ทบ. อำนวยความสะดวก ICRC เข้าเยี่ยมเชลยศึกกัมพูชา ครั้งที่ 2 ตามมาตรฐานสากล

กองทัพบกอำนวยความสะดวกให้คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (ICRC) เข้าเยี่ยมเชลยศึกกัมพูชาครั้งที่ 2 อย่างโปร่งใส ตามหลักปฏิบัติและมาตรฐานสากล
 
5 กันยายน 2568 - กองทัพบก โดยความร่วมมือกับกระทรวงการต่างประเทศ ได้อำนวยความสะดวกให้คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (International Committee of the Red Cross: ICRC) ประจำกรุงเทพฯ เข้าเยี่ยมเชลยศึกกัมพูชา จำนวน 18 นาย ณ สถานที่ควบคุมตัวในพื้นที่รับผิดชอบของกองทัพภาคที่ 2 เมื่อวันที่ 4 ก.ย.ที่ผ่านมา
 
ICRC ในฐานะองค์กรมนุษยธรรมระหว่างประเทศ มีภารกิจโดยตรงในการดูแลเชลยศึก ปฏิบัติงานด้วยมาตรฐานสากล ยึดมั่นในความเป็นกลาง และได้รับการยอมรับจากประชาคมโลก การเข้าเยี่ยมครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 2 ซึ่งดำเนินไปตามขั้นตอนปกติของ ICRC โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อตรวจสอบสภาพความเป็นอยู่ของเชลยศึก และทำหน้าที่เป็นสื่อกลางในการประสานการติดต่อระหว่างเชลยศึกกับครอบครัว ผ่านกลไกของ ICRC
 
ในโอกาสดังกล่าว กองทัพบกได้อำนวยความสะดวกให้เจ้าหน้าที่ ICRC เข้าพบและพูดคุยกับเชลยศึกอย่างอิสระ ตามที่ ICRC แสดงความประสงค์ ทั้งนี้ การปฏิบัติของกองทัพบกยังคงยึดมั่นในหลักมนุษยธรรมระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะพันธกรณีตามอนุสัญญาเจนีวา ค.ศ. 1949 ซึ่งประเทศไทยเป็นภาคีมาโดยตลอด
 
นอกจากนี้ กองทัพบกยังได้ปฏิบัติตามแนวทางที่ ICRC ให้ความสำคัญ โดยไม่อนุญาตให้คณะผู้แทนฝ่ายไทยหรือสื่อมวลชนเข้าร่วมสังเกตการณ์ระหว่างการพบปะพูดคุยกับเชลยศึก เพื่อสะท้อนถึงความโปร่งใสและความร่วมมืออันแน่นแฟ้นระหว่างฝ่ายไทยกับองค์กรมนุษยธรรมระหว่างประเทศ
 
สำหรับประเด็นการส่งคืนเชลยศึก คณะ ICRC ได้ระบุว่า ในอนาคตเมื่อฝ่ายไทยและกัมพูชาสามารถบรรลุข้อตกลงร่วมกันในการปล่อยตัวเชลยศึก ทางคณะ ICRC ยินดีทำหน้าที่เป็นตัวกลางและเป็นพยานในระหว่างการส่งมอบ โดยยังคงยึดมั่นในจุดยืนแห่งความเป็นกลาง ซึ่งเป็นมาตรฐานการทำงานที่มุ่งเน้นด้านมนุษยธรรม โดยไม่เลือกปฏิบัติหรือสนับสนุนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นการเฉพาะ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ปิดด่าน 5 เดือน การค้าชายแดนคลองใหญ่เสียหาย 5 พันล้าน สินค้าเถื่อนทะลัก วอนรัฐบาลเยียวยา

เศรษฐกิจการค้าชายแดนคลองใหญ่ทรุดหนัก เสียหาย 5 พันล้าน ท่องเที่ยววูบปิดท่าเรือหนี ผู้ประกอบการจี้รัฐเยียวยา หลังปิดด่าน 5 เดือน ขณะสินค้าเถื่อนทะลักเข้า-ออก

นายกฯ ลั่นหากเกิดเหตุชายแดนหลังยุบสภา รัฐบาลรักษาการยังมีอำนาจสนับสนุนเต็มที่

นายกฯ ย้ำไม่มีปัจจัยบอกเหตุ ก็ต้องมีแผนป้องกัน โดยเฉพาะตามแนวชายแดน มั่นใจผู้ว่าฯ ดูแลได้ หากอยู่ในช่วงยุบสภา ปฎิเสธข่าวการเจรจาที่ออตตาวาไม่เป็นผล

กรมพระศรีสวางควัฒนฯ พระราชทานเงิน 121 ล้าน สร้างรั้วชายแดน บังเกอร์ หลุมหลบภัย ถนนตรวจการณ์

ศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เสด็จออก ณ ห้องประชุม ชั้น 11 อาคารอัครราชกุมารี โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ พระราชทานพระวโรกาสให้ คุณหญิง

นายกฯ สั่งผู้ว่าฯ 7 จว.ชายแดนไทย-กัมพูชา ต้องมีความพร้อมเต็มที่ ดูแล-อพยพประชาชน

นายกฯ มอบนโยบายชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน สั่งผู้ว่าฯ 7 จังหวัดเตรียมแผนดูแลประชาชน เผย ยืมสตาร์ลิงค์ทหารไว้สื่อสารแล้วเปรียบ ”ชรบ.“ เป็นกำแพงมหึมาดูแลแนวหลังให้ปลอดภัย - สร้างความสบายใจให้ทหารไม่ต้องพะวงหลังห่วงครอบครัว ชี้ ใครคิดรบกับไทยคงประสาทไม่ดี

โถ! ทภ.2 เรียกร้องกัมพูชาหยุดวางทุ่นระเบิด ย้ำธำรงความสัมพันธ์ฉันมิตรเพื่อนบ้าน

รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า จากการรวบรวมหลักฐานเชิงประจักษ์ในพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา ที่พื้นที่เกิดเหตุเมื่อปี พ.ศ. 2568

หวิดเสียขาที่ 8! ทภ.2 แจงทุ่นระเบิดที่ห้วยตามาเรีย เป็นของเก่ากัมพูชาวางไว้

กองทัพภาคที่ 2 ชี้แจงเหตุการณ์เสียงระเบิดในพื้นที่ห้วยตามาเรีย มีรายละเอียดดังนี้ เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2568 เวลา 14.20 น. หน่วย ร้อย.ร.1622 ซึ่งปฏิบัติภารกิจในพื้นที่