สภาเดือด! ส.ส.ส้ม ถล่ม 'นายกฯส้มหล่น' ประท้วงวุ่น เกือบวงแตกเพราะ 'ตัวตึงก้าวไกล'

12 ก.ย.2566- ในการแถลงนโยบายของรัฐบาล เวลา 10.10 น. นายศิริโรจน์ ธนิกกุล สส.สมุทรสาคร พรรคก้าวไกล ขึ้นอภิปรายว่า เรื่องแรงงานที่ถูกลืม หรือแรงงานแพลต์ฟอร์ม (ไรเดอร์) และแรงงานข้ามชาติ ซึ่งดูเหมือนว่ารัฐบาลใหม่จะลืมพี่น้องแรงงานทั้งระบบ เพราะนอกจากคำว่าทำให้ผู้ใช้แรงงานเข้าถึงระบบสวัสดิการที่เหมาะสม และการเปิดรับแรงงานต่างด้าวแล้ว นายกฯไม่ได้กล่าวถึงพี่น้องแรงงานอีกเลย ไม่มีรายละเอียดว่าเข้าถึงระบบสวัสดิการที่เหมาะสมคืออะไร หรือการเปิดรับแรงงานต่างด้าวจะมีความแตกต่างอะไรกับรัฐบาลของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกฯ เคยทำมาบ้าง ซึ่งนโยบายเกี่ยวกับแรงงานของพรรคเพื่อไทยที่หาเสียง ค่าแรง 600 ในปี 2570 ค่าแรงขึ้นทันทีปีหน้า จำได้หรือไม่ หรือเงินเดือน 25,000 บาทปริญญาตรี จำได้หรือไม่ว่าท่านเคยพูดไว้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ย้ำเตือนให้ประชาชนเห็นว่าจริงใจหรือไม่ที่เข้ามาบริหารประเทศครั้งนี้ หรือแม้แต่กระทรวงแรงงานก็มอบหมายให้พรรคภูมิใจไทยนำไปดูแลประโยคที่นายเศรษฐาพูดว่า “เดินทางมา 60 วัน ไข้ขึ้นมา 11 วันแล้ว เหนื่อยขนาดนี้ ผมไม่เอากระทรวงดีๆไปให้พวกนั้นหรอก” แต่สุดท้ายกระทรวงแรงงานกลับตกไปอยู่กับพรรคภูมิใจไทย ซึ่งอาจจะกลายเป็นกระทรวงแรงงานที่ไม่ได้เป็นกระทรวงที่ดีของสำหรับนายกฯหรือไม่ ทั้งที่พรรคภูมิใจไทยไม่ได้มีนโยบายเกี่ยวกับแรงงานที่ชัดเจน อย่างมากเป็นเรื่องของการลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือนเท่านั้น เหตุใดนายกฯ จึงมอบให้พรรคนี้ดูแลกระทรวงแรงงาน

จากนั้นนายศิริโรจน์ ได้สวมใส่เสื้อไรเดอร์สีเขียว พร้อมกล่าวว่า ตนเคยเป็นไรเดอร์ส่งอาหารมาก่อน ซึ่งอาชีพนี้ไม่ได้เป็นอาชีพใหม่ในหลายๆประเทศ ตอนนี้มีหลายเจ้าที่ทำธุรกิจในตลาด พี่น้องไรเดอร์เหล่านี้ไม่ได้รับความเป็นธรรมในการทำงาน ปัญหาเกิดในทุกแพลนฟอร์ม ตัวอย่างคือค่ารอบที่ไม่เป็นธรรมโดยไม่สนคำเรียกร้องของไรเดอร์ บังคับรับงานพ่วงทำงานเพิ่มเงินน้อยลง ต้องแบกรับต้นทุนและความเสี่ยงเอง ไม่อยู่ภายใต้กฎหมายคุ้มครองแรงงาน ทั้งนี้ สิทธิและสวัสดิการมีเพียงเท่าที่บริษัทจะเมตตา ซึ่งเราต้องแก้กฎหมายให้ครอบคลุมว่านิยามของผู้จ้างงานที่มีต่อคนทำงานเป็นอย่างไร สัญญาจ้างที่เป็นธรรมคืออะไร รวมถึงสิทธิและประกันสังคมแบบถ้วนหน้า ตนผิดหวังกับคำแถลงของนายกฯเป็นอย่างมาก เพราะท่านลืมสิ่งที่ท่านให้ความหวังกับไรเดอร์ไปแล้ว สำหรับแรงงานข้ามชาติ จากการแถลงนโบายมีแค่ประโยคสั้นๆ เราแทบไม่เห็นอะไร ไม่มีรายละเอียด ส่วนเรื่องละเมิดสิทธิมษุษยชนในแรงงานข้ามชาติ ที่มีทั้งเด็กและผู้หญิงโดนเอาเปรียบ ทำร้ายร่างกาย กักขังจากนายจ้าง

“ผมหวังว่าสิ่งที่ผมตั้งคำถาม พวกท่านจะมีคำตอบให้ผมในทุกประเด็นอย่างชัดเจน เพื่อคลายความกังวลให้กับพี่น้องแรงงาน รวมไปถึงสิ่งที่พรรคของท่านได้หาเสียงไว้ตอนเลือกตั้ง จะไม่ใช่การโฆษณาเพื่อให้ได้มาเพื่อคะแนนเสียงเท่านั้น แต่ท่านจะมุ่งมั่นตั้งใจให้แรงงานไทย ประชาชนทุกคนอยู่ดีกินดี มีเกียรติมีศักดิ์ศรี ให้สมกับการเป็นนายกฯของประชาชน ไม่ใช่นายกฯส้มหล่นอย่างที่ใครเขาว่ากัน ” นายศิริโรจน์ กล่าว

ทำให้นาย นายวิทยา แก้วภราดัย สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ ประท้วงการทำหน้าที่ของประธานที่ประชุม พร้อมเรียกร้องให้เคร่งครัดในการบังคับใช้ข้อประชุมรัฐสภา เพราะเวทีรัฐสภาไม่ใช่โรงแสดง

“ประธานผ่อนปรนข้อบังคับทำให้สภาไร้ระเบียบและวินัย ทั้งที่ข้อบังคับกาประชุมร่วมรัฐบาล เขียนไว้ชัดเจน ว่า การอภิปรายต้องไม่วนเวียน เสียดสี ไม่ทำให้ใครเสียหาย ไม่นำเอกสารยืนอ่านโดยไม่จำเป็น แต่ปัจจุบันพบว่ามีนักอ่านเก่งๆในสภาฯ และทำผิดข้อบังคับกการประชุม ดังนั้นผมขอให้เคร่งครัดเพื่อไม่ให้เป็นตัวอย่างกับเยาวชนต่อการสร้างนิสัยไร้ระเบียบ วินัย และเป็นตัวอย่างที่ไม่ดี” นายวิทยา ประท้วง

ต่อจากนั้น น.ส.สรัสนันท์ อรรณนพพร สส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย ลุกประท้วงนายศิริโรจน์ และขอให้ถอนคำพูดที่ระบุพาดพิงนายกฯ ว่าเป็นรัฐบาลส้มหล่น ถือเป็นการด้อยค่า เพราะข้อเท็จจริงคือ เมื่อพรรคก้าวไกลตั้งรัฐบาลไม่ได้ ต้องส่งไม้ต่อมาให้พรรคเพื่อไทยและนายกฯ ได้รับการเลือกจากรัฐสภาและได้รับการโปรดเกล้าฯ ดังนั้นขอให้ถอนคำพูดเพราะทำให้เกิดความเสียหายกับนายกฯ ที่ยังไม่ได้เริ่มปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นทางการ

ทำให้นายวิโรจน์ ลักขณาอดิร สส. บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ลุกประท้วงเพื่อตอบโต้ โดยย้ำว่าการอภิปรายของสส.พรรคก้าวไกล เพื่อสะท้อนปัญหาของผู้ใช้แรงงานกลุ่มไรเดอร์ ดังนั้นกรณีที่ สส.ทักท้วงแสดงว่าไม่ได้ให้ความสนใจปัญหาความเดือดร้อน และเข้าหาตอนหาเสียงเท่านั้น

ขณะที่การประท้วงของ สส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย นั้น นายวิโรจน์ ได้ตอบโต้ โดยย้ำคำว่า นายกฯเศรษฐา เป็นนายกฯส้มหล่น อยู่หลายครั้ง คล้ายกับตอกย้ำในประเด็นที่ สส.พรรคเพื่อไทยทักท้วงให้ถอนคำพูด

อย่างไรก็ดีนายพรเพชร ชี้แจงโดยยอมรับความผิดพลาดของตนเอง เพราะจำที่สส.อภิปรายไม่ได้ทั้งหมด เพราะนอกจากทำหน้าที่ประธานที่ประชุมแล้วต้องเซ็นต์แฟ้มด้วย ส่วนการนำเครื่องแต่งกายของไรเดอร์มาสวมใส่นั้น ทีแรกจะห้ามแต่เห็นว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย อย่างไรก็ดีต่อไปตนจะพิจารณาให้เคร่งครัด ส่วนที่มีผู้อภิปรายนำไอแพดขึ้นมาอ่าน ตนมองว่าขณะนี้โลกเปลี่ยนไปแล้ว แต่อย่าให้ถึงก้มหน้าก้มตาอ่าน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการประท้วงจาก สส. 3 พรรคยังคงตอบโต้กันไปมา เพราะ สส.ก้าวไกลไม่ยอมถอนคำพูด ทำให้ นายพัฒนา สัพโส สส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นประท้วงนายวิโรจน์ ว่า “ผมได้ยินข่าวว่าจะอภิปรายสร้างสรรค์ ผมให้เกียรติทางน้องๆ ประเด็นนี้อยากให้ถอน และจบ เพื่อเดินต่อ”

ทำให้ นายวิโรจน์ ลุกประท้วงกลับว่า “เรียกผมว่าน้องๆ ผมไม่มีพี่ชายสันดานแบบเขา” ทำให้นายพรเพชรต้องยกมือเพื่อห้ามศึกและปิดไมโครโฟนของทั้ง 2 ฝั่ง ก่อนจะวินิจฉัยให้ สส.พรรคก้าวไกล ทั้งนายวิโรจน์และนายศิริโรจน์ ถอนคำพูดที่ไม่เหมาะสมและตามที่ถูกประท้วง จากนั้นให้การอภิปรายนโยบายรัฐบาลดำเนินต่อไป

ซึ่งการประท้วงดังกล่าวกินเวลาประชุมไปประมาณ 15 นาที

จากนั้นเวลา 10.40 น. นายเศรษฐา ได้ชี้แจงว่า เมื่อกี้นั่งฟังอยู่ ก็ใจเย็นกันนิดนึง ยังเช้าอยู่เลย วันนี้เราอยู่กันดึก ยิ้มแย้มบ้างคุณวิโรจน์ สมาชิกบางท่านยังหน้าขึงขังเลย อย่างไรก็ตาม ประเทศเราเป็นประเทศที่โชคดีอย่างหนึ่ง เป็นที่ต้องการของแรงงานมาก อัตราการว่างงานต่ำกว่า 1% ถือว่าเป็นความโชคดีบนความโชคร้าย ประชากรของเรามีงานทำ แต่ความต้องการแรงงานต่างชาติมีจำนวนมาก การพึ่งแรงงานต่างชาติมีความจำเป็น สิ่งที่ตามมาจากแรงงานต่างชาติคือ เรื่องสิทธิมนุษยชน ดูแลความเป็นอยู่ ศักดิ์ศรี ความปลอดภัย ที่เขาพึงจะได้ ปัญหาหลายอย่างที่พูดมา เรื่องวันสตอปเซอร์วิสที่หลายรัฐบาลพยายามทำมาแล้ว เรื่องนี้เป็นเรื่องที่รัฐบาลตระหนักดี และไปรับฟังข้อมูลเบื้องต้นมาจากปัญหาการประมงที่เกิดขึ้น เราเองก็จะพยายามทำเรื่องวันสตอปเซอร์วิสให้ดีขึ้น คำนึงทั้งผู้ประกอบการ ผู้ใช้แรงงาน และแรงงานต่างด้าวด้วย

นายเศรษฐา กล่าวว่า เรามีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น เช่น การท่องเที่ยว เพื่อดึงเงินเข้าภาคบริการ ค่าแรงจะสูงขึ้นตามความต้องการของแรงงาน นอกจากการกระตุ้นเศรษฐกิจในภาคบริการแล้วเรายังจะลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานให้กับประชาชนและผู้ประกอบการด้านโลจิสติกด้วย โดยหลังจากแถลงนโยบายเสร็จ ตนได้ให้แนวทาง รมว.พลังงานให้เป็นวาระเร่งด่วน

“ส่วนค่าแรงขั้นต่ำ เป็นเรื่องสำคัญ หลายคนมีความเป็นห่วง สังคมต้องได้รับการดูแล มีรายได้ที่เหมาะสม เพียงพอต่อการใช้จ่ายประจำวัน เรื่องนี้เราจะเจรจาสามฝ่ายระหว่างแรงงาน ผู้ว่าจ้าง และรัฐบาลเพื่อปรับค่าแรงขั้นต่ำให้อยู่ในระดับเหมาะสม โดยมีเป้าหมายที่ 400 บาทโดยเร็วที่สุด”นายเศรษฐา กล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

พรรคประชาชน ชิงเปิดตัวแคนดิเดตนายกฯ 23 พ.ย.นี้ 'วิโรจน์' รับ สส.บางส่วนก็ยังไม่รู้

"วิโรจน์" ยังกั๊กไม่บอกแคนดิเดตใช่ "เท้ง-ไหม-วีระยุทธ์" ตามกระแสข่าวหรือไม่ บอกขอให้อดใจรอพรุ่งนี้ เชื่อพรรคคนเลือกคนมีความรู้ความสามารถมาบริหารประเทศ ลั่นพร้อมทำงานถวายหัว

เข้าทาง! 'วิโรจน์' ลั่นใช้ กมธ.ทหาร ขึงพืด 'แม่ทัพกุ้ง' ขัดคำสั่งผู้บังคับบัญชา 'ให้หยุดยิง' สงครามไทย-เขมร

นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กกล่าวถึงพลโทบุญสิน พาดกลาง อดีตแม่ทัพภาคที่ 2 ที่ออกมาเปิดเผยมีคนสั่งให้หยุดยิงในช่วง 6 ชั่วโมงแรกสงครามชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า การขัดคำสั่งโดยชอบของผู้บังคับบัญชา ในภาวะศึกสงคราม ถือเป็นเรื่องใหญ่มาก

'วิโรจน์' ฟาดเดือด เลือกเพื่อไทยเจอทุนเทายึดประเทศ หลัง 'จุลพันธ์' เหน็บพรรคส้มตั้งรัฐบาลเทา

นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวถึงกรณีที่หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เตือนถึงแคมเปญรณรงค์หาเสียงของพรรคประชาชน “มีเราไม่มีเทา” ให้ระวังในตอนจัดตั้งรัฐบาล ว่าแล้วพรรคเพื่อไทย

'วิโรจน์' พร้อมจับมือเพื่อไทย ยื่นซักฟอกรัฐบาล หากมีความผิดฉกรรจ์

นายวิโรจน์ ลักษณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีต้องรับผิดชอบหรือไม่ เรื่องปล่อยให้ทุนเทายึดประเทศ ว่า ต้องบอกว่ามีอำนาจดำเนินการ เพราะวันนี้ท่านถืออำนาจ แต่เราอย่า

'วิโรจน์' ขึงพืดทุนเทาข้ามชาติโยงรัฐบาลเศรษฐา สส.เพื่อไทยเดือดแห่ป้อง

‘วิโรจน์’ จี้ ‘อนุทิน’ ตรวจสอบ ‘เบนจามิน’ขบวนการทุนเทาข้ามชาติฮุบหุ้นบางจากฯ หวั่นเงินเทาทะลักทำไทยเสียโอกาส กลายเป็นศูนย์กลางฟอกเงิน-มาเฟียข้ามชาติ โยงรัฐบาล ‘เศรษฐา’มีเอี่ยวทำ สส.เพื่อไทยเดือดป้องถ้าเกี่ยวข้องเอาไปตัดหัวทิ้งได้เลย ปูด‘ธรรมนัส-นฤมล’รับผลบุญร่วมด้วย

'วิโรจน์' น้อมรับคำวิจารณ์ เป็นนั่งร้านให้ 'รัฐบาลอนุทิน' ลับปาก 36 ขุนพล ถล่มวันแถลงนโยบายแล้ว

ที่อาคารอนาคตใหม่ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์กรณีพรรคประชาชนถูกกล่าวหาเป็นนั่งร้านให้พรรค