คนชายแดนไทย-กัมพูชา ร้อง 'กมธ.สวัสดิการฯ' เร่งเยียวยาผู้ได้รับกระทบสู้รบ

"คนชายแดนไทย-กัมพูชา" ร้อง “กมธ.สวัสดิการฯ” เร่งเยียวยาผู้ได้รับกระทบสู้รบไทย-กัมพูชา ขอคนไทยอย่าปั่นกันเอง เหตุคนในพื้นที่เดือดร้อนหนักมา 4 เดือนแล้ว ด้าน "วรรณวิภา" จี้ ครม.พิจารณาเป็นเรื่องด่วน

25 กันยายน 2568 - เมื่อเวลา 10.30 น. ที่รัฐสภา น.ส.วรรณวิภา ไม้สน สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การสวัสดิการสังคม สภาผู้แทนราษฎร รับข้อเสนอแนะ จากนายอนุวัฒน์ หวังพนาวงศ์ ตัวแทนประชาชนที่ได้รับผลกระทบ จากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา

โดยนายอนุวัฒน์ กล่าวว่า วันนี้ตนได้นำความเดือดร้อนของประชาชนมายื่นต่อกมธ.และกลุ่มผู้มีอำนาจที่ต้องดำเนินการใดๆในพื้นที่บ้าง เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาบริเวณชายแดนไทยกัมพูชาเราเจอสถานการณ์หลายอย่าง ซึ่งเมื่อมีข้อพิพาทคนชายแดนก็ตื่นตระหนก และเมื่อมีการเคลื่อนไหวหรือการพิจารณาเรื่องต่างๆ คนชายแดนก็จะต้องตื่นตัวอยู่ตลอดเวลาและเป็นคนกลุ่มแรกที่ได้รับผลกระทบ และเมื่อมีการปะทะคนชายแดน ก็เป็นคนกลุ่มแรกที่จะต้องออกจากพื้นที่และต้องปิดกิจการ แต่เมื่อเหตุการณ์สงบลงมาตรการต่างๆก็ยังคงใช้อยู่ ซึ่งคนชายแดนส่วนมากได้รับผลกระทบต่อเรื่องนี้ ทั้งรายได้และวิถีชีวิตความเป็นอยู่ สิ่งที่ทุกคนต้องเจออาจจะอยู่ในจุดที่ห่างไกลจากความเข้าใจของทุกคน ทุกครั้งที่สื่อลงพื้นที่ก็นำเสนอในมุมมองของตัวเอง

นายอนุวัฒน์ กล่าวต่อว่า วันนี้จึงนำข้อมูลความเดือดร้อนของคนบริเวณชายแดนไม่ว่าจะมีความคิดเห็นอย่างไรก็นำมาเสนอทั้งหมด โดยแบ่งออกเป็น 4 เรื่อง 1.เรื่องเศรษฐกิจและปากท้อง หลายครอบครัวเผชิญปัญหา เช่น ไม่มีรายได้เลย ตลอดระยะเวลา 4 เดือนจนรถถูกยึด และต้องดรอปเรียนลูกเพราะไม่มีเงินส่งเรียน ขณะที่กลุ่มคนขับรถโดยสารสาธารณะรถก็ถูกยึด

"พื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชาเป็นพื้นที่อ่อนไหวในทุกๆด้าน ในขณะนี้แต่ผู้นำครอบครัวต้องทยอยออกจากพื้นที่เพื่อหาช่องทางในการครองชีพ พื้นที่ตรงนี้ก็จะเหลือแค่กลุ่มเปราะบางคือเด็กและคนชรา"นายอนุวัฒน์ กล่าว

นายอนุวัฒน์ กล่าวต่อว่า 2. ความมั่นคงความอุ่นใจต่อการดูแลคนในพื้นที่ต่อไป 3.สุขภาพจิตของคนในพื้นที่ย่ำแย่มากจากความท้อแท้สิ้นหวังและความไม่แน่นอนทั้งหลาย และ 4.การยั่วยุปลุกปั่นภายในประเทศและต่างประเทศในส่วนต่างประเทศเราไม่สามารถห้ามได้เพราะเกิดจากคนที่อยู่นอกพื้นที่ แต่ในประเทศก็มีการปลุกปั่นเช่นเดียวกัน ซึ่งคนในพื้นที่ ร้องขอให้ชีวิตความเป็นอยู่กลับมา มีการเยียวยาบ้าง เปิดด่าน แต่เมื่อโพสต์ลงไปในโลกโซเชียลกับได้คำตอบว่า เห็นแก่ตัว ขายชาติ พวกเขาอดทนทำทุกอย่าง คนแรกที่อยู่หน้าแนว คนที่สนับสนุนทหารคือกลุ่มพวกนี้ จนถึงทุกวันนี้การเยียวยาไม่ได้ถึงพวกเขาอย่างดีพอ เราได้รับความเดือดร้อนมาแล้ว 4 เดือนเต็ม สิ่งที่รอปัจจุบันนี้เพียงแค่ขอความช่วยเหลือจากคนไทยด้วยกันให้เราได้หายใจหายคอได้คล่องขึ้นบ้างให้มีทิศทางได้มีโอกาสในอนาคตที่สดใสเกิดขึ้นบ้าง หรือถ้าจะมีนโยบายอะไรออกมาก็ควรจะเริ่มดำเนินการได้แล้วเพื่อให้ชีวิตความเป็นอยู่ของคนในพื้นที่ได้ดีขึ้นบ้าง

ด้านนางสาววรรณวิภา กล่าวว่าการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบ ในพื้นที่บริเวณชายแดนไทย กัมพูชานั้นขณะนี้รอเพียงมติของคณะรัฐมนตรี(ครม.)ชุดใหม่ เพราะขณะนี้มีผู้ลงทะเบียนเยียวยาแล้วกว่า 250,000 คน แต่ยังไม่ได้รับการเยียวยาใดๆ ดังนั้น กมธ. จึงต้องเร่งทำหนังสือด่วนไปยังครม. เพื่อให้เร่งพิจารณาเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบบริเวณชายแดนในลำดับต้นๆของการประชุมครม. นัดแรกๆ เพื่อให้เกิดการเยียวยาประชาชนบริเวณชายแดนอย่างเร็วที่สุด

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รัฐบาลยกเว้น 'ค่าไฟ' พ.ย. 420 ล้าน เยียวยาน้ำท่วมสงขลา

นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การเยียวยาและฟื้นฟูพื้นที่ประสบอุทกภัย โดยเฉพาะในจังหวัดสงขลา เดินหน้าไปอย่างมาก โดยปัจจุบันสามารถนำประชาชนกลับบ้านไปได้กว่า 90%

นายกฯ ลั่นหากเกิดเหตุชายแดนหลังยุบสภา รัฐบาลรักษาการยังมีอำนาจสนับสนุนเต็มที่

นายกฯ ย้ำไม่มีปัจจัยบอกเหตุ ก็ต้องมีแผนป้องกัน โดยเฉพาะตามแนวชายแดน มั่นใจผู้ว่าฯ ดูแลได้ หากอยู่ในช่วงยุบสภา ปฎิเสธข่าวการเจรจาที่ออตตาวาไม่เป็นผล

นายกฯ สั่งผู้ว่าฯ 7 จว.ชายแดนไทย-กัมพูชา ต้องมีความพร้อมเต็มที่ ดูแล-อพยพประชาชน

นายกฯ มอบนโยบายชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน สั่งผู้ว่าฯ 7 จังหวัดเตรียมแผนดูแลประชาชน เผย ยืมสตาร์ลิงค์ทหารไว้สื่อสารแล้วเปรียบ ”ชรบ.“ เป็นกำแพงมหึมาดูแลแนวหลังให้ปลอดภัย - สร้างความสบายใจให้ทหารไม่ต้องพะวงหลังห่วงครอบครัว ชี้ ใครคิดรบกับไทยคงประสาทไม่ดี

โถ! ทภ.2 เรียกร้องกัมพูชาหยุดวางทุ่นระเบิด ย้ำธำรงความสัมพันธ์ฉันมิตรเพื่อนบ้าน

รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า จากการรวบรวมหลักฐานเชิงประจักษ์ในพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา ที่พื้นที่เกิดเหตุเมื่อปี พ.ศ. 2568

หวิดเสียขาที่ 8! ทภ.2 แจงทุ่นระเบิดที่ห้วยตามาเรีย เป็นของเก่ากัมพูชาวางไว้

กองทัพภาคที่ 2 ชี้แจงเหตุการณ์เสียงระเบิดในพื้นที่ห้วยตามาเรีย มีรายละเอียดดังนี้ เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2568 เวลา 14.20 น. หน่วย ร้อย.ร.1622 ซึ่งปฏิบัติภารกิจในพื้นที่

นายกฯ​ขอดูพื้นที่ประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉิน​ หลังจว.อื่นกังวลไม่ครอบคลุมเยียวยา 2 ล้าน

ที่บริเวณโถงกลาง ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รมว.พาณิชย์ นำคณะ เข้าพบ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย เพื่อประชาสัมพันธ์การจัดกิจกรรมกระเช้าปีใหม่สินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศา