นักวิชาการ มธ. ชี้ชัด ศพทหารเขมรไม่เสี่ยงโรคระบาด ไวรัสตายหลัง 48 ชม.

นักวิชาการธรรมศาสตร์ยืนยันศพทหารกัมพูชาที่กองเกลื่อนชายแดนไทย ไม่ก่อโรคระบาด เปรียบเทียบกับเหตุการณ์สึนามิ ระบุ ไวรัสสลายตัวใน 48 ชั่วโมง ส่วนกลิ่นเหม็นเกิดจากแบคทีเรียย่อยสลายศพ ไม่ใช่พาหะโรคร้าย แนะประชาชน อย่าตื่นตระหนกเกินจริง พร้อมเสนอวัดคุณภาพน้ำเพื่อความสบายใจในระยะต่อไป

6 สิงหาคม 2568 - จากกรณีที่ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ได้รับรายงานสถานการณ์ปัญหากลิ่นศพทหารกัมพูชาบริเวณแนวชายแดน จากการที่รัฐบาลและกองทัพกัมพูชา ได้ปล่อยศพทหารจำนวนมากไว้ในพื้นที่การสู้รบโดยไม่จัดการหรือกำจัดอย่างเหมาะสมซึ่งอาจส่งผลกระทบทั้งต่อสุขภาพและสภาพจิตใจของทหารไทยที่อยู่ในพื้นที่แนวหน้า รวมถึงอาจมีประชาชนเกิดการหวั่นวิตกต่อมลภาวะต่างๆที่เป็นพิษ เช่น การแพร่ระบาดของเชื้อโรคที่มากับลำน้ำ สำหรับผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียง

นพ.ทศนัย พิพัฒน์โชติธรรม อาจารย์ประจำภาควิชานิติเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) เปิดเผยว่า สถานการณ์ศพชายแดนไม่ได้มีความน่ากังวลอย่างที่คิด จึงไม่อยากให้ประชาชนเกิดความหวั่นวิตกเกินความเป็นจริง เพราะหากเปรียบเทียบกับเหตุการณ์ภัยพิบัติสึนามิ เมื่อปี 2547 แม้จะมีผู้คนเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ทว่าก็ไม่ได้นำมาสู่การแพร่ระบาดของเชื้อโรค หรือมลพิษที่ส่งผลกระทบร้ายแรงต่อสิ่งแวดล้อมแต่อย่างใด

นพ.ทศนัย กล่าวว่า สิ่งที่หลงเหลือภายในร่างกายมนุษย์หลังจากเสียชีวิตคือไวรัสและแบคทีเรีย กรณีของไวรัสโดยส่วนใหญ่เมื่อระยะเวลาผ่านไปเกินกว่า 48 ชั่วโมงก็จะสูญสลายหายไป อีกทั้งไม่สามารถสติดเชื้อจากระยะไกลได้ ต้องมีการสัมผัสแบบใกล้ชิดเท่านั้น และกรณีของแบคทีเรีย คือสิ่งที่ทำให้ร่างกายเกิดการย่อยสลายจนเน่าเปื่อย โดยจะสิ่งกลิ่นเหม็นให้กับผู้คนที่อยู่ใกล้ ซึ่งสิ่งนี้กำลังส่งผลกระทบต่อทหารไทยที่อยู่ด่านหน้าบริเวณชายแดนกัมพูชาอยู่ ณ ขณะนี้

“หลังจากเสียชีวิตศพจะเน่ามากๆ อยู่ราว 3 -5 วัน หรือที่ภาษาทั่วไปเรียกว่าขึ้นอืด ทำให้หลายวันที่ผ่านมาผู้คนกล่าวถึงกันเยอะในเรื่องกลิ่นหลังจากนั้นเมื่อโดนแดดศพก็จะเริ่มแห้ง ในระยะนี้กลิ่นจะเริ่มลดลงมากกว่าช่วงแรก แต่จะมีเรื่องของหนอนแมลงที่เข้ามาตอมศพ ราว 1 – 2 สัปดาห์ แล้วเนื้อเยื่อจะค่อยๆ สลายๆ จนเริ่มเห็นกระดูก เมื่อเดินทางเข้าสู่สัปดาห์ที่ 3 – 4 ศพจะเริ่มแห้งเหลือแต่โครงกระดูก กลิ่นก็จะค่อยๆ หายไป เว้นแต่อยู่ในระยะที่ใกล้มากๆ ภาวะกลิ่นเหม็นเหล่านี้ส่วนใหญ่เกิดจากไฮโดรเจนซัลไฟด์ (H₂S) หรือที่รู้จักกันในชื่อก๊าซไข่เน่าจากกระบวนการย่อยสลาย หากเกิดในพื้นที่ปิด อับลม ไม่มีอากาศถ่ายเทอาจเกิดอันตรายแก่คนที่อยู่ใกล้ได้ แต่ตรงพื้นที่ชายแดนเข้าใจว่าเป็นที่โล่ง มีอากาศถ่ายเท จึงไม่น่ากังวลอะไร” นพ.ทศนัย กล่าว

นักวิชาการธรรมศาสตร์ ยังกล่าวต่อไปด้วยว่า แม้จะมีหนอน แมลง จำนวนมากที่ตอมศพ แต่ส่วนตัวมองว่าไม่เสี่ยงต่อการเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อโรคผ่านพาหะเหล่านั้น เพราะหากเชื่อในสมมติฐานที่ว่าผู้ที่จะมาเป็นทหารอาชีพย่อมมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ไม่มีประวัติเป็นโรคติดต่อร้ายแรงก็ไม่มีความน่ากังวล เพราะเมื่อศพเน่าสลายก็จะมีเชื้อแบคทีเรียเช่นเดียวกับสิ่งมีชีวิตอื่นที่เสียชีวิตและเน่าเหมือนกัน ซึ่งพบได้ในสิ่งแวดล้อมทั่วไป

ทั้งนี้ การเสียชีวิตจากการปะทะสู้รบแตกต่างจากการเสียชีวิตจากโรคติดต่อ เช่น การเกิดอหิวาตกโรคในอดีตที่เป็นเชื้อก่อโรคและมีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมากในพื้นที่เดียวกันและไม่ได้มีการจัดการอย่างถูกสุขลักษณะ ก็จะสุ่มเสี่ยงต่อการมีพาหะอย่างแมลง หรือหนอนที่นำไปสู่การแพร่ระบาดเชื้อโรคในวงกว้าง รวมไปถึงการปนเปื้อนลงสู่แม่น้ำ จนประชาชนไม่สามารถอุปโภค บริโภคน้ำได้ อย่างไรก็ตาม การปนเปื้อนเชื้อโรคลงสู่แม่น้ำจนส่งผลกระทบในวงกว้างก็อาจจะต้องเกิดจากจำนวนศพที่กระจุกตัวอยู่ในพื้นที่เดียวกัน และไม่ห่างไกลจากแม่น้ำมากนัก ซึ่งในกรณีของชายแดนกัมพูชาไม่ได้เป็นเช่นนั้น

“จึงอยากจะฝากไปยังประชาชนว่าไม่ต้องวิตกกังวลมากเกินไป และหากเจอศพที่อยู่ในพื้นที่ซึ่งสามารถจัดการได้ ก็สามารถจัดการได้ผ่านวิธีการที่ดีที่สุดคือการกลบฝังหรือโรยปูนขาว แต่ในแง่ของหน่วยงานรัฐ ส่วนตัวยอมรับว่ามีความเห็นใจ เพราะเหตุการณ์ไม่ได้เกิดขึ้นในไทย หากเกิดในพื้นที่เรา หน่วยงานก็จะต้องเข้าไปจัดการอยู่แล้ว จึงเห็นใจว่าหน่วยงานและผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ที่ไม่สามารถดำเนินการจัดการศพข้ามเขตแดนได้ นอกจากการแจกหน้ากาก N 95 เพื่อบรรเทามลภาวะจากกลิ่นเน่าเหม็น หรือแจ้งเฝ้าระวังในมิติอื่นๆ ให้ประชาชนทราบ อย่างไรก็ตาม แม้จะบอกว่ายังไม่มีสิ่งที่น่ากังวล แต่เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่น ในระยะถัดไปอาจจะจัดให้มีการตรวจวัดคุณภาพน้ำหรือยืนยันด้วยข้อมูลเชิงประจักษ์ในด้านอื่นๆ เพื่อความสบายใจได้” นักวิชาการธรรมศาสตร์ กล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ชายจีนเหยียบกับระเบิดขณะลักลอบเข้าไทย กกล.บูรพารีบส่งทีมเก็บกู้ช่วยชีวิต

เช้ามืด ตชด. ได้ยินเสียงระเบิดจากป่าละเมาะใกล้ถนนศรีเพ็ญ ตรวจด้วยโดรนพบชายจีน คาดลักลอบเข้าประเทศ บาดเจ็บจากทุ่นระเบิดในพื้นที่บ้านหนองจาน กกล.บูรพาส่งชุดเก็บกู้เข้าช่วยทันที ก่อนประสาน ตม. ดำเนินขั้นตอนตามกฎหมายต่อไป

‘นายพลสีส้ม’ ชี้เปรี้ยงเกมเขมรเดินหลายชั้น ไทยเสี่ยงเสียเปรียบบนเวทีโลก

อดีตรองเลขาฯ สมช. วิเคราะห์ท่าที-ยุทธศาสตร์กัมพูชา ทั้งการไปยูเอ็น การสร้างสถานการณ์ชายแดน และผลต่อความชอบธรรมของไทย เตือนต้องเท่าทันเล่ห์กล ไม่เช่นนั้นไทยอาจตกเป็นฝ่ายถูกกล่าวหาในสายตานานาชาติ

ชาวบ้านชำราก อึดอัดสถานการณ์ชายแดน กระทบทำมาหากิน อยากให้รบกันไปเลยจะได้จบ

ชาวบ้านชำราก กังวลไทย-เขมร อาจปะทะรอบ 2 แต่อยากให้รบให้จบ เหตุทำกินลำบาก ด้านเอกชนขนเครื่องจักรแรงงานทำถนนชายแดนชำรากฟรี!!

โรงเรียนชายแดนซ้อมอพยพหลบภัยหากเกิดเหตุปะทะ

ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา จ.สุรินทร์ ซึ่งพบว่ายังคงตึงเครียด โดยเฉพาะเรื่องทหารกัมพูชาที่แหล่งข่าวระบุว่า มีการเสริมกำลังขึ้นมาประชิดชายแดนเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ประชาชนชายแดนที่ทราบข่าว

'อนุทิน' กำชับให้นำคณะ AOT ลงพื้นที่เป็นพยานเก็บกู้ทุ่นระเบิด 'บิ๊กเล็ก' เชื่อมีปะทะกัมพูชา

นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ในที่ประชุม นายอนุทิน ชาญวีรกูล

'นักวิชาการ' ชี้นายกฯป้องอธิปไตย ไม่ทำไทยเสี่ยง 'รัฐบริวาร'

รศ.ดร.ชิดตะวัน ชนะกุล อาจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์และการเมือง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ไทยไม่ใช่ “รัฐบริวาร”!