'ถวิล เปลี่ยนศรี' เผย 4 ข้อโหวตนายกฯ อย่ามัดมือมัดเท้า ขอทำหน้าที่เพื่อคนทั้งประเทศ

19 พ.ค.2566 - นายถวิล เปลี่ยนศรี สมาชิกวุฒิสภา โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กว่า หลังทราบผลการเลือกตั้งทั่วไป เมื่อ 14 พฤษภาคม ที่ผ่านมา พรรคการเมืองที่มีเสียงมากที่สุดในสภา ก็มีการเคลื่อนไหวรวบรวมเสียงในรัฐสภา ให้เกินกึ่งหนึ่งของเสียงรวมกันในรัฐสภา คือ 376 เสียง และมีเสียงเรียกร้องความชัดเจน จากเสียงของสมาชิกวฺฒิสภาว่าจะโหวตสนับสนุนหรือไม่

มีผู้สื่อข่าวที่สนใจประเด็นนี้ ได้สอบถามมาที่ผมหลายท่าน ซึ่งส่วนใหญ่ผมได้ปฏิเสธไป เพราะเห็นว่ายังไม่ถึงเวลาที่จะพูด หรือตัดสินใจเรื่องนี้ แต่กระนั้นก็ยังมีเสียงสอบถามท่าที ความเห็นผมเข้ามาเรื่อยๆ ผมจึงตัดสินใจแสดงท่าทีเรื่องนี้ ให้ชัดเจน เสียที่นี่ ดังต่อไปนี้ ครับ

เวลาผมจะไปลงคะแนนเสียง หรือลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี นั้น

ประการแรก ผมทำตามที่กฎหมายรัฐธรรมนูญกำหนด ถ้ารัฐธรรมนูญไม่กำหนด ผมก็ไม่ไปทำภารกิจนี้

ประการที่สอง จำเป็นหรือไม่ที่ผมต้องโหวตให้เป็นไปตามเสียงของ ส.ส.ส่วนใหญ่หรือไม่ คำตอบก็คือ ไม่จำเป็น เพราะ ถ้าต้องโหวตตาม ก็ไม่ต้องกำหนดในรัฐธรรมนูญ ให้ผม ส.ว.ไปโหวตด้วย

แต่นี่ ไม่ได้หมายความว่า ผมจะโหวตสวน หรือไม่เหมือน ส.ส. ส่วนใหญ่นะ แต่หมายความว่า อาจเหมือนหรือไม่เหมือนก็ได้ เพียงแต่อย่ามัดมือมัดเท้าผม ขอให้เป็นการตัดสินใจของผมได้มั้ย

ประการที่ สาม ภารกิจนี้ ผมถือเป็นหน้าที่ ไม่ใช่สิทธิ์ สิทธิ์ใช้ยังไงก็ได้ เพราะเป็นสิทธิ์ของเรา กระทบเราเป็นหลัก แต่หน้าที่นี่ต้องทำให้ดีที่สุด เพราะเป็นหน้าที่ต่อคนอื่น ทำให้คนอื่น ซึ่งในที่นี้คือ ประเทศ และ ประชาชนทั้งประเทศ เพราะเขาต้องเป็นนายกรัฐมนตรีของคนทั้งประเทศ ไม่ใช่เฉพาะประชาชนที่เลือกเขา ดังนั้นต้องทำให้ดีให้เหมาะสมถูกต้องที่สุด

ประการที่ สี่ เวลาไปโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี นั้น ผมหมายความอย่างนั้นจริงๆ คือไม่ได้ไปดูว่าเขาป๊อบปูล่าแค่ไหน ได้เสียงมากน้อยแค่ไหน แต่ไปดูว่าเขาจะเป็นนายกรัฐมนตรีที่ดีได้หรือไม่ มีภาวะผู้นำ มีความคิด วิสัยทัศน์ และนโยบาย และแนวทางในการบริหารอย่างไร จะนำพาชาติบ้านเมืองไปได้ หรือไม่

ถ้ามีคู่แข่ง ผมก็เปรียบเทียบกับคู่แข่ง แล้วก็ตัดสินใจไปตามหลักการนั้น

ก็ขออนุญาต ให้ความเห็นที่ผมจะใช้ในการตัดสินใจ เมื่อเวลาถึงครับ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

สัญญาณไม่ดี! ทำไม 'พิธา' บอก 'ชัยธวัช' ไม่ใช่ผู้นำขัดตาทัพ

นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ทำไมนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ต้องบอกว่า นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล

‘พิธา’ ลั่นจะกลับมายิ่งใหญ่ ปลุกสมาชิกอย่าปล่อยไฟที่จุดติดดับเด็ดขาด

‘พิธา’ ฝากฝัง ‘ชัยธวัช’ ขอสมาชิกรักตัวเองอย่างไร ให้รักหัวหน้าใหม่อย่างนั้น ย้ำ แกนกลางก้าวไกลยังคงอยู่ โว นำเลือกตั้งครั้งแรกก็ได้มา 151 แล้ว หากเทียบบัญญัติไตรยางค์ รอบหน้าไม่ต่ำกว่า 300 ชู 3 กลยุทธ์ แข่ง-ขยับ-ขยาย จนกว่าจะถึงเส้นชัย

‘ชัยธวัช’ ลั่น ‘หน.ก้าวไกล’ เปลี่ยน แต่ว่าที่นายกฯยังชื่อ ‘พิธา’ ชู 4 ยุทธศาสตร์ 2 ภารกิจ

‘ชัยธวัช’ ผลักดัน 4 ยุทธศาสตร์ 2 ภารกิจ ‘ก้าวไกล’ พร้อมสู้กับการเมืองของชนชั้นนำล้มระบอบประชาธิปไตยอันมีปชช.เป็นไม้ประดับ ย้ำ ไม่มีอะไรมีจะต้องเสียใจอีกต่อไป แม้พรรคไม่ได้เป็นรัฐบาล

เปิดชื่อ กก.บห.ก้าวไกล ชุดใหม่ 'ชัยธวัช' แจงแค่ปรับทัพชั่วคราว ยินดีสละเก้าอี้เมื่อพิธาได้กลับเข้าสภา

ที่อาคารไทยซัมมิท มีการประชุมใหญ่วิสามัญของพรรคก้าวไกล วาระสำคัญคือการเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ภายหลังนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ลาออกจากหัวหน้าพรรคเมื่อวันที่ 16 ก.ย. ที่ผ่านมา โดยที่ประชุมมีมติเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่

ก้าวไกลเลือก กก.บห.ชุดใหม่ 'พิธา' แจงปมทัวร์ลง 'ปิยบุตร'

นายพิธาลิ้ม เจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมกรรมการบริหารพรรคก้าวไกล เพื่อคัดเลือกหัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ว่า โดยรวมเป็นการปรับโครงสร้างการ

สว. ตีปี๊บผลงาน 4 ปี โครงการลงพื้นที่พบประชาชน ใช้งบเฉลี่ยหมื่นบาทต่อครั้ง

พล.อ.สิงห์ศึก สิงห์ไพร รองประธานวุฒิสภา คนที่หนึ่ง ฐานะประธานกรรมการอำนวยการโครงการ สว.พบประชาชน พร้อมคณะ แถลงว่า วันที่ 26-27 ก.ย. มีการแสดงผลงานของโครงการสว.พบประชาชน ช่วง 4 ปีที่ผ่านมา