
โวลั่นมีหมัดเด็ด! เอกสารตีตรา ‘ลับมาก’ ของตำรวจสันติบาล พบแกนนำสามนิ้วรับเงินองค์กรต่างประเทศ-เอ็นจีโอต่างชาติมาเคลื่อนไหว ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์-เลิก 112 ผู้ร้องอ้างมีหมัดน็อก คดีล้มล้างการปกครอง เผยศาลรัฐธรรมนูญ ยังไม่มั่นใจถึงกับทำเรื่องขอหลักฐานซ้ำอีกรอบ
9 พ.ย.2564 – นายณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาผู้ตรวจการแผ่นดินในฐานะผู้ร้องคดีแกนนำ ม็อบราษฎร จำนวน 8 ราย ได้ปราศรัยเสนอข้อเรียกร้องเรื่องการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ ที่ได้ยื่นคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าการเคลื่อนไหวของกลุ่มม็อบคณะราษฎร 63 เป็นการใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 วรรคหนึ่งหรือไม่ โดยเฉพาะจากการชุมนุมปราศรัยใหญ่ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เมื่อ 10 ส.ค. 2563
โดยนายณฐพร เปิดเผยกับไทยโพสต์ ว่า จะเดินทางไปฟังการอ่านคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในวันพุธที่ 10 พ.ย.นี้แน่นอน โดยศาลรัฐธรรมนูญได้นัดอ่านคำวินิจฉัยเวลา 15.00 น. ซึ่งคำร้องคดีดังกล่าว พบว่า ศาลรัฐธรรมนูญได้ใช้เวลาในการไต่สวนถึงหนึ่งปีเต็ม เพราะได้ยื่นคำร้องไปตั้งแต่พ.ย.ปี 2563 จนศาลมานัดอ่านคำวินิจฉัยในวันพุธนี้ อีกทั้งน่าสนใจว่า การที่ศาลรัฐธรรมนูญ ออกคำสั่งคุมเข้มการเข้าออกศาลรัฐธรรมนูญในวันอ่านคำตัดสิน แสดงว่าต้องเป็นเรื่องใหญ่ของประเทศ
นายณฐพร กล่าวว่า สำหรับคำร้องคดีนี้ที่ใช้เวลาการไต่สวนถึงหนึ่งปีเต็ม แสดงว่า ศาลคงใช้เวลาไต่สวนหาข้อมูลต่างๆ พอสมควร ถึงนัดอ่านคำตัดสินซึ่งส่วนตัวก็ยังมีความมั่นใจในการยื่นคำร้องคดีนี้เพราะได้ยื่นคำร้องและเอกสารหลักฐานไปให้ศาลรัฐธรรมนูญประกอบคำวินิจฉัยหลายอย่างอย่างต่อเนื่องเพื่อแสดงให้ศาลรัฐธรรมนูญเห็นว่า พฤติการณ์ของแกนนำกลุ่มคณะราษฎร 63 ดังกล่าว น่าจะเข้าข่ายตามคำร้อง คือ ล้มล้างการปกครอง จากการจัดชุมนุมใหญ่ที่ลานพญนาค มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต และมีการออกข้อเรียกร้องเกี่ยวกับสถาบันออกมา
“หลักฐานสำคัญอันหนึ่งที่ผมยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญไปก็คือ หลักฐานเรื่องการรับเงิน การโอนเงินจากต่างประเทศ ที่ผมได้รับจากสำนักงานตำรวจสันติบาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งตอนแรกผมทำหนังสือขอไปที่พลเอกประยุทธ์ นายกรัฐมนตรี ต่อมา ผมก็ขอไปยังตำรวจสันติบาล ทางสันติบาลก็ส่งมาให้ผม และผมก็ส่งไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อประกอบคำร้อง อีกทั้งทราบมาว่าทางศาลรัฐธรรมนูญเองท่านก็ได้ทำเรื่องขอเอกสารหลักฐานลักษณะดังกล่าวไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเองด้วย เท่ากับว่าศาลท่านก็คงจะได้ข้อมูลจากสองทาง คือจากที่ผมส่งไปและที่ศาลขอไปเอง ผมถึงมั่นใจมากในคราวนี้เพราะผมมีหลักฐานสำคัญว่า มีการรับเงิน โอนเงินจากต่างประเทศเข้ามา ตรงนี้จึงเป็นหลักฐานสนับสนุนคำร้องผม โดยมีการรับเงินจากเช่นเอ็นจีโอของต่างประเทศ หลักฐานครบหมด โอนไปให้กลุ่มไหน ไปประชุมกันที่ไหน ใครเป็นตัวการ อย่างตอนที่ผมยื่นยุบพรรคอนาคตใหม่ว่าล้มล้างการปกครอง ตอนนั้นผมยอมรับว่าที่ส่งไปยังศาลรัฐธรรมนูญหลักฐานที่ส่งไปมีแค่ของสื่อมวลชนไปประกอบคำร้องเท่านั้น ตอนนั้นไม่มีหลักฐานละเอียดขนาดนี้ แต่คดีนี้มีหลักฐานจากสันติบาลและจากหน่วยงานที่เขาสืบสวนเรื่องนี้ ถึงใช้เวลาในการไต่สวนนานถึงหนึ่งปีเต็ม”นายณฐพรระบุ
ผู้ร้องคดีดังกล่าว ยังกล่าวอีกว่า หากคดีนี้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่าพฤติการณ์ของแกนนำม็อบ เข้าข่ายล้มล้างการปกครองฯ ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข คำตัดสินคดีดังกล่าว จะเป็นบรรทัดฐานและเป็น”สารตั้งต้น”ที่จะเป็นบรรทัดฐานต่อไป ที่จะส่งผลต่อการเคลื่อนไหวในลักษณะที่พาดพิงหรือเกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์ตามมา คืออาจทำให้จะไม่สามารถเคลื่อนไหวแบบที่เคยทำมาได้ โดยหากศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยว่า เข้าข่ายฯ ก็จะทำให้เป็นบรรทัดฐานในการดำเนินคดีกับแกนนำที่ถูกยื่นฟ้องดำเนินคดีเวลานี้ว่าศาลได้ตัดสินแล้วว่าพฤติการณ์เข้าข่าย ความผิดทางอาญาจริง ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ก็จะนำไปสู่การเอาผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 หรืออาจจะเอาผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 215 ( ผู้ใดมั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้าย ขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย หรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดการวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ)ได้ รวมถึงคนที่ให้การสนับสนุนการเคลื่อนไหว ก็อาจถูกขยายผลเอาผิดได้เช่น กลุ่มนักวิชาการที่ออกมาเคลื่อนไหวสนับสนุนม็อบ หรือพรรคการเมือง นักการเมือง ที่สนับสนุนการเคลื่อนไหวด้วยที่อาจถูกเอาผิดตามพรบ.พรรคการเมือง ฯมาตรา 92 (กระทําการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขหรือเพื่อให้ได้มาซึ่งอํานาจในการปกครองประเทศโดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ)และมาตรา 245ที่อาจนำไปสู่การยุบพรรคได้
“หากศาลตัดสินว่าคนที่เคลื่อนไหว เข้าข่ายใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ดำเนินคดีอาญาไป โดยก็เอาผิดตามประมวลกฎหมายอาญาเช่น ข้อหากบฎ ก็ว่ากันไป ส่วนพวกอาจารย์ก็อาจโดนอาญาหรือวินัย คำตัดสินศาลรัฐธรรมนูญคือ สารตั้งต้น ที่จะเป็นบรรทัดฐานต่อไป ว่าการเคลื่อนไหวลักษณะดังกล่าวคือการล้มล้าง ไม่ใช่การชุมนุมโดยชอบด้วยกฎหมาย แล้วพวกนี้ก็จะมาเคลื่อนไหวในลักษณะเกี่ยวกับสถาบัน การล้มล้างอีกไม่ได้แล้ว”นายณฐพรระบุ
นายณฐพรยืนยันว่า ไม่ได้มีอะไรกับกลุ่มที่เคลื่อนไหวรวมถึงพรรคการเมืองอย่างพรรคก้าวไกล แต่ถามว่าทำไม ผู้เคลื่อนไหวไม่ออกมาชุมนุมในเรื่องที่เป็นประโยชน์กับประชาชน เช่นเรื่องการเคลื่อนไหวในเรื่องค่าโทรศัพท์มือถือของประชาชน ที่ทำให้ถูกลงได้หรือเรื่องสัมปทานน้ำมัน ที่จะทำให้ประชาชนใช้น้ำมันถูกลง ถ้าเคลื่อนไหวแบบนี้ผมจะออกไปร่วมด้วย แต่นี้มาเคลื่อนไหวเรื่องสถาบันพระมหากษัตริย์ ให้เลิก 112 ถามว่า หากไม่มี 112 หรือไม่มีสถาบันฯ ประเทศจะเจริญขึ้นหรือไม่ น้ำมันจะถูกลงหรือ มันไม่ใช่
อนึ่ง นายณฐพร เคยยื่นคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินยุบพรรคอนาคตใหม่ กรณีล้มล้างการปกครองมาแล้ว แต่สุดท้าย ศาลมีคำวินิจฉัยให้ยกคำร้องด้วยมติเอกฉันท์ 9 ต่อ 0 แต่สุดท้าย พรรคอนาคตใหม่ ก็ถูกยุบพรรคในคดีเงินกู้ 191 ล้านบาท
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
🛑LIVE วันนี้...เพื่อไทย ในวังวน 'ชินวัตร' | ห้องข่าวไทยโพสต์
ห้องข่าวไทยโพสต์ : วันพุธที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2568
'อภิสิทธิ์' ลั่นต่อสู้ให้การเมืองกลับมาเป็นเรื่องความนิยมอุดมการณ์-นโยบายตัวบุคคล
หัวหน้าปชป. ไม่หวั่น อดีต สส. แห่ย้ายพรรค พร้อมส่ง สส.ชน ย้ำไม่มีใครผูกขาดคะแนนเสียง บอกหากวันเลือกตั้งต้องขยับ เนื่องจากเหตุสุดวิสัยเป็นเรื่องเข้าใจได้
ภูมิใจไทยปลุกพลังผู้สมัครสส. ชูสโลแกน 'พูดแล้วทำพลัส' ตั้งเป้าเกิน 200 ที่นั่ง!
แกนนำภูมิใจไทยกำชับว่าที่ผู้สมัคร สส.เดินเกมเลือกตั้งตามกติกา กกต. ชูผลงานรัฐบาลเป็นจุดขาย พร้อมปลุกใจหากทุ่มเทเต็มที่ มีลุ้นกวาดเกิน 200 ที่นั่ง มองสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชามีแนวโน้มคลี่คลายก่อนปีใหม่
เพื่อไทย ชูเครือญาติ 'ชินวัตร' นั่งแคนดิเดตนายกฯ อันดับ 1
"เพื่อไทย ชู "ยศชนัน" นั่งแคนดิเดตนายกฯ เบอร์ 1 ชี้ไม่เป็นปัญหาถูกมองหนีไม่พ้นตระกูลชินวัตร ลั่นเป็นโอกาส-จุดเด่น รับเป็นหน้าใหม่การเมือง เชื่อเวลา 2 เดือน ชนะใจปชช.ได้ พร้อมยัน ไม่ถูกครอบงำจาก “เยาวภา” ด้าน “สุริยะ” ยังมั่นใจ ถึงเป้า 200 ที่นั่ง ขณะที่ “จุลพันธ์” ประกาศพร้อมฝ่าด่านอำนาจรัฐ กระสุน กระแสชาตินิยม สู่ชัยชนะด้วยนโยบาย
ปชป. ชู 3 แกนหลัก การเมืองสุจริต ความเป็นมืออาชีพ ไว้วางใจได้ไม่มีดีลลับ
ปชป. ประกาศเดินหน้าเปลี่ยนผ่านสู่ยุคใหม่ ชู 3 แกนหลัก สุจริต-มืออาชีพ-ไว้วางใจ พร้อมสะท้อนปัญหาหาดใหญ่ถึงรัฐบาล
🛑LIVE ดับฝัน..วันไร้นาย สังเวียนนี้ไม่มี..แลนด์สไลด์ | ห้องข่าวไทยโพสต์
ห้องข่าวไทยโพสต์ : วันอังคารที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2568

