ทหารลงพื้นที่ทำความเข้าใจชาวบ้าน “หนองจาน- หนองหญ้าแก้ว”เตรียมปักหมุดชั่วคราว ห่างประมาณ25-50 ม. ชี้ดำเนินการรอบคอบ ยืนยันอธิปไตยของไทยอย่างแท้จริง
25 ตุลาคม 2568 - กองทัพภาคที่ 1 โดยศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 1 ขอสรุปสถานการณ์ประจำวันที่ 25 ตุลาคม 2568 ณ เวลา 17.00 น. ในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา จ.สระแก้ว ดังนี้
สถานการณ์ด้านความมั่นคงชายแดน จ.สระแก้ว ฝ่ายไทย บ.หนองจาน มีมวลชนและกลุ่มสื่อมวลชน ประมาณ 20-35 คน ปักหลักทำกิจกรรมแสดงออกถึงความรักชาติหวงแหนอธิปไตย ไม่พบบุคคลสำคัญในพื้นที่ส่วน บ.หนองหญ้าแก้ว ประชาชนในพื้นที่ยังใช้ชีวิตประจำวันตามปกติ
ส่วนฝั่งตรงข้ามฝ่ายกัมพูชา จนท.ทหารและตำรวจ ยังคงมีการตรึงกำลังและจัดกำลังเฝ้าระวังสลับเปลี่ยนเวรยามอย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อเฝ้าติดตามสถานการณ์และความเคลื่อนไหวของฝ่ายไทยอย่างใกล้ชิด ในส่วนของมวลชนชาวกัมพูชายังคงพบการเคลื่อนไหวในพื้นที่ สถานการณ์ทั่วไปเป็นปกติ
การปฏิบัติการที่สำคัญ สืบเนื่องจากการลงนามข้อตกลงของการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (JBC) ไทย – กัมพูชา และคณะกรรมการชายแดนทั่วไป(GBC) ไทย-กัมพูชา เกี่ยวกับการจัดการพื้นที่ชายแดน จ.สระแก้ว โดยกำหนดให้มีการสำรวจร่วมและการวางหลักเขตชั่วคราวในพื้นที่สำคัญระหว่างหลักเขตแดนหมายเลข 42 ถึง 47 นั้น โดยวานนี้ (24 ต.ค.68) กกล.บูรพา โดย ฉก.12 พร้อมด้วย พ.อ.ยุทธพล สุจริต แม่กองสนามสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ลงพื้นที่สร้างความเข้าใจให้ประชาชน บ.หนองจาน และบ.หนองหญ้าแก้ว เกี่ยวกับการกำหนดให้มีการปักหมุดชั่วคราว โดยชี้ให้เห็นถึงความสำคัญ ถือเป็นการกำหนดเขตแดนที่ชัดเจนขึ้น ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับฝ่ายไทย ทั้งนี้จะดำเนินการอย่างรอบคอบเพื่อยืนยันพื้นที่อธิปไตยของไทยอย่างแท้จริง
โดยวันนี้ พ.อ.ยุทธพล สุจริต แม่กองสนามสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ในจะมีการปักหมุดชั่วคราว ซึ่งจากการคำนวณจากหลักหมุดที่ 42 ถึง 47 ต้องทำการวางหมุดชั่วคราวทั้งหมด 838 หมุด ซึ่งจากหลักเขตทั้งสองพื้นที่ต้องปักหมุดทุก 25-50 เมตร เพื่อให้เห็นแนวของแต่ละฝ่ายที่อ้างสิทธิ์ จากนั้นจะเป็นหน้าที่ระดับนโยบาย ที่จะปรับการถือครองพื้นที่ต่อไป
วิธีการดำเนินการต้องปักทั้งสองแนวเพื่อให้เห็นแนวก่อน ซึ่งจะมีการคำนวณในโปรแกรม GPS เมื่อลงพื้นที่จริง หากเดินครบ 25 หรือ 50 เมตรก็จะมีสัญญาณดังขึ้นแล้วก็ปักหมุดชั่วคราว เพื่อให้เห็นแนวของแต่ละฝ่ายที่อ้างสิทธิ์
และหลักหมุดอาจจะมีการทำสัญลักษณ์ เช่นกัมพูชาทาสีแดง ไทยทาสีน้ำเงิน ที่ปักหมุด ซึ่งการลงไปปักหมุด ชั่วคราว จะไปพร้อมกันทั้งสองฝั่ง ไม่ว่าจะยึดตามเส้นสีน้ำเงิน หรือยึดตามเส้นสีแดง
สำหรับการจัดสร้างบังเกอร์และหลุมหลบภัยประชาชน ในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา จ.สระแก้ว ซึ่งได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่ 21 ต.ค.68 ที่ผ่านมา ในการสร้างหลุมหลบภัย จำนวน 3 จุด และบังเกอร์ จำนวน 10 จุด ปัจจุบันได้ดำเนินการก่อสร้างคืบหน้าไปแล้ว ประมาณร้อยละ 30 และได้เริ่มดำเนินการสร้างบังเกอร์เพิ่มเติมตามแผน อีก 2 จุด โดยเริ่มต้นก่อสร้างในพื้นที่ ต.ป่าไร อ.อรัญประเทศ ปัจจุบันก่อสร้างคืบหน้าไปแล้ว ประมาณร้อยละ 70
ทั้งนี้ กองทัพภาคที่ 1 โดยศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 1 จะยังคงเดินหน้าในภารกิจการเก็บกู้ทุ่นระเบิดในพื้นที่ชายแดน จ.สระแก้ว เพื่อคืนพื้นที่ปลอดภัยให้ประชาชนได้ทำกิน ตลอดจนเดินหน้าสร้างบังเกอร์และหลุมหลบภัยประชาชนในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา จ.สระแก้ว ภายใต้โครงการสนับสนุน “กองทุนหทัยทิพย์” กองทัพบก ตามแผนที่กำหนด พร้อมยืนยันความพร้อมในทุกมิติเพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้น รวมทั้งการดูแลความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน และภารกิจปกป้องผืนแผ่นดินของไทยอย่างดีที่สุด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นายกฯ ทุบโต๊ะ! ประเทศมหาอำนาจกดดันไทยหยุดยิงไม่ได้ ต้องไปบอกฝ่ายกัมพูชา
นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณี ที่นายหวัง อี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสาธารณรัฐประชาชนชนจีน ได้คุยโทรศัพท์กับนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
กยท.เตรียมงบกว่า 2 พันล้าน เยียวยาชาวสวนยางได้รับผลกระทบสู้รบชายแดน
การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) เตรียมทุ่มงบกว่า 2,000 ล้าน ช่วยเหลือชาวสวนยาง 9 จังหวัด ที่ไม่สามารถออกไปกรีดยางได้ตามปกติ และได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา รายละ 3,000 บาท รวมสวนยางเสียหายกว่าล้านไร่
กกล.บูรพา บุกค้นบ้านชาวกัมพูชาที่เคยอาศัยอยู่ บ.หนองจาน พบหลักฐานเอี่ยวสแกมเมอร์
กกล.บูรพา บุกค้นบ้านชาวกัมพูชาที่เคยอาศัยอยู่ บ.หนองจาน พบหลักฐานชี้ชัดเกี่ยวข้องขบวนการสแกมเมอร์ของกัมพูชา
วัว-ควายช็อกตายแล้ว 6 ตัว ชาวบ้านคาดเสียงปืนดังตลอดทำสัตว์หัวใจวาย ไม่พบบาดแผล
เสียงปืนปะทะกันของทหารสองฝ่าย ทำให้สัตว์เลี้ยง วัว-ควายของชาวบ้านช็อกตายแล้ว 6 ตัว ชาวบ้านระบุเป็นเพราะมีการยิงกันตลอดเวลาทำให้วัวควายหัวใจวาย อยากให้จบและไม่อยากให้ประเทศที่ 3 เข้ามายุ่งเกี่ยว
กองทัพภาค 2 รายงานสถานการณ์ 'เนิน 350' ไทยระดมยิงหนัก ทหารเขมรอ่อนล้าอาจต้านไม่ไหว
ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 สรุปสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ประจำวันที่ 18 ธันวาคม 2568 เวลา 12.00 น. ดังนี้
‘มูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์’ ส่งมอบผ้าห่มแก่ จนท.กรมอุทยานฯ ดูแลศูนย์อพยพชายแดนไทย-กัมพูชา
เมื่อวันที่ 18 ธ.ค. 2568 ณ ห้องประชุมชั้น 2 อาคารศูนย์ปฏิบัติการ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช นางเธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ ประธานมูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ และ ผู้บริหารบริษัท วีระการเกษตร ได้เดินทางไปส่งมอบผ้าห่มกันหนาว จำนวน 200 ผืน

