
วันที่ 11 สิงหาคม 2566 บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC พัฒนาและส่งมอบพื้นยางและเฟอร์นิเจอร์อัพไซเคิลให้สมาคมกีฬาฟิกเกอร์และสปีดสเก็ตติ้งแห่งประเทศไทย ใน“พิธีส่งมอบโครงการพัฒนาพื้นยางและเฟอร์นิเจอร์อัพไซเคิล สนามกีฬาลานสเก็ตน้ำแข็ง” ซึ่งงานนี้ได้รับเกียรติจากท่าน พลเอกประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มาเป็นประธานในพิธี ร่วมด้วย นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ดร. คงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ GC ดร. สีหศักดิ์ อารีราชการันย์ นายกสมาคมกีฬาฟิกเกอร์และสปีดสเก็ตติ้งแห่งประเทศไทย และ ดร. สุวรรณา ศิลปอาชา กรรมาธิการสหพันธ์สเก็ตน้ำแข็งนานาชาติ ณ ลานสเก็ตน้ำแข็ง ไอวิสอินเตอร์เนชั่นแนล เทรนนิ่ง เซ็นเตอร์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าอิมพีเรียล เวิลด์ สำโรง จังหวัดสมุทรปราการ

ดร. สีหศักดิ์ อารีราชการันย์ นายกสมาคมกีฬาฟิกเกอร์และสปีดสเก็ตติ้งแห่งประเทศไทย ได้กล่าวต้อนรับและขอบคุณ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) ที่เป็นผู้สนับสนุนหลักในการพัฒนาพื้นยาง และเฟอร์นิเจอร์อัพไซเคิลจากนวัตกรรมซึ่งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ดร. สุวรรณา ศิลปอาชา กรรมาธิการสหพันธ์สเก็ตน้ำแข็งนานาชาติ ผู้เป็นแรงผลักดันหลักในการริเริ่มให้ลานสเก็ตน้ำแข็ง ไอวิสอินเตอร์เนชั่นแนล เทรนนิ่ง เซ็นเตอร์ ได้นำหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) มาปรับใช้และบริหารจัดการภายใน พร้อมสนับสนุนผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมจากการสร้างมูลค่าเพิ่มจากวัสดุใช้แล้วที่ผ่านกระบวนการอัพไซเคิล มาสร้างประโยชน์และพัฒนาลานสเก็ตน้ำแข็งเพื่อเป็นต้นแบบให้แก่ลานอื่น ๆ ทั่วโลก โดย ดร. สุวรรณา ศิลปอาชา ยังได้กล่าวอีกว่า โครงการนี้ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากสหพันธ์สเก็ตน้ำแข็งนานาชาติ และลานสเก็ตน้ำแข็งทั่วโลก

ดร. คงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC กล่าวว่า GC ร่วมกับสมาคมกีฬาฟิกเกอร์และสปีดสเก็ตติ้ง แห่งประเทศไทยที่มีแนวคิดเดียวกันในการส่งเสริมและรักษาสิ่งแวดล้อม จึงได้ร่วมกันทำโครงการพัฒนาพื้นยางและเฟอร์นิเจอร์อัพไซเคิล สนามกีฬาลานสเก็ตน้ำแข็ง โดย GC ได้นำเทคโนโลยี นวัตกรรม รวมถึงความเชี่ยวชาญในการนำวัสดุใช้แล้วกลับมาสร้างประโยชน์ โดยพัฒนาและสนับสนุน “พื้นยางอัพไซเคิล” ณ ลาน สเก็ตน้ำแข็งไอวิสอินเตอร์เนชั่นแนล เทรนนิ่ง เซ็นเตอร์ ถือเป็นพื้นยางแห่งแรกในประเทศไทยที่นำฉนวนสายไฟใช้แล้วประเภท Crossed link PE มาเป็นวัสดุผสมกับเศษยางและกาวโพลียูรีเทน จากนั้นนำมาขึ้นรูปด้วยวิธีพิเศษ ทำให้เกิดความคงทน ไร้รอยต่อจึงมีความปลอดภัยสูงสำหรับนักกีฬา อีกทั้งยังผ่านการทดสอบการรับแรงกระแทกได้ดี และทนอุณหภูมิติดลบ นอกจากนี้ GC ยังได้ส่งมอบ “เฟอร์นิเจอร์อัพไซเคิล” ที่ผลิตจากวัสดุใช้แล้ว เช่น เศษไม้ และพลาสติกใช้แล้วประเภท LLDPE ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของการนำหลักเศรษฐกิจหมุนเวียนมาปรับใช้ นอกจากนี้สมาคมฯ ยังได้เป็นพันธมิตรร่วมกับ GC ในส่วนของ “GC YOUเทิร์น” หรือแพลตฟอร์มการบริหารจัดการพลาสติกใช้แล้วอย่างครบวงจร ตั้งแต่การคัดแยกพลาสติกใช้แล้ว การจัดเก็บ การขนส่ง ไปจนถึงการนำพลาสติกใช้แล้วไปรีไซเคิล และอัพไซเคิลสร้างมูลค่าเพิ่ม ซึ่งทั้งสององค์กรมีแผนที่จะต่อยอดความร่วมมือด้านการอัพไซเคิลต่อไปในอนาคต

โครงการพัฒนาพื้นยางและเฟอร์นิเจอร์อัพไซเคิล สนามกีฬาลานสเก็ตน้ำแข็งแห่งนี้ ถือเป็นการจุดประกายให้สังคมเห็นคุณค่าของการคัดแยก และนำพลาสติกกลับมาใช้ประโยชน์ ส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการรักษาสิ่งแวดล้อมได้อย่างยั่งยืน โดยสามารถลดปริมาณขยะไปสู่หลุมฝังกลบมากกว่า 9,600 กิโลกรัม พร้อมช่วยลดก๊าซเรือนกระจกได้กว่า 514 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า หรือเท่ากับการปลูกต้นไม้ได้มากกว่า 54 ต้น โดยนวัตกรรมนี้ช่วยยกระดับการดำเนินงานด้านความยั่งยืนให้กับลานสเก็ตน้ำแข็งไอวิส อินเตอร์เนชั่นแนล เทรนนิ่ง เซ็นเตอร์ ซึ่งเป็นสนามกีฬาในประเทศไทยที่เป็นศูนย์ฝึกซ้อมสเก็ตน้ำแข็งที่ได้รับการรับรองจากสมาพันธ์สเก็ตน้ำแข็งนานาชาติ (International Skating Union) ให้เป็นศูนย์ฝึกซ้อมแห่งความเป็นเลิศ (Center of Excellence) 1 ใน 6 แห่งของโลก เป็นลานสเก็ตน้ำแข็งที่มีความพร้อมต่อการฝึกซ้อมของนักกีฬาฟิกเกอร์สเก็ตและนักกีฬาสปีดสเก็ตของสมาคมกีฬาฟิกเกอร์และสปีดสเก็ตติ้งแห่งประเทศไทย สนับสนุนการสร้างเยาวชน นักกีฬาไทยให้เติบโต เป็นนักกีฬาทีมชาติ และนักกีฬาระดับโลกต่อไปในอนาคต
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
GC จับมือ กระทรวง อว. ต่อยอด โครงการความร่วมมือ “จากครัว...สู่เครื่อง” สู่มหาวิทยาลัยทั่วประเทศ สร้างเครือข่ายคนรุ่นใหม่ ผลักดันไทยสู่ศูนย์กลางการบินคาร์บอนต่ำอาเซียน
บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC ผู้นำในธุรกิจเคมีภัณฑ์ระดับสากล และผู้ผลิตเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน (SAF) เชิงพาณิชย์รายแรกของไทย ประกาศความร่วมมือกับ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ในโครงการความร่วมมือ “จากครัว...สู่เครื่อง” เพื่อขยายจุดรวบรวมน้ำมันพืชใช้แล้ว (Used Cooking Oil: UCO) สู่เครือข่ายสถาบันอุดมศึกษาทั่วประเทศ มุ่งสร้างความตระหนักรู้และส่งเสริมการมีส่วนร่วมของ
GC รายงานผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2568 เดินกลยุทธ์คืบหน้าตามแผน ท่ามกลางความท้าทายในอุตสาหกรรม-เศรษฐกิจโลก
บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC ผู้นำในธุรกิจเคมีภัณฑ์ระดับสากล รายงานผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรกของปี 2568 มีรายได้รวม 392,763 ล้านบาท
GC ประกาศอัตราดอกเบี้ยหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนฯ 5 ปี 6 เดือนแรกที่ 4.40% ต่อปี คาดเสนอขายต่อผู้ลงทุนทั่วไป วันที่ 27 พฤศจิกายน - 3 ธันวาคม 2568 นี้
บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC ผู้นำในธุรกิจเคมีภัณฑ์ระดับสากล และแกนนำธุรกิจเคมีภัณฑ์ของกลุ่ม ปตท. ประกาศดอกเบี้ยหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุน ไถ่ถอนเมื่อเลิกบริษัท ซึ่งผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนกำหนด (“หุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนฯ”) สำหรับ 5 ปี 6 เดือน
GC เตรียมออกหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนฯ สกุลเงินบาท ชุดใหม่ รับกระแสเชิงบวกจากนักลงทุน หนุนแผนบริหารเงินทุนระยะยาว รองรับการเติบโตธุรกิจมูลค่าสูง–คาร์บอนต่ำ
บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC ผู้นำในธุรกิจเคมีภัณฑ์ระดับสากล และแกนนำธุรกิจเคมีภัณฑ์ของกลุ่ม ปตท. ประกาศเตรียมออกและเสนอขายหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนฯ สกุล
GC คว้า 3 รางวัลนวัตกรรมแห่งชาติ สะท้อนบทบาทองค์กรที่ใช้เทคโนโลยีและความคิดสร้างสรรค์สร้างผลลัพธ์เพื่ออนาคตที่ยั่งยืน
บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC ตอกย้ำจุดยืนองค์กรแห่งนวัตกรรมที่ขับเคลื่อนความยั่งยืนในทุกมิติ คว้า 3 รางวัลนวัตกรรมแห่งชาติ ประจำปี 2568
GC คว้ารางวัล Asian Technology Excellence Awards 2025 ตอกย้ำความต่างด้วยนวัตกรรมดิจิทัลจากพนักงานผ่านการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและการวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูง
บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC คว้ารางวัล Thailand Technology Excellence Award ด้าน Digital-Chemicals ในเวที Asian Technology Excellence Awards 2025 จากผลงาน “Advanced PDH Optimization Modeling drives higher yields, energy savings, and lower CO₂ emissions”

