นักศึกษาอยากเห็น มหาลัยฯพัฒนาหลักสูตรให้ตรงตลาดงานยุคใหม่

17 ส.ค. 2568 – “สถาบันศิโรจน์ผลพันธิน” ร่วมกับ “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นนักศึกษามหาวิทยาลัย 31 แห่ง (จากทั้งหมด 36 แห่ง) ที่เป็นสมาชิกที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย เรื่อง “มหาวิทยาลัยในทัศนะนักศึกษา” กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 956 คน เป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 1-5 (สำรวจทางออนไลน์และภาคสนาม) ระหว่างวันที่ 4-10 สิงหาคม 2568 พบว่า สิ่งที่นักศึกษาอยากให้มหาวิทยาลัยไทยพัฒนามากที่สุด คือ การพัฒนาหลักสูตรให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดยุคใหม่ ร้อยละ 54.55 รองลงมาคือสนับสนุนงบประมาณจัดกิจกรรมนักศึกษา ร้อยละ 51.16 โดยนักศึกษาอยากให้มหาวิทยาลัยเปิดโอกาสให้มีส่วนร่วมในการเสนอความคิดเห็นและพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ของมหาวิทยาลัย ร้อยละ 61.90 รองลงมาคือ นำเสนอรูปแบบวิธีการจัดกิจกรรมนักศึกษา ร้อยละ 56.72

นางสาวพรพรรณ บัวทอง ประธานสวนดุสิตโพล ระบุว่า “การศึกษาไทยต้องปลดล็อกจากกรอบเดิม” ผลสำรวจชี้ว่านักศึกษาต้องการมีส่วนร่วมในการออกแบบการเรียน กิจกรรม เทคโนโลยี สภาพแวดล้อม พร้อมมองว่า AI คือโครงสร้างพื้นฐานใหม่ของการเรียนรู้ และเรียกร้องให้สื่อสารอย่างเปิดกว้างระหว่างผู้บริหาร คณาจารย์ และนักศึกษา ในยุคที่การเมืองและสังคมขับเคลื่อนด้วยเสียงประชาชน มหาวิทยาลัยจึงควรรับฟังเสียงนักศึกษาเปิดพื้นที่ให้เกิดการมีส่วนร่วมและปรับบทบาทมหาวิทยาลัยให้ทันโลกและทันใจผู้เรียนอย่างแท้จริง

รองศาสตราจารย์ ดร.ชนะศึก นิชานนท์ รองอธิการบดีฝ่ายบริหาร วิจัย และนวัตกรรม มหาวิทยาลัย สวนดุสิต กล่าวว่า ผลการสำรวจ“มหาวิทยาลัย” ในทัศนะนักศึกษา สะท้อนให้เห็นว่าประเด็นเชิงยุทธศาสตร์ที่ต้องให้ความสำคัญเป็นลำดับแรก คือ การพัฒนาหลักสูตรให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงานยุคใหม่ ซึ่งแสดงถึงความจำเป็นในการมีระบบติดตามและวิเคราะห์แนวโน้มอาชีพและทักษะที่ตลาดต้องการอย่างต่อเนื่อง พร้อมปรับโครงสร้างหลักสูตรให้มีความยืดหยุ่น ทันสมัย และสอดคล้องกับพลวัตทางสังคม เศรษฐกิจ และเทคโนโลยี ขณะเดียวกัน การบริหารจัดการที่เปิดโอกาสให้มีการรับฟังความคิดเห็นและสร้างความร่วมมือกับนักศึกษาอย่างเป็นระบบ จะช่วยให้กระบวนการออกแบบนโยบายและกำหนดทิศทางการพัฒนาเป็นไปอย่างแม่นยำ ครอบคลุมทั้งมิติด้านวิชาการ การพัฒนากิจกรรม และการบริหารจัดการ เพื่อเสริมสร้างระบบนิเวศการเรียนรู้ที่เอื้อต่อการพัฒนาศักยภาพผู้เรียนอย่างรอบด้าน และนำไปสู่ความยั่งยืนของมหาวิทยาลัยในระยะยาว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ดุสิตโพล' เผยดัชนีการเมืองไทย พ.ย. ตก มหาอุทกภัยหาดใหญ่กดคะแนนรัฐบาล

สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “ดัชนีการเมืองไทย ประจำเดือนพฤศจิกายน 2568” กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 2,208 คน

‘ดุสิตโพล’ ชี้ภูมิใจไทยได้เปรียบสุดในการเลือกตั้ง

“สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “พรรคการเมืองไทย พรรคใดได้เปรียบ” กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 1,794 คน (สำรวจทางออนไลน์และภาคสนาม) ระหว่างวันที่ 19-21 พฤศจิกายน 2568 พบว่า พรรคภูมิใจไทยถือเป็นพรรคที่มีความได้เปรียบมากที่สุดถึง 8 ข้อ

ดุสิตโพลชี้คนพร้อมเลือกตั้งแต่ยังกังวลปัญหาการเมืองซ้ำรอย

“สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “ความพร้อมของพรรคการเมืองกับการเลือกตั้ง” กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 1,174 คน (สำรวจทางออนไลน์และภาคสนาม) ระหว่างวันที่ 4-7 พฤศจิกายน 2568  พบว่า กลุ่มตัวอย่างค่อนข้างพร้อมสำหรับการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในปี 2569 ร้อยละ 56.81

ดุสิตโพลชี้ภาพรวมคนไทยเฝ้าดูแต่ยังไม่มั่นใจต่อการเมืองไทย

สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “ดัชนีการเมืองไทย ประจำเดือนตุลาคม 2568” กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 2,126 คน (สำรวจทางออนไลน์และภาคสนาม) ระหว่างวันที่ 28-31 ตุลาคม 2568 พบว่า กลุ่มตัวอย่างให้คะแนนภาพรวมดัชนีการเมืองไทยประจำเดือนตุลาคม 2568 เฉลี่ย 4.02 คะแนน เท่ากับเดือนกันยายน 2568 ที่ได้ 4.02 คะแนน

โพลชี้ประชาชนชอบ 'คนละครึ่ง'

“สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “คนไทยกับนโยบายลดค่าครองชีพ” กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 1,216 คน (สำรวจทางออนไลน์และภาคสนาม) ระหว่างวันที่ 21-24 ตุลาคม 2568  พบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เข้าร่วมโครงการของภาครัฐที่ช่วยลดภาระค่าครองชีพ คือ คนละครึ่ง

'ดุสิตโพล'ชี้สส.ย้ายพรรคไม่มีผลต่อการตัดสินใจลงคะแนนของประชาชน

“สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “ย้ายพรรค...ย้ายใจประชาชน?” กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 1,117 คน (สำรวจทางออนไลน์และภาคสนาม) ระหว่างวันที่ 14-17 ตุลาคม 2568  พบว่า กลุ่มตัวอย่างมองว่าการย้ายพรรคเป็นเรื่องปกติทางการเมือง เห็นเป็นประจำ