กห.แจงกมธ.ทหาร ผงะ! สัญญาจีทูจีไม่ได้ระบุต้องเป็นเครื่องยนต์ MTU ของเยอรมนี

'สุทิน'ส่งทีมงานกลาโหม ตอบข้อซักถามกมธ.ทหารฯ ปมปัญหาเรือดำน้ำรวม 8 ประเด็น ระบุจะเปิดสัญญาจีทูจีต้องให้จีนอนุญาตก่อน ผงะ! ไม่ได้ระบุต้องเป็นเครื่องยนต์MTU 396 ของเยอรมนี และยังไม่มีแนวทางการเรียกร้องค่าปรับ

10ก.ย.2566- ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 9 พ.ย.ที่ผ่านมา ผู้แทนกระทรวงกลาโหม นำโดย พลเอกอตินันท์ ไชยฤกษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานประมาณกระทรวงกลาโหม เข้าชี้แจงความคืบหน้าโครงการจัดหาเรือดำน้ำ ต่อ คณะกรรมาธิการการทหาร สภาผู้แทนราษฎร โดยนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ในฐานะประธาน ระบุว่า ทางกองทัพเรือไม่ได้มาชี้แจงเอง เนื่องจากนายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มอบหมายให้สำนักงบประมาณกลาโหมมาชี้แจงแทน ก่อนที่กรรมาธิการทหาร จะยกคณะไปพบนายสุทิน ที่กระทรวงกลาโหม ในวันที่ 22 พฤศจิกายนนี้

นายวิโรจน์ ระบุว่า กรรมาธิการทหาร ได้สอบถามผู้แทนกลาโหมรวม 8 ประเด็น โดยเฉพาะประเด็นเครื่องยนต์เรือดำน้ำ มูลค่าความเสียหาย รวมทั้งการเรียกร้องค่าปรับ พร้อมชี้ว่า แนวทางเปลี่ยนเรือดำน้ำเป็นเรือฟริเกต ต้องคำนึงถึงผลกระทบตามที่หลายฝ่ายท้วงติง และกรรมาธิการทหารฯ เห็นพ้องว่า หากจะเปลี่ยนโครงการเรือดำน้ำเป็นเรือฟริเกต อาจเข้าข่ายรัฐธรรมนูญมาตรา 178 เกี่ยวกับสัญญาต่างประเทศ และการจัดซิ้อจีทูจี ที่ต้องนำเข้าสภาฯ

ขณะที่พลเอกอตินันท์ ไชยฤกษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานประมาณกระทรวงกลาโหม ชี้แจงรายประเด็น ตามที่กรรมาธิการทหารฯ สอบถาม เริ่มตั้งแต่การขอให้เปิดเผยรายละเอียดข้อตกลงการจัดซื้อแบบรัฐต่อรัฐ หรือ จีทูจี ที่กองทัพเรือจ้างจีนต่อเรือดำน้ำ S-26 T แต่ทางสำนักงบประมาณกลาโหมแจ้งว่า ไม่สามารถทำได้ เพราะติดข้อตกลงห้ามเปิดเผยความลับให้บุคคลที่สาม ต้องรอประสานให้ทางจีนอนุญาตด้วย

พล.อ.อตินันท์ ยังชี้แจงกรณีการเรียกร้องค่าปรับจากจีนว่า ต้องเป็นไปตามเงื่อนไขการจัดซื้อแบบ จีทูจี โดยใช้หลักการเจรจา และไม่ได้กำหนดค่าปรับเป็นรายงวด ส่วนกรณีเครื่องยนต์เรือดำน้ำ ไม่ได้ระบุชัดเจนว่า ต้องเป็นเครื่องยนต์ MTU 396 ของเยอรมนี แต่มีการระบุไว้ในข้อตกลงว่า จีนจะติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซลสำหรับขับเคลื่อนเครื่องกำเนิดไฟฟ้า ซึ่งจีนได้ลิขสิทธิ์จากเยอรมนี ผลิตเครื่องยนต์แบบเดียวกับ MTU 396 และเมื่อเยอรมนี ไม่ให้จีนผลิตใช้เองหรือส่งออก ทำให้ทางจีนเสนอติดตั้งเครื่องยนต์ CHD-620 ของจีนแทน

พร้อมชี้แจงภาพรวมการเบิกจ่ายงบประมาณสร้างเรือดำน้ำ และส่วนที่เกี่ยวข้อง เช่น ท่าจอดเรือ /โรงซ่อมบำรุง และคลังอาวุธ จนถึงขณะนี้รวม 9,500 ล้านบาทจากวงเงิน 17,000 ล้านบาท ซึ่งหากไม่ได้ใช้งานในโครงการเรือดำน้ำก็สามารถดัดแปลงไปใช้ในภารกิจอื่นได้ส่วนการเปลี่ยนเรือดำน้ำเป็นเรือฟริเกตยังไม่ได้ข้อสรุป แต่ในปีงบประมาณ 2567 กองทัพเรือมีแผนจัดหาเรือฟริเกตจำนวน 1 ลำ วงเงิน 17,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นคนละส่วนกัน ปัจจุบันกองทัพเรือมีเรือฟริเกตประจำการ 5 ลำ ในจำนวนนี้เป็นเรือรุ่นใหม่เพียง 1 ลำ คือเรือหลวงภูมิพลฯ ขณะที่ยุทธศาสตร์กองทัพเรือต้องการเรือฟริเกต 8 ลำ ซึ่งหากมีการเปลี่ยนเรือดำน้ำเป็นเรือฟริเกต ก็จะเข้ามาเสริมยุทธศาสตร์นี้

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'สุทิน' การันตีไม่ย้ายหนี 'เพื่อไทย' ลั่นบ้านใหญ่มหาสารคามปักหลักครบ

‘สุทิน’ ยืนยันชัดเจนไม่ย้ายพรรค และบ้านใหญ่มหาสารคามเพื่อไทย ทุกคนยังอยู่ครบ แนะคอการเมืองจับตาการเมืองใหญ่ที่จะเกิดปรากฏการณ์ที่เกินความคาดหมาย ก่อนจะตัดสินใจทำอะไรออกไป

นักวิชาการดีดปากตัวตึงพรรคส้มบอก 'แม่ทัพกุ้ง' ปฏิบัติตามอำนาจและหน้าที่ใน รธน.

นักวิชาการสอนมวย 'วิโรจน์' พรรคส้ม ยัน 'พล.ท.บุญสิน' ปฏิบัติตามอำนาจและหน้าที่ตาม รธน. เพื่อปกป้องอธิปไตย

'วิโรจน์' แฉธุรกิจหน้าใหม่ เปิดตัวทุบราคา 'ถูกผิดปกติ' ฟอกเงินสกปรก หวั่นเศรษฐกิจพังทั้งระบบ

นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ว่า ในหลายจังหวัด เราเริ่มเห็นธุรกิจหน้าใหม่เปิดตัวพร้อมราคาที่ “ถูกผิดปกติ” จนชวนให้สงสัย .

'วิโรจน์' ขู่ซักฟอกรัฐบาล! หากปราบแก๊ง สแกมเมอร์ไร้ผล

'วิโรจน์' ยันจะใช้กลไกสภา ตรวจสอบแก๊งสแกมเมอร์ ฮึ่ม ! พร้อมยื่นซักฟอก หากรัฐบาลเมินเฉย จี้ 'นายกฯ อนุทิน' ลากคอแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ชี้หากไทยไม่ร่วมมือนานาชาติ จะถูกมองเป็นเครือข่าย