
20 เม.ย.2568-ดร.สนธิ คชวัฒน์ นักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ชมรมนักวิชาการสิ่งแวดล้อมไทย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Sonthi Kotchawat เรื่อง พายุฤดูร้อนเกิดขึ้นได้อย่างไร?และจะต้องปฏิบัติตัวอย่างไร?ไม่เจอพายุฤดูร้อน
1.ช่วงนี้ประเทศไทยเกิด พายุหมุนฤดูร้อนขึ้นบ่อยครั้ง ทำความเสียหายแก่บ้านเรือนจำนวนมาก พายุฤดูร้อน (summer storms) เกิดขึ้นในฤดูร้อน ช่วงเดือนเมษายนหรือในช่วงก่อนเริ่มต้นฤดูฝน โดยเฉพาะ ในวันที่มีอากาศร้อนอบอ้าวและมีความชื้นบรรยากาศสูง ส่วนใหญ่เกิดขึ้นในพื้นที่ที่อยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตรจะมีหย่อมความกดอากาศต่ำมาปกคลุมเนื่องจากมีความร้อนจากดวงอาฑิตย์แผ่ลงมามากขึ้นทำให้มีอุณหภูมิสูงขึ้น อากาศที่มีอุณหภูมิสูงจะเก็บกักความชื้นได้มากกว่าปกติ อากาศเหนือพื้นดินที่ร้อนและชื้นจะลอยสูงขึ้นในแนวดิ่งจากผิวโลกและไปรวมตัวกันเป็นไปเมฆคิวมูโลนิมบัส(เป็นเมฆที่มีลัก ษณะหนาสูงทึบในแนวตั้ง ก่อตัวจากไอน้ำในบรรยากาศ)บนท้องฟ้าจำนวนมาก
2.ขณะที่มีอากาศเย็นจากแผ่นดินใหญ่เคลื่อนลงมาเป็นช่วงๆรวมทั้งมีลมจากตะวันตกเฉียงใต้และลมจากตะวันออกเฉียงใต้พัดเข้ามาปกคลุมบริเวณดังกล่าวหอบเอาความชื้นจากทะเลและอากาศที่เย็นกว่าก่อให้เกิดการปะทะกัน ของมวลอากาศร้อนและมวลอากาศเย็น ทำให้อากาศเกิดความแปรปรวนและยกตัวขึ้นย่างรุนแรงและรวดเร็ว เกิดการหมุนเวียนของอากาศเป็น พายุฤดูร้อนมีฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรงและฝนตกหนัก
3.จากสถิติที่ผ่านมาพายุฤดูร้อนเริ่มเกิดเร็วและถี่ขึ้น ลักษณะการเกิดพายุหมุน ในฤดูร้อนจะเกิดในวันที่อากาศร้อนอบอ้าวและมีความชื้นสูง ท้องฟ้ามีเมฆมาก
4. การจัดการ ความปลอดภัยจากพายุฤดูร้อนและการหลีกเลี่ยงฟ้าผ่าสามาร ถดำเนินการได้
4.1.ฟังข่าวสารจากราชการหากอยู่ในพื้นที่ ที่คาดว่าอาจจะถูกพายุฝน จะต้องเตรียมอพยพออก และเตรียมหยิบกระเป๋าฉุกเฉินออกไปด้วย หากได้ยินเสียงฟ้าร้อง ฟ้าผ่า ให้รีบหาที่หลบภัยทันที
4.2.หลีกเลี่ยงพื้นที่สูงต่างๆเช่น ยอดเขาหรือภูเขา หรือเสาไฟฟ้า เพราะฟ้าจะผ่าสิ่งที่อยู่ใกล้ที่สุดเสมอ ยิ่งอยู่สูงจากท้องฟ้ามากเท่าไร ก็จะยิ่งอยู่ใกล้กับฟ้าผ่ามากขึ้นเท่านั้น
ระหว่างพายุ
4.3. อยู่ในที่กำบังที่ปิดมิดชิด หากอยู่ใกล้ถังน้ำไหลหรือใกล้ภูเขา เมื่อฝนตก หนักต้องรีบอพยพออกทันที อย่าคุยโทรศัพท์ ปิดโทรทัศน์ ปิดคอมพิวเตอร์ หากเกิดฟ้าผ่าจะลงที่อุปกรณ์ไฟฟ้าก่อนเสมอ
4.4.พบว่าตัวเองติดอยู่ในพายุโดยไม่คาดคิด ให้รีบลงไปที่ระดับที่ต่ำกว่าโดยเร็วที่สุด และหมอบลงให้ต่ำที่สุดเท่าที่จะทำได้บนพื้นด้วยการทรงตัวโดยใช้เท้าเท่านั้น
4.5.ห้ามพิงผนังคอนกรีตหรือยืนบนพื้นคอนกรีต เพราะไฟฟ้าสามารถผ่านเข้าไปได้ง่าย
4.6.หากติดอยู่ข้างนอก อย่านอนราบกับพื้น อาจจะโดนกระแสน้ำพัดได้ง่ายขึ้นแม้ว่าฟ้าผ่าจะไม่เข้าโดยตรงก็ตาม
4.7.อยู่ให้ห่างจากรั้วลวดหนาม สายไฟฟ้า รั้ว หรืออุปกรณ์ไฟฟ้าใดๆ ที่สามารถนำไฟฟ้าได้
เมื่อพายุผ่านไป
4.8.อย่าออกไปอย่างน้อย 30 นาทีหลังจากได้ยินเสียงฟ้าร้องเป็นครั้งสุดท้าย
4.9.ติดตามสภาพอากาศและเลื่อนหรือยกเลิกกิจกรรมกลางแจ้งเมื่อคาดว่าจะมีพายุฝนฟ้าคะนอง ฟ้าผ่าสามารถเกิดขึ้นได้ไกลถึง 10 ไมล์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นักวิชาการ มธ. วิเคราะห์กระแสเลือกตั้ง ชี้ผลโพล ‘คนกรุงเกือบครึ่งยังลังเล’ พบได้ไม่บ่อย
นักวิชาการธรรมศาสตร์ ระบุพบไม่บ่อย กรณีโพลสะท้อนกระแสการเมือง “คนกรุง” เกือบครึ่งยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือกใคร-พรรคใด เชื่อจุดตัดสำคัญอยู่
ดร.กิตติธัช สอนพวกเท้าราน้ำ 'การทำลายให้สิ้นสภาพ' ไม่ใช่การบุกไปยึดครองกัมพูชา
นักวิชการ อธิบายชัดการทำลายให้สิ้นสภาพ ไม่ใช่การบุกไปยึดครองกัมพูชา หรือทำลายกองทัพกัมพูชาแบบเบ็ดเสร็จ
ยกเลิก MOU 'เจ้ากรมแผนที่ทหาร-นักวิชาการ' สะท้อนต่างมุม
วงเสวนาไทย–กัมพูชาสะท้อนต่างมุม “เจ้ากรมแผนที่ทหาร” ชี้ปัญหาเขตแดนเป็นมรดกยุคอาณานิคม ย้ำ MOU คือกลไกแก้ปัญหาที่สั่งสมกว่า 20 ปี ขณะที่ “สว.ชิบ” เปิด 8 เหตุผล กมธ.วุฒิสภา หนุนยกเลิก MOU 2544 ป้องกันไทยเสียผลประโยชน์ทางทะเล
นักวิชาการ มธ. มองเลือกตั้งหน้า ‘พรรคประชาชน’ โดดเดี่ยว อำนาจต่อรองไหลกลับเพื่อไทย
นักวิชาการธรรมศาสตร์วิเคราะห์ผลจากการยุบสภา ชี้สมการการเมืองหลังเลือกตั้งมีแนวโน้มทำให้พรรคประชาชนโดดเดี่ยว สูญเสียอำนาจต่อรองในการจัดตั้งรัฐบาล ขณะที่บทบาทต่อรองมีโอกาสไหลกลับไปอยู่ที่พรรคเพื่อไทย ท่ามกลางการแข่งขันของการเมือง 3 ขั้ว
ยังไม่ใช่เวลาเจรจาสันติภาพ นักวิชาการ มธ. ชี้ต้องปกป้องอธิปไตยก่อน แนะวิธีสื่อสารเชิงรุกสู้กัมพูชา
นักวิชาการธรรมศาสตร์ ระบุขณะนี้ยังไม่ใช่ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการพูดคุยเจรจาสันติภาพกับกัมพูชา แต่ปลายทางคือต้องเจรจาบนโต๊ะ ชี้ไทยต้องปกป้องอธิปไตยไปจนสถานการณ์กลับสู่ปกติก่อนแล้ว
นักวิชาการ มธ. หนุนเพิ่มสมทบประกันสังคม แนะรัฐลดภาษีช่วยผู้ประกอบการ
นักวิชาการธรรมศาสตร์ เห็นด้วยปรับเพิ่มเงินสมทบประกันสังคม ระบุต้องแยกส่วนระหว่าง “ประสิทธิภาพในการบริหาร-การเพิ่มเงินสมทบ” เพราะสองเรื่องพัฒนาไปพร้อมกัน

