'สมเด็จพระสังฆราช' ประทานพร นายกฯ เตือนให้ใจเย็น ตั้งสติให้ดี อย่าหงุดหงิด

สมเด็จพระสังฆราชฯ ประทานพรนายกฯ ขอให้ใจเย็น ตั้งสติให้ดี  “บิ๊กตู่” รับหงุดหงิด เหตุงานเยอะทั้งการบ้าน-การเมือง แต่ไม่ใช่อยู่ดีๆ จะโมโห

1 ม.ค.2566 – ที่วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้าเฝ้าถวายเครื่องสักการะสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ พุทธศักราช 2566 ว่า ท่านได้พูดคุยเรื่องศาสนา ขอให้ตนเองใจเย็นๆ ตั้งสติ ทำสมาธิ ทรงประทานพรให้ตลอดทุกครั้งที่มา และยังพูดถึงความสงบเรียบร้อย ความรักความสามัคคี อย่างที่ท่านทรงประทานในคำขวัญ สอดคล้องกับที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงพระราชทานพรเนื่องในวันขึ้นปีใหม่ 2566 ซึ่งสมเด็จพระสังฆราชรับสั่งด้วยว่าเราไม่เหมือนคนอื่นเขา มีทั้งการทำบุญ ทำกุศลควบคู่กันไป ทั้งทำให้พระ ให้วัด เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ประเทศอื่นไม่เป็นแบบเรา ตนเองจึงกราบทูลฯท่านไปว่าศาสนาพุทธเป็นศาสนาแห่งความสมานฉันท์ เป็นกลาง ไม่มาก ไม่น้อยเกินไป ซึ่งแต่ละศาสนาแตกต่างกันไป และวันนี้ต่างประเทศก็ให้ความสนใจศาสนาพุทธเป็นจำนวนมาก ขอให้ทุกคนช่วยกันให้บ้านเมืองผ่านตรงนี้ไปให้ได้ก่อน

เมื่อถามว่า สมเด็จพระสังฆราชได้ให้พรส่วนตัวอะไรหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ท่านทรงประทานกำลังใจให้ ส่วนได้ฝากถึงบ้านเมืองอย่างไรนั้น นายกฯ กล่าวย้ำว่า ท่านให้รักและสามัคคี

เมื่อถามว่าเป้าหมายทางการเมืองในปี 66 นี้ตั้งเป้าไว้อย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็ทำมาอยู่แล้ว ไม่ต้องตั้งเป้าอะไร เพราะเป้าหมายคือประชาชน เป้าหมายที่ทำก็เพื่อประชาชนทั้งหมด ไม่ว่า จะเป็นการบ้าน การเมือง การมุ้ง ทำให้ประชาชนมีความสุขเท่านั้นพอ

เมื่อถามว่าที่สมเด็จสังฆราช ทรงตรัสให้ใจเย็นลงหมายความว่าอย่างไร นายกฯ ตอบว่า “ท่านไม่ได้ว่าฉันใจร้อน ไม่ใช่แบบนั้น แต่เพราะเรื่องมันเยอะ ท่านทรงตรัสต่อว่าขอให้ตั้งสติให้ดี อย่าหงุดหงิด ซึ่งตนเองบอกไปว่าได้พยายามอยู่แล้ว เราไม่ใช่คนที่อยู่ดีๆ จะโมโห

เมื่อถามด้วยว่าของขวัญในปี 66 นายกฯอยากได้อะไร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า อยากให้บ้านเมืองสงบ บ้านเมืองเจริญก้าวหน้า พัฒนาไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง ยังยืน เมื่อถามอีกว่าปีนี้เป็นห่วงอะไรเป็นพิเศษหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า “แล้วเธอเป็นห่วงอะไรไหมล่ะ เป็นห่วงไหมที่ถามฉันแบบนี้ ถ้าเธอห่วงก็จะให้ช่วยแก้ ถ้าเธอไม่ห่วงก็ไม่ต้องช่วยฉัน”.