'ภูมิธรรม' ขึงขัง! ขู่เด้งกราวรูด หากเกียร์ว่าง​-เอี่ยวขบวนการค้ายาเสพติด

“ภูมิธรรม” ​จ่อเด้ง​พร้อมเอาผิดไล่ตั้งแต่ ผบ.ตร. ปลัด มท.ยันผู้ว่าฯ​ -​ ผู้การจังหวัด​ ลงมากราวรูด หากใส่เกียร์ว่าง​-เอี่ยวขบวนการค้ายาเสพติด​ ขีดเส้น 3 เดือน​หลังชาวบ้านถาม​รบ.เอาจริงหรือไม่ เล็งใช้กลไกกำนัน-ผญบ.-ชรบ.สร้างพลังเครือข่ายตาสับปะรด​ ​ลุยแก้ปัญหาร่วมกัน

17 กรกฎาคม 2568 - เมื่อเวลา 13.30 น. ที่ห้องมัฆวานรังสรรค์ สโมสรทหารบก ถ.วิภาวดี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการแทนนายกฯ เป็นประธานเปิดปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติด "No​ Drugs No Dealers" ผนึกกำลังชุมชนปลอดยาเสพติด​ โดยมีนพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกฯ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง

นายภูมิธรรม​ กล่าวว่า ปัจจุบันเราเผชิญกับอาชญากรรมจากภายนอกประเทศ ซึ่งเข้าสู่ประเทศไทยตามแนวชายแดนไม่ว่าจะเป็นการค้ามนุษย์​ ขบวนการคอลเซ็นเตอร์ การค้าสิ่งของผิดกฎหมาย​ และที่สำคัญคือการลักลอบขนยาเสพติดเข้าประเทศ ยาเสพติดถือเป็นภัยร้ายแรงที่บ่อนทำลายประเทศมาอย่างยาวนาน แม้ว่าไทยจะไม่ได้เป็นต้นกำเนิดของยาเสพติด แต่เราก็ได้รับผลกระทบจากการลักลอบนำเข้ายาเสพติด จากประเทศเพื่อนบ้านบริเวณชายแดนภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเส้นทางของยาเสพติดเหล่านี้​ มีทั้งถูกนำเข้าเผยแพร่ระบาดในพื้นที่หมู่บ้านและชุมชนหรือถูกส่งต่อไปยังปลายทางประเทศที่ 3 แต่ไม่ว่า ปลายทางของยาเสพติดจะไปสิ้นสุดที่ใดก็ตาม ยาเสพติดสร้างปัญหาทำลายชีวิตของคนในหมู่บ้านและชุมชน​ ทำลายความสงบสุขและความปลอดภัยของชุมชน​ อีกทั้งทำลายโอกาสดีๆของคนรุ่นลูกรุ่นหลานต่อไปไม่รู้จบ
ปัญหายาเสพติดจึงถือเป็นวาระแห่งชาติที่ต้องขจัดออกไปบนผืนแผ่นดินไทย และรัฐบาลทำงานอย่างเข้มข้นจริงจังและต่อเนื่อง โดยมาตรการและปฏิบัติการต่างๆ ทั้งการกำหนดแผนปฏิบัติการป้องกันปราบปรามและแก้ไขปัญหายาเสพติดปีงบประมาณ พ.ศ 2568 ซึ่งจะมีการกำกับติดตามและประเมินผลตรวจชี้วัดอย่างต่อเนื่อง

นายภูมิธรรม กล่าวว่า ขณะที่ปฏิบัติการ Seal Stop Safe ผลึกกำลังในพื้นที่ 14 จังหวัด 51 อำเภอชายแดน เริ่มภารกิจตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา ทำให้ได้เห็นถึงความสำเร็จในการปฏิบัติงานอยู่เสมอ ซึ่งตนขอชื่นชมและขอบคุณผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกคน นอกจากนี้ยังมีการดำเนินงานแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่ต้นแบบธวัชบุรีโมเดล​และท่าวังผาโมเดล จนรัฐบาลได้ขยายผลไปสู่พื้นที่ 10 จังหวัดนำร่อง นอกจากนี้ยังมีการดำเนินงานแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่ต้นแบบ​ ซึ่งไม่ว่าจะเป็นกรุงเทพฯ และในภูมิภาคทั้ง 76 จังหวัด 878 อำเภอโดยจะต้องอาศัยความร่วมมือของข้าราชการทุกหน่วยที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การดำเนินการเข้าถึงประชาชน เราจึงจะสามารถขจัดปัญหายาเสพติดไปได้อย่างแท้จริง

นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า และเมื่อ 4 ก.ค.ที่ผ่านมา ตนได้มอบนโยบายและได้เน้นย้ำถึงเรื่องการแก้ไขปัญหายาเสพติด​แก่ผู้บริหารผู้ว่าราชการจังหวัดและข้าราชการสังกัดกระทรวงมหาดไทย​ ซึ่งเป็นฟันเฟืองหลักในการนำนโยบายของรัฐบาล​ ไปปฏิบัติให้ประชาชนได้รับรู้เข้าใจ และสัมผัสได้ถึงความตั้งใจในการดำเนินงานของรัฐบาล​ ผ่านกลไกในระดับจังหวัด อำเภอ​ ตำบล​ หมู่บ้าน​ทั่วประเทศ และในวันนี้รัฐบาลจะผลักดันวาระการแก้ไขปัญหายาเสพติดซึ่งเป็นวาระแห่งชาติ​ ให้เป็นวาระของจังหวัด​ อำเภอ​ หมู่บ้านชุมชนทั่วประเทศ ผ่านปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติด ผนึกกำลังชุมชนปลอดยาเสพติด

“โดยมีเป้าหมายและตัวชี้วัดว่าภายใน 3 เดือนนี้ หมู่บ้านและชุมชนที่มีปัญหาเรื่องยาเสพติดจะต้องเริ่มแก้ไขปัญหา วางกลไกของชุมชนและประกาศตนเป็นหมู่บ้านชุมชนปลอดยาเสพติด​ ที่จะต้องไม่มีทั้งผู้ค้าและผู้​เสพ​ การดำเนินการดังกล่าวจำเป็นต้องอาศัยการทำงานร่วมกันของจังหวัด และฝ่ายปกครอง นำโดยผู้ว่าราชการจังหวัด เจ้าหน้าที่ตำรวจ​ นำโดยผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขนำโดยนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด เพื่อขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหายาเสพติดให้ครบถ้วนในทุกมิติ นับตั้งแต่การป้องกันไม่ให้มียาเสพติดเข้าสู่ประเทศ การปราบปรามการแพร่ระบาดของยาเสพติดในชุมชนตลอดจนการฟื้นฟูคนดีกลับสู่สังคม ผมจึงขอเน้นย้ำให้ทุกภาคส่วนเร่งรัดดำเนินการ” นายภูมิธรรม กล่าว

นายภูมิธรรม กล่าวว่า นอกจากนี้ตนอยากให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้การตำรวจภูธรจังหวัดจับมือกันร่วมการดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดให้เห็นผลเป็นรูปธรรมที่ชัดเจน หรือจะต้องบูรณาการร่วมกันกับทุกหน่วยงาน โดยเฉพาะในด้านการประสานแลกเปลี่ยนข้อมูลการวางกำลังร่วม และการจัดกำลังเพื่อสนับสนุนภารกิจ​ ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดจะต้องเป็นผู้ว่า CEO ที่เป็นเจ้าภาพในการบริหารจัดการแก้ไขปัญหายาเสพติด​ บนข้อมูลจากสถานการณ์จริง แน่นอนว่าแต่ละจังหวัดก็มีบริบทของพื้นที่ที่แตกต่างกันไป ดังนั้นผู้ว่าฯ จะต้องรู้สภาพปัญหาและเงื่อนไขความท้าทายที่เกิดขึ้นในจังหวัดของตน พร้อมทั้งนำปัญหามาเป็นแนวทางแก้ไขที่ตอบโจทย์พื้นที่

นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า นอกจากนี้อยากให้มีการทบทวนเป้าหมายการดำเนินการที่เกิดขึ้นในทุกระยะ เพื่อให้การขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การทำงานเป็นเอกภาพ​ และมีประสิทธิภาพสูงสุด การดำเนินงานจะต้องใช้กลไกของกระทรวงมหาดไทยที่มีความเข้าใจ และเข้าถึงประชาชนมาดำเนินงานให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ตั้งแต่ระดับจังหวัด อำเภอ​ ตำบลและหมู่บ้าน ซึ่งจะต้องมีการมอบหมายภารกิจให้นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน​เข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินงานเรื่องยาเสพติด โดยการดำเนินงานจะมีทั้งการสกัดกั้น​ เฝ้าระวัง​ ตรวจตรา​ และเอ็กซเรย์ทุกพื้นที่ โดยเฉพาะในพื้นที่สถานบันเทิง หากพบผู้เสพยาเสพติดขอให้นำเข้าสู่การบำบัดรักษา นอกจากนี้ยังต้องมีการนำกลไกปกครองมาใช้ในการหาข่าวในพื้นที่อีกด้วย เพื่อขยายผลไปสู่การจับกุมผู้ค้ายาเสพติด และนำตัวมาดำเนินการตามกฎหมาย ตลอดจนต่อยอดไปสู่การทำลายเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดทั้งระบบต่อไป​ โดยเฉพาะผู้ค้ารายใหญ่

นายภูมิธรรม กล่าวว่า สำหรับการบำบัดรักษาฟื้นฟูผู้เสพยาเสพติด ขอให้ยึดหลักผู้เสพคือผู้ป่วย ที่ต้องได้รับการรักษาซึ่งมีหลายรูปแบบ และจำแนกตามกลุ่มของผู้ป่วย​ พร้อมกันนี้ขอให้ทางจังหวัดให้ความสำคัญกับการดำเนินงานฟื้นฟูสภาพทางสังคม เพื่อให้ผู้ป่วยที่ผ่านการบำบัดได้มาฟื้นฟูสมรรถนะและศักยภาพให้สมบูรณ์มาก ก่อนที่จะกลับเข้ามาใช้ชีวิตในสังคมโดยไม่กลับมาใช้ยาเสพติดซ้ำอีก โดยสามารถนำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ซึ่งเป็นภาคส่วนที่ใกล้ชิดกับประชาชน เข้ามามีส่วนร่วมและสนับสนุนการดำเนินงานในจุดนี้ อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญส่งผลให้การแก้ไขปัญหายาเสพติดเกิดผลสัมฤทธิ์ คือพลังของประชาชน ซึ่งภาครัฐจะต้องเข้าไปมีส่วนสนับสนุนให้ประชาชน​รวมพลังกันเพื่อต่อต้านยาเสพติด ตนขอให้กำนันและผู้ใหญ่บ้านทุกคนรับเป็นผู้นำ​ โดยอาจมีการกำหนดกติการ่วมหรือ​ ธรรมนูญ​หมู่บ้าน​ เรื่องการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดให้ทุกคนรับทราบและปฏิบัติตาม

“ในการเดินทางไปหมู่บ้านหลายครั้ง ผมพบกับประชาชนซึ่งประสบความทุกข์เรื่องยาเสพติด​ แต่สิ่งหนึ่งที่เขากังวลใจคือ ตกลงรัฐบาลเอาจริงหรือไม่ ถ้ารัฐบาลเอาจริงเขาก็พร้อมที่จะร่วม ซึ่งปัญหาที่ผ่านมานอกจากปัญหาของอาชญากรที่สร้างอาชญากรรมเข้ามาแล้ว มีปัญหาที่เกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่ของรัฐในหลายส่วนหลายระดับ ทำให้ปัญหายาเสพติดไม่สามารถบรรลุผลได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปกครอง​ หรือแม้แต่กำนันผู้ใหญ่บ้านบางส่วน ซึ่งการที่จะเป็นผู้ดำเนินการจัดการ กลับเป็นผู้มีส่วนร่วมสนับสนุนหรือแม้กระทั่งทำเองโดยตรง ในศูนย์กลางการทำงานของพวกเราขณะนี้มีรายชื่อของระดับเจ้าหน้าที่ต่างๆตั้งแต่หมู่บ้านขึ้นมา เพราะฉะนั้นวันนี้เราได้เห็นแล้วว่าปัญหายาเสพติดกระทบกับเรารุนแรงมากแค่ไหน และทุกข์ของประชาชนที่เห็นวันนี้รุนแรงมากจนกลายเป็นสิ่งที่กล่าวถึงกันไปทั่วประเทศ อยากให้คิดว่าหากในครอบครัวมีลูกหลานติดยาเสพติด กลายเป็นอาชญากร เราได้เห็นภาพที่พ่อยิงลูกยิงแม่ สิ่งเหล่านี้ไม่เคยเกิดขึ้นในสังคมไทย ปัญหาเกิดขึ้นเพียงว่าอยากได้เงินนำไปซื้อยาเสพติดมาเสพ ลุกลามเข้าไปหมด ปัญหายาเสพติดถือเป็นปัญหาพื้นฐาน แต่เวลาพูดสิ่งที่เขารู้สึกมากและสะเทือนใจคือลูกหลานเขาติดยาเสพติด และเขารู้หมดว่าในหมู่บ้านใครค้าใครๆใครสนับสนุน” นายภูมิธรรม กล่าว

นาย​ภูมิธรรม​ กล่าวต่อว่า​ วันนี้ที่เรียกมาทั้งหมดที่มาพูดคุยกัน คืออยากขอความร่วมมือให้ช่วยกันแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง​ ตนไม่เชื่อว่าพลังของส่วนราชการทั้งหมดหรือคนไทยทั้งหมดจะแก้ไขปัญหายาเสพติดไม่ได้ ปัญหามีอยู่อย่างเดียวคือเราเอาจริงหรือเปล่า​ เรากล้าที่จะทำแล้วหรือยัง ปัญหาเราเยอะแยะมากสิ่งที่เราได้พูดถึง อยากให้กำลังใจคนที่ทำงาน หลายส่วนกล้าหาญมาก กล้ากระทำสิ่งต่างๆ โดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย ใช้อำนาจหน้าที่ในการทำงาน เพราะฉะนั้นเราต้องควบคุมพวกเรากันเอง และร่วมมือกับชาวบ้านรวมพลังกัน ตนคิดว่าปัญหายาเสพติด​แก้ได้ ฉะนั้นในการทำเหล่านี้เรามีทั้งคุณทั้งโทษ ถ้าพบว่าใครเมินเฉยนิ่งเฉย ทั้งระดับจังหวัดผู้การ ผู้ว่า นายอำเภอ ถ้าเราไม่รักพื้นที่ชุมชนที่เราอยู่ แล้วเราจะไปรักใครได้ เราไม่รักประเทศชาติแล้วเราจะอยู่กันอย่างไร

“เพราะฉะนั้นถ้ามีปัญหาอย่างน้อยในช่วง 3 เดือนนี้​ จะแสดงให้เห็นและจะทำต่อไป ติดขัดที่ตรงไหนถ้าไม่เปลี่ยนแปลงเรามีมาตรการ จับดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ผู้ว่าฯ​ นายอำเภอ​ ผู้กำกับ ผู้การจังหวัด ถ้ามาถึงระดับชาติ ท่านปลัดกระทรวงมหาดไทยและท่านผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ถ้าไม่เคร่งครัดในการดำเนินการต้องรับผิดชอบด้วย ถ้าสามารถแก้ไขปัญหาและมีส่วนร่วมในการดำเนินการ ขั้นแรกจะย้ายออกจากพื้นที่​ และดำเนินคดีตามสภาพความผิดที่เกิดขึ้น ไม่ต้องรอให้กระบวนการต่างๆ เป็นตัวชี้วัดที่มีอยู่และการข่าวเรามีทั้งหมด เราดำเนินการไปแล้วและสามารถที่จะยืนยันได้ ตรงนี้ผมไม่ได้คิดว่าจะเป็นเรื่องการมาข่มขู่กัน เรามีทั้งถุงมือกำมะหยี่และกำปั้นเหล็กในการแก้ไขปัญหา เรามีทั้งคนที่ทำดี ให้สามารถทำหน้าที่ให้ดีขึ้น ใครที่มีส่วนร่วมได้รับผลประโยชน์และมีปัญหาเราจะจัดการทันที โดยการย้ายออกจากพื้นที่ จึงอยากฝากให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องรับรู้รับทราบว่ามาตรการเหล่านี้ เป็นมาตรการที่ทำให้เห็นและจะใช้ความเข้มข้นนี้ต่อเนื่องต่อไป และจะมีมาตรการไปถึงส่วนที่เกี่ยวข้องและมากกว่า Seal Stop Safe 14 จังหวัด นั่นคือ อำเภอดำเนินการทั่วประเทศ​ เพราะเราพบยาเสพติดจำนวนมากในพื้นที่จังหวัดภาคกลาง ภาคเหนือตอนล่าง เพราะฉะนั้นเราไม่ได้ดูชายแดนอย่างเดียวชายแดนเป็นเรื่องสกัดกั้นไม่ให้สิ่งต่างๆเกิดขึ้น“ นายภูมิธรรม กล่าว

นาย​ภูมิธรรม​ กล่าวว่า ถ้าผู้ว่าฯหรือผู้การฯใกล้เกษียณไม่มาทำงาน​ หรือไม่ใกล้เกษียณแต่มีส่วนร่วมในการรักษาผลประโยชน์ เราพบอยู่หลายจุดหลายจังหวัด นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปเราจะทำเรื่องนี้อย่างจริงจัง​ สำหรับตนเป็นรมว.มหาดไทย ตนได้ข้อมูลการข่าวจากเรื่องยาเสพติดมีมาก ถ้าพบว่ามีแหล่งต่างๆ ที่สร้างปัญหาก็จะย้ายเลย ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร จังหวัด อำเภอหรือผู้ที่มีอิทธิพลเกี่ยวข้องทั้งหมด นี่คือนโยบายที่เคร่งครัดที่จะดำเนินการใน 3 เดือนนี้ให้ได้ผลอย่างชัดเจน ​ กำนัน​ ผู้ใหญ่บ้านสามารถสนธิกำลังกับ ชรบ.ที่มีอยู่ถึง 6-7 แสนคน ซึ่งล้วนเป็นแบบผู้ที่อยู่ในหมู่บ้าน​ ตนเชื่อว่าเขารู้หมด​เพราะฉะนั้นกำนันผู้ใหญ่บ้านและชุด ชรบ.ถือเป็น​กำลังสำคัญ และเป็นหัวใจในการแก้ไขปัญหา ถ้าท่านรวมตัวกันสร้างพลังมวลชนขึ้นมาให้เป็นตาสับปะรด​ในทุกพื้นที่ ตนเชื่อว่าจะได้ค้นพบแหล่งต่างๆ ได้มากก็ฝากความหวังไว้ที่พลังของชุมชนให้มีส่วนร่วม จึงจะสามารถแก้ไขปัญหาวิกฤตได้เองส่วนราชการจะสนับสนุนส่งเสริมให้เต็มที่ เข้มงวดเข้มข้นกับผู้บังคับบัญชาในระดับต่างๆ

นายภูมิธรรม​ กล่าวต่อว่า​ อยากให้กำนันผู้ใหญ่บ้านและชุดชรบ. และเครือข่ายชุมชน เข้าไปมีส่วนในการสกัดกั้น ไม่ให้มีผู้ค้ายาเสพติด ลักลอบในชุมชนและเฝ้าระวัง ไม่ให้มีผู้ที่เสพยาเสพติดและผู้มีอาการคุ้มคลั่ง การดำเนินการเหล่านี้ จะช่วยให้ชุมชนปลอดภัย​และอยากให้มีการปรับรูปแบบ การดำเนินงานให้เป็นจังหวัดสีขาว เช่น ธวัชบุรีโมเดลที่เกิดผลสำเร็จ พร้อมทั้งอยากให้จังหวัดที่อยู่บริเวณชายแดน นำรูปแบบการดำเนินการ ดังกล่าวไปปรับใช้ให้เหมาะกับสภาพปัญหาและบริบทของพื้นที่ ทั้งนี้ รัฐบาลให้ความสำคัญกับปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติด ผนึกกำลังชุมชนปลอดยาเสพ ซึ่งมีผู้ว่าราชการจังหวัด ตำรวจภูธรชุดแรกผู้บังคับการ ตำรวจภูธร ทุกจังหวัด​ต้องร่วมกันทำงานอย่างใกล้ชิด​ เพื่อให้การดำเนินงานครอบคลุมในทุกมิติทุกพื้นที่ และดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ส่วนปฏิญญายับยั้งยาเสพติดที่ผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด ได้แสดงพลังร่วมกันวันนี้ จะเป็นคำมั่นสัญญาที่ทั้งสองฝ่ายจะร่วมกันแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่ของตนเอง ให้ประสบความสำเร็จ เพราะสุดท้ายผลลัพธ์คือความสำเร็จของประชาชน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ส้มขีดเส้นโหวตก่อนปีใหม่!

'อนุทิน' สวนเพื่อไทย ถ้าทำงานห่วย คนตั้งก็แย่สิ ยุครัฐบาล 'อิ๊งค์ - เศรษฐา' ผลโพลชี้ชัดนั่งแท่นอันดับ 2 ทิ้งห่าง พท. หัวเราะให้คะแนนตัวเอง 'เดี๋ยวจะหาว่าคุย'

กองกำลังผาเมือง ยึดยาบ้า 1 ล้านเม็ด พื้นที่ อ.ไชยปราการ

กองกำลังผาเมือง สกัดกั้นขบวนการลักลอบลำเลียงยาเสพติดแนวชายแดน ยึดยาบ้าอีก 1,008,000 เม็ด ในพื้นที่ อำเภอไชยปราการ จังหวัดเชียงใหม่

รัฐบาลยกเว้น 'ค่าไฟ' พ.ย. 420 ล้าน เยียวยาน้ำท่วมสงขลา

นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การเยียวยาและฟื้นฟูพื้นที่ประสบอุทกภัย โดยเฉพาะในจังหวัดสงขลา เดินหน้าไปอย่างมาก โดยปัจจุบันสามารถนำประชาชนกลับบ้านไปได้กว่า 90%

'อนุทิน' สวน พท. ใครทำงานห่วย ยุครัฐบาลนิด-อิ๊งค์ ติดโพลอันดับ 2

'อนุทิน' สวนเพื่อไทย ถ้าทำงานห่วย คนตั้งก็แย่สิ ยุครัฐบาล 'อิ๊งค์ - เศรษฐา' ผลโพลชี้ชัดนั่งแท่นอันดับ 2 ทิ้งห่าง พท. หัวเราะให้คะแนนตัวเอง 'เดี๋ยวจะหาว่าคุย'

รวบ 2 โจ๋คาด่าน! ยึดของกลางปืนเถื่อน ยาบ้า-ไอซ์ เห็นตร.ตั้งด่าน รีบโยนทิ้งข้างทาง

พ.ต.ท.อาคม ตาใคร้ สารวัตรจราจร สถานีตำรวจภูธรกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ขณะตั้งด่านตรวจสามารถจับกุมตัวคนร้ายวัยรุ่น2คนคาด่านของกลางมีทั้งยาบ้า ยาไอซ์และปืนเถื่อน

กองกำลังผาเมือง เด็ดหัวแก๊งยานรก 8 ศพ ในช่วงเกือบ 2 เดือน ยึดยาบ้า 49 ล้านเม็ด

กองกำลังผาเมือง สกัดกั้นการลักลอบลำเลียงยาเสพติด ยึดยาบ้าคาด่านตรวจผาหงส์ 1,500,000 เม็ด ในพื้นที่ อำเภอไชยปราการ จังหวัดเชียงใหม่