถ้าต้องการให้สงกรานต์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยได้มากขึ้น ภาครัฐควรวางแผนประชาสัมพันธ์ในตลาดต่างประเทศล่วงหน้าอย่างเป็นระบบ ร้อยละ 50.92 สุดท้ายมองว่าปัญหา/อุปสรรคต่อการยกระดับสงกรานต์เป็น Soft Power ระดับโลก คือ กลยุทธ์และทิศทางของรัฐบาลที่ไม่ชัดเจน ร้อยละ 66.46
นางสาวพรพรรณ บัวทอง ประธานสวนดุสิตโพล ระบุว่า “หัวใจของสงกรานต์ไทย” ที่ประชาชนอยากนำเสนอให้ ทั่วโลกรู้จัก คือการเล่นน้ำแบบไทยที่สุภาพ สนุกและปลอดภัย ควบคู่ไปกับรอยยิ้มและบรรยากาศความสนุกสนานแบบไทย ๆ แม้จะเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวในช่วงก่อนเทศกาล แต่ประชาชนส่วนใหญ่ยังไม่รู้สึกกังวลและยังคงวางแผนเดินทางท่องเที่ยวตามปกติ ถือเป็นโอกาสสำคัญทางเศรษฐกิจที่รัฐบาลไม่ควรมองข้าม พร้อมแนะนำให้ภาครัฐเร่งวางแผนประชาสัมพันธ์สงกรานต์ไทยในต่างประเทศอย่างเป็นระบบ หากต้องการยกระดับสงกรานต์ให้เป็น Soft Power ระดับโลกอย่างแท้จริง
ผศ.ดร.อานุภาพ รักษ์สุวรรณ ประธานหลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิต สาขาวิชากฎหมายมหาชนและการบริหารงานยุติธรรม โรงเรียนกฎหมายและการเมือง มหาวิทยาลัยสวนดุสิต กล่าวว่า การสำรวจของสวนดุสิตโพลสะท้อนให้เห็นว่าเทศกาลสงกรานต์ยังคงมีพลังทางวัฒนธรรมที่เข้มแข็งสะท้อนให้เห็นถึงความผสมผสานของมิติทางศาสนา ครอบครัว และความบันเทิง โดยประชาชนยังคงให้ความสำคัญกับเทศกาลสงกรานต์ในฐานะโอกาสพิเศษแห่งปี แม้ว่าจะเพิ่งผ่านเหตุการณ์แผ่นดินไหว ทั้งนี้เทศกาลสงกรานต์สามารถยกระดับเป็น Soft Power ของไทยที่แสดงให้เห็นถึงภาพลักษณ์ทางวัฒนธรรม ค่านิยม และนโยบายที่ดึงดูดความนิยมจากนานาชาติได้ แต่ก็ต้องอาศัยการจัดการเชิงยุทธศาสตร์อย่างจริงจัง โดยเฉพาะด้านการประชาสัมพันธ์ การสนับสนุนกิจกรรมท้องถิ่น และการพัฒนาองค์ประกอบทางวัฒนธรรมให้มีความร่วมสมัยและปลอดภัย อย่างไรก็ตาม อุปสรรคที่สำคัญที่รัฐบาลต้องเร่งแก้ไขคือ “การขาดการวางแผน กลยุทธ์และทิศทางที่ชัดเจนของภาครัฐ” ซึ่งหากได้รับการแก้ไขอย่างเป็นระบบ จะช่วยให้สงกรานต์ไทยกลายเป็นวาระระดับโลกที่สามารถส่งออกอัตลักษณ์ไทยได้ อย่างแท้จริง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ดุสิตโพล' เผยดัชนีการเมืองไทย พ.ย. ตก มหาอุทกภัยหาดใหญ่กดคะแนนรัฐบาล
สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “ดัชนีการเมืองไทย ประจำเดือนพฤศจิกายน 2568” กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 2,208 คน
‘ดุสิตโพล’ ชี้ภูมิใจไทยได้เปรียบสุดในการเลือกตั้ง
“สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “พรรคการเมืองไทย พรรคใดได้เปรียบ” กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 1,794 คน (สำรวจทางออนไลน์และภาคสนาม) ระหว่างวันที่ 19-21 พฤศจิกายน 2568 พบว่า พรรคภูมิใจไทยถือเป็นพรรคที่มีความได้เปรียบมากที่สุดถึง 8 ข้อ
ดุสิตโพลชี้คนพร้อมเลือกตั้งแต่ยังกังวลปัญหาการเมืองซ้ำรอย
“สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “ความพร้อมของพรรคการเมืองกับการเลือกตั้ง” กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 1,174 คน (สำรวจทางออนไลน์และภาคสนาม) ระหว่างวันที่ 4-7 พฤศจิกายน 2568 พบว่า กลุ่มตัวอย่างค่อนข้างพร้อมสำหรับการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในปี 2569 ร้อยละ 56.81
ดุสิตโพลชี้ภาพรวมคนไทยเฝ้าดูแต่ยังไม่มั่นใจต่อการเมืองไทย
สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “ดัชนีการเมืองไทย ประจำเดือนตุลาคม 2568” กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 2,126 คน (สำรวจทางออนไลน์และภาคสนาม) ระหว่างวันที่ 28-31 ตุลาคม 2568 พบว่า กลุ่มตัวอย่างให้คะแนนภาพรวมดัชนีการเมืองไทยประจำเดือนตุลาคม 2568 เฉลี่ย 4.02 คะแนน เท่ากับเดือนกันยายน 2568 ที่ได้ 4.02 คะแนน
โพลชี้ประชาชนชอบ 'คนละครึ่ง'
“สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “คนไทยกับนโยบายลดค่าครองชีพ” กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 1,216 คน (สำรวจทางออนไลน์และภาคสนาม) ระหว่างวันที่ 21-24 ตุลาคม 2568 พบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เข้าร่วมโครงการของภาครัฐที่ช่วยลดภาระค่าครองชีพ คือ คนละครึ่ง
'ดุสิตโพล'ชี้สส.ย้ายพรรคไม่มีผลต่อการตัดสินใจลงคะแนนของประชาชน
“สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “ย้ายพรรค...ย้ายใจประชาชน?” กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 1,117 คน (สำรวจทางออนไลน์และภาคสนาม) ระหว่างวันที่ 14-17 ตุลาคม 2568 พบว่า กลุ่มตัวอย่างมองว่าการย้ายพรรคเป็นเรื่องปกติทางการเมือง เห็นเป็นประจำ

