คนไทยห่วงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา บานปลาย กระทบเสถียรภาพรัฐบาล

15 มิ.ย. 2568 – “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ “เรื่องที่ส่งผลต่อเสถียรภาพของรัฐบาล” กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 1,146 คน (สำรวจทางออนไลน์และภาคสนาม) ระหว่างวันที่ 10-13 มิถุนายน 2568 พบว่า ข่าวที่คนสนใจมากที่สุดในช่วงนี้ คือ สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ร้อยละ 40.97 เนื่องจากเป็นข่าวที่มีผลกระทบต่อประเทศโดยตรง กังวลว่าจะเกิดสงคราม เป็นห่วงความปลอดภัยของทหารและประชาชนที่อยู่ตามแนวชายแดน ฯลฯ รองลงมาคือเรื่องการปรับ ครม. ร้อยละ 17.05 โดยเรื่องที่คิดว่าจะส่งผลต่อเสถียรภาพของรัฐบาลมากที่สุด คือ สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ร้อยละ 42.70 รองลงมาคือ การปรับ ครม. ร้อยละ 30.51 และแจกเงิน 10,000 บาท ร้อยละ 10.98

นางสาวพรพรรณ บัวทอง ประธานสวนดุสิตโพล ระบุว่า ผลโพลสะท้อนว่าความสนใจของประชาชนครอบคลุมทั้งความมั่นคง เศรษฐกิจ การเมือง และสิ่งแวดล้อม ขณะเดียวกันประชาชนยังจับตาการปรับ ครม. และนโยบายแจกเงิน ซึ่งส่งผลต่อทั้งความเป็นอยู่และความเชื่อมั่นต่อรัฐบาลอย่างมีนัยสำคัญ โดยเรื่องสถานการณ์ชายแดนและการจัดทัพภายในรัฐบาลเป็นปัจจัยชี้วัดเสถียรภาพในสายตาประชาชน หากไม่สามารถคลี่คลายความขัดแย้งก็อาจกลายเป็นจุดเปลี่ยนทางการเมืองได้

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ภาวินี รอดประเสริฐ โรงเรียนกฎหมายและการเมือง มหาวิทยาลัยสวนดุสิต กล่าวว่า เรื่องร้อนแรงที่คนไทยทั้งประเทศให้ความสนใจมาเป็นอันดับหนึ่ง ไม่พ้นสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนอกจากจะห่วงเรื่องของภาวะสงคราม และความปลอดภัยทั้งของทหารและประชาชนตามแนวชายแดนแล้ว ก็น่าจะเป็นผลมาจากท่าทีของรัฐบาลไทยที่ตอบโต้ทางกัมพูชาอย่างไม่เป็นที่น่าพอใจของประชาชน และท่าทีการตอบโต้เป็นไปในลักษณะประนีประนอมกับกัมพูชามากไป ไม่มีวิธีการตอบโต้ที่เด็ดขาด จึงทำให้ประชาชนหันมาสนใจในประเด็นนี้จำนวนมาก เกิดกระแสรักชาติ และความสามัคคีช่วยเหลือสนับสนุนทหารตามแนวชายแดน เพราะสามารถทำให้ประชาชนเชื่อมั่นกับการปฏิบัติหน้าที่เพื่อรักษาอธิปไตยของประเทศได้ จากประเด็นการทำหน้าที่ของฝ่ายรัฐบาลในสถานการณ์ชายแดนไทยกัมพูชา และการดำเนินนโยบายแจกเงินหมื่นที่ล่าช้าทำให้รัฐมนตรีบางกระทรวงไม่เป็นที่นิยม ถูกวิพากษ์วิจารณ์และเกิดกระแสต่อต้านจากประชาชน ผลจากหลายเรื่องดังกล่าว จึงเป็นที่น่าจับตามองว่าหลังการปรับคณะรัฐมนตรี รัฐบาลจะมีวิธีการใดที่จะเรียกกระแสความนิยม และความเชื่อมั่นจากประชาชนคืนกลับมา 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ดุสิตโพล' เผยดัชนีการเมืองไทย พ.ย. ตก มหาอุทกภัยหาดใหญ่กดคะแนนรัฐบาล

สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “ดัชนีการเมืองไทย ประจำเดือนพฤศจิกายน 2568” กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 2,208 คน

‘ดุสิตโพล’ ชี้ภูมิใจไทยได้เปรียบสุดในการเลือกตั้ง

“สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “พรรคการเมืองไทย พรรคใดได้เปรียบ” กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 1,794 คน (สำรวจทางออนไลน์และภาคสนาม) ระหว่างวันที่ 19-21 พฤศจิกายน 2568 พบว่า พรรคภูมิใจไทยถือเป็นพรรคที่มีความได้เปรียบมากที่สุดถึง 8 ข้อ

ดุสิตโพลชี้คนพร้อมเลือกตั้งแต่ยังกังวลปัญหาการเมืองซ้ำรอย

“สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “ความพร้อมของพรรคการเมืองกับการเลือกตั้ง” กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 1,174 คน (สำรวจทางออนไลน์และภาคสนาม) ระหว่างวันที่ 4-7 พฤศจิกายน 2568  พบว่า กลุ่มตัวอย่างค่อนข้างพร้อมสำหรับการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในปี 2569 ร้อยละ 56.81

ดุสิตโพลชี้ภาพรวมคนไทยเฝ้าดูแต่ยังไม่มั่นใจต่อการเมืองไทย

สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “ดัชนีการเมืองไทย ประจำเดือนตุลาคม 2568” กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 2,126 คน (สำรวจทางออนไลน์และภาคสนาม) ระหว่างวันที่ 28-31 ตุลาคม 2568 พบว่า กลุ่มตัวอย่างให้คะแนนภาพรวมดัชนีการเมืองไทยประจำเดือนตุลาคม 2568 เฉลี่ย 4.02 คะแนน เท่ากับเดือนกันยายน 2568 ที่ได้ 4.02 คะแนน

โพลชี้ประชาชนชอบ 'คนละครึ่ง'

“สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “คนไทยกับนโยบายลดค่าครองชีพ” กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 1,216 คน (สำรวจทางออนไลน์และภาคสนาม) ระหว่างวันที่ 21-24 ตุลาคม 2568  พบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เข้าร่วมโครงการของภาครัฐที่ช่วยลดภาระค่าครองชีพ คือ คนละครึ่ง

'ดุสิตโพล'ชี้สส.ย้ายพรรคไม่มีผลต่อการตัดสินใจลงคะแนนของประชาชน

“สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “ย้ายพรรค...ย้ายใจประชาชน?” กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 1,117 คน (สำรวจทางออนไลน์และภาคสนาม) ระหว่างวันที่ 14-17 ตุลาคม 2568  พบว่า กลุ่มตัวอย่างมองว่าการย้ายพรรคเป็นเรื่องปกติทางการเมือง เห็นเป็นประจำ