
แฟ้มภาพ
โฆษกรัฐบาล เปิดกำหนดการ นายกฯ หารือทวิภาคีประธานาธิบดีฝรั่งเศส-นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น -รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ทำเนียบรัฐบาล พร้อมถกนายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย -นิวซีแลนด์ – กรรมการจัดการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ ที่ศูนย์สิริกิติ์
15 พ.ย.2565- นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นอกเหนือจากกรอบการประชุมเอเปกในช่วงสัปดาห์การประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปกแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยังมีกำหนดการต้อนรับผู้นำในการเยือนประเทศไทย และการหารือแบบเต็มคณะที่ ทำเนียบรัฐบาล ดังนี้ วันที่ 16 พฤศจิกายน 2565 ช่วงบ่าย นายกรัฐมนตรีมีกำหนดการต้อนรับการมาเยือนอย่างเป็นทางการของประธานาธิบดีเหวียน ซวน ฟุก ของเวียดนามพร้อมมีการหารือทวิภาคี การเป็นสักขียานในพิธีแลกเปลี่ยนความตกลงและบันทึกความเข้าใจ การแถลงข่าวร่วม และเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารค่ำแก่ผู้นำเวียดนามและภริยา
โฆษกรัฐบาล กล่าวว่า วันที่ 18 พฤศจิกายน 2565 ช่วงค่ำ นายกรัฐมนตรีมีกำหนดการรับเสด็จฯเยือนอย่างเป็นทางการของเจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อัลซะอูด มกุฎราชกุมารและนายกรัฐมนตรีซาอุดีฯ พร้อมมีการหารือทวิภาคี พิธีการแลกเปลี่ยนความตกลงและบันทึกความเข้าใจ และเป็นเจ้าภาพงานเลี้ยงถวายพระกระยาหารค่ำแก่มกุฎราชกุมารและนายกรัฐมนตรีซาอุดีอาระเบีย และวันที่ 19 พฤศจิกายน 2565 ช่วงเที่ยง นายกรัฐมนตรีมีกำหนดการต้อนรับการมาเยือนขอประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน พร้อมมีการหารือทวิภาคี พิธีการแลกเปลี่ยนความตกลงและบันทึกความเข้าใจ และเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารกลางวันแก่ผู้นำจีนและภริยา
นายอนุชา กล่าวอีกว่า นอกจากการหารือแบบเต็มคณะกับ 3 ประเทศนี้แล้ว นายกรัฐมนตรียังมีกำหนดการหารือทวิภาคีกับแขกพิเศษของรัฐบาล รวมถึงผู้นำและผู้แทนเขตเศรษฐกิจเอเปคที่ทำเนียบรัฐบาลเพิ่มเติม ดังนี้ วันที่ 17 พฤศจิกายน 2565 ช่วงสาย นายกรัฐมนตรีมีกำหนดการหารือทวิภาคีกับนายเอมานูว์แอล มาครง ประธานาธิบดีแห่งฝรั่งเศส พร้อมเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารกลางวัน และช่วงเย็น พบหารือทวิภาคีกับนายคิชิดะ ฟูมิโอะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ณ ทำเนียบรัฐบาล วันที่18 พฤศจิกายน 2565 เวลา ช่วงบ่าย นายกรัฐมนตรีมีกำหนดการหารือทวิภาคีกับนางคริสตาลินากอร์เกียวา กรรมการจัดการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (International Monetary Fund: IMF) ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ และวันที่ 19 พฤศจิกายน 2565 เวลา ช่วงเช้า นายกรัฐมนตรีมีกำหนดการหารือทวิภาคีกับนายแอนโทนี แอลบาเนซี นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย และการหารือทวิภาคีแบบสั้นในช่วงการประชุมฯ (Pull-aside) กับนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ และช่วงเย็น พบหารือทวิภาคีกับนางคามาลา เดวี แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐฯณ ทำเนียบรัฐบาล
“การเป็นเจ้าภาพการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคของไทย ตลอดจนการพบหารือกับผู้นำประเทศต่างๆ นี้ เป็นช่วงเวลาสำคัญของไทยที่จะแสดงบทบาทในเวทีระหว่างประเทศ เป็นโอกาสให้ได้กระชับความสัมพันธ์ระหว่างกันกับผู้นำแบบพบหน้ากัน (In person) และเป็นโอกาสให้ได้ขยายความร่วมมือกับมิตรประเทศ การเป็นเจ้าภาพเอเปคของไทยจึงสะท้อนให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่าไทยได้รับการยอมรับจากนานาชาติ และคงเป็นประเทศที่มีบทบาทสำคัญในเวทีโลก รัฐบาลจึงหวังว่าทุกฝ่ายจะได้ร่วมกันเป็นเจ้าภาพพร้อมร่วมกันสร้างความประทับใจและความทรงจำที่ดีให้แก่ผู้นำ และผู้เข้าร่วมการประชุม ตลอดจนผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการประชุมฯครั้งนี้” นายอนุชา กล่าว.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘สุริยะใส’ ชี้ไทยกล้าพูด ‘ไม่’ กับสหรัฐฯ คือสัญญาณเปลี่ยนเกมภูมิรัฐศาสตร์
รองอธิการบดีฝ่ายบริหาร มหาวิทยาลัยรังสิต วิเคราะห์ท่าทีผู้นำไทยที่ไม่ยอมอ่อนข้อด้านความมั่นคงตามแรงกดดันจากสหรัฐฯ มองเป็นการขยับสถานะประเทศจากผู้ตามสู่รัฐที่มีอำ
‘หมอวรงค์’ เตือน เลือกตั้งระวังพรรคการเมืองที่สหรัฐถือหาง
นพ.วรงค์ ตั้งคำถามกรณี “ทรัมป์” ระบุเหตุทหารไทยเหยียบกับระเบิดเป็นอุบัติเหตุ ทั้งที่ฝ่ายทหารและอาเซียนยืนยันเป็นทุ่นระเ
เร่งเกม'เลือกตั้ง-จบศึกชายแดน' เมื่อทุกแนวรบกำลังได้เปรียบ
เรียกได้ว่าเกือบจะเป็นฉันทามติของสังคมที่ต้องการให้กองทัพดำเนินกลยุทธ์ในการนำพื้นที่ตามเส้นปฏิบัติการของไทยคืนจากกัมพูชาให้เบ็ดเสร็จเด็ดขาดในการสู้รบระลอกที่ 2
'แก้วสรร' แพร่บทความด่วน 'ศึกเขมร..จะจบอย่างไร?'
นายแก้วสรร อติโพธิ เผยแพร่บทความเรื่อง “ศึกเขมร..จะจบอย่างไร?” มีเนื้อหาดังนี้
'ทรัมป์' เข้าใจผิดหรือถือหางเขมร อ้าง 'อุบัติเหตุ' ทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดขาขาด 7 นาย!
ผู้นำสหรัฐฯ อ้างเหตุทหารไทยบาดเจ็บจากระเบิดเป็นเรื่อง "เกิดขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจ" ทั้งที่ข้อมูลฝ่ายไทยชี้ชัด เกิดจากการเหยียบทุ่นระเบิดที่ถูกฝังใหม่ ส่งผลให้ทหารไทย สูญเสียขาแล้วอย่างน้อย 7 นาย ตั้งแต่กรกฎาคมถึงพฤศจิกายน 2568
งงทั้งบาง 'ทรัมป์' อ้างคุย 'อนุทิน-ฮุนมาเนต' เห็นพ้องหยุดยิงเย็นวันนี้!
ทรัมป์โพสต์ผ่าน Truth Social ระบุ ไทยและกัมพูชาตกลงยุติการยิงทั้งหมดตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 13 ธ.ค. 2568 หลังหารือผู้นำสองประเทศ พร้อมขอบคุณนายกฯ มาเลเซียช่วยประสาน

