พิธาเอฟเฟ็กต์! เรืองไกรเล็งยื่น กกต.สอบยกครัวนักการเมืองถือหุ้นสื่อ

'เรืองไกร' เตรียมยื่น กกต.สอบกราวรูด 'รมต.- สส.- สว. ยันลูก-เมีย' หลังศาลชี้ 'พิธา'รอดหุ้นไอทีวี ยังติดใจถือหุ้นเดียวก็ผิดแล้ว

25 ม.ค.2567 - นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่านายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ยังคงเป็น สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล และกลับเข้ามาทำงานในสภาผู้แทนราษฎรจากปมถือหุ้นไอทีวี ยังมีประเด็นใดติดใจอีกหรือไม่ว่า มีประเด็นเรื่องหนึ่งหุ้นก็ผิด เพราะเป็นเรื่องที่ต้องหาข้อเท็จจริง ของนักการเมืองรัฐมนตรี สส.และ สว. รวมถึงคู่สมรสและบุตรด้วย ซึ่งมองว่าการ ซื้อ-ขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯ บางทีซื้อเช้าขายบ่าย จะไม่ปรากฏอยู่ในสำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น หรือ บอจ.5 รวมถึง บัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นของบริษัท หรือ บมจ.006 จึงเตรียมยกร่างคำร้องยื่นต่อกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ไปไล่ตรวจสอบ สส.ทั้งหมดว่าในระหว่างการดำรงตำแหน่ง มีใครซื้อขายหุ้นที่เป็นหุ้นสื่อ ที่มีอยู่ในตลาดหลักทรัพย์หลายตัว เพราะหลายคนแจ้งบัญชีทรัพย์สินต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เมื่อวันที่ 4 ก.ค.2566 ซึ่งมีหลายคนบอกว่ามีบัญชีหุ้น

นายเรืองไกร กล่าวต่อว่า ส่วนเหตุผลที่นึกถึงเรื่องนี้เพราะเคยยื่นคำร้อง สส.ไปคนหนึ่ง ที่แจ้งบัญชีว่าไปถือหุ้นสื่อแห่งหนึ่ง เพิ่งทราบข้อเท็จจริงว่าเขาซื้อหุ้น หลังจากเป็น สส.แล้ว จึงทำให้คิดว่าความไม่รู้ของเขาอาจเกิดจากโบรกเกอร์ซื้อขายหุ้นในนามของเขา เมื่อเห็นตัวอย่างเช่นนี้จึงมีหน้าที่ต้องดูทั้งหมด โดย กกต.ต้องไปขอข้อมูลในทั้งหมดมา ซึ่งคงใช้เวลาร่างคำร้องประมาณ 1-2 สัปดาห์ โดยจะขอให้ตรวจสอบไปถึงคู่สมรสและบุตรด้วย เพราะเป็นลักษณะต้องห้าม และขัดกันของผลประโยชน์ จึงเป็นหน้าที่ของ กกต.ต้องตรวจสอบ ถ้าเจอก็ต้องส่งศาล และระบบสามารถดึงข้อมูลมาได้อยู่แล้ว เชื่อว่าคงไม่ใช้เวลานาน

“เราสงสัยว่าระหว่างอยู่กัน 4 ปี ก่อนพ้นจากตำแหน่งไปขายหุ้นออก แล้วช่วงนี้ก็ทำกำไรไปก่อน ซึ่งถือเป็นลักษณะต้องห้าม”นายเรืองไกร กล่าว

นายเรืองไกร กล่าวด้ววยว่า กรณีที่ศาลวางหลักว่าหุ้นเดียวก็ไม่ได้นั้น คงไปตอบหลายคนที่คำนวณสัดส่วนหุ้น ซึ่งก็ไม่ได้แปลกใจอะไรในเรื่องนี้ เพราะตอนที่เป็น สว.เคยร้องเรื่องหุ้นสัมปทานมาแล้ว ซึ่งศาลวินิจฉัยมาแล้วว่าหุ้นเดียวก็ถือไม่ได้ ส่วนกรณีนายพิธา ศาลวินิจฉัยว่ามีการถือหุ้นจริง แต่หุ้นดังกล่าวไม่ถือว่าเป็นหุ้นสื่อแล้ว เนื่องจากงบการเงิน 5 ปีย้อนหลังและสัญญาที่ถูกยกเลิก และไอทีวีไปฟ้องเรียกค่าเสียหายและให้คืนคลื่น ซึ่งตรงนี้เข้าใจได้ ว่าฟ้องให้คืนคลื่นไม่ได้เนื่องจากเป็นกฎหมายที่ออกมาแล้วว่าให้เอาคลื่นนี้ไปให้ Thai PBS

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ไอติม' ร้องนายกฯ 'ยุบสภา' ซัดพรรคร่วมรัฐบาลขัดแย้งหนัก ทำถกแก้รธน.ล่ม!

สส.พริษฐ์ หรือ 'ไอติม' ตั้งคำถามถึงสาเหตุที่การแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องชะงัก หลังพรรคเพื่อไทยล่มประชุมสภาต่อเนื่อง 2 วัน ซัดแรง!หรือแท้จริงแล้วเป็นเพราะความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล มากกว่าประเด็นข้อกังวลทางกฎหมาย พร้อมเรียกร้อง นายกฯ ควรพิจารณาข้อเสนยุบสภา!

ดร.ณัฏฐ์ ชี้เกมยื้อแก้รธน. 'ปชน.-พท.' ข้ามขั้นตอน เสี่ยงขัดคำวินิจฉัยศาลรธน. ส่งตีความก็ไม่ช่วย

“ดร.ณัฏฐ์” มือกฎหมายมหาชน เผย พลิกเกมยื้อแก้ไข รธน.ฉบับ ปชน.-พท. แม้บรรจุเป็นวาระแล้ว เป็นการลักไก่ ข้ามขั้นตอน ไม่ใช่ปัญหาความขัดแย้ง แม้ส่งศาลรธน. ย่อมไม่มีอำนาจรับไว้พิจารณา

'หมอเปรม' ยันไม่ถอนญัตติส่งศาลฯวินิจฉัย ชี้การเมืองสามก๊ก แก้รธน.ไม่มีทางสำเร็จ

นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สว.ผู้เสนอญัตติต่อที่ประชุมร่วมรัฐสภาให้ส่งร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมล่มเป็นวันที่ 2 ว่า สะท้อนให้เห็นว่าเป็นการเมืองแบบสามก๊กได้ชัดเจนมาก

เปิดเบื้องลึก! ทำไม 'เพื่อไทย' ต้องลงทุนยกร่างรธน.ฉบับใหม่

นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กในหัวข้อ "ทำไมต้องลงทุนยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่" โดยระบุว่า

'หยุดเดินดีกว่าเดินต่อแล้วตกเหว' เพื่อไทยบอกชัดเหตุหนุนญัตติ 'หมอเปรม'

'เพื่อไทย' แถลงจุดยืน หนุนญัตติ 'หมอเปรมศักดิ์' ยื่น 'ศาล รธน.' ตีความ บอกประสานทุกฝ่ายแล้ว ประเมินล้มเหลว ถูกตีตกแน่ ชี้หยุดเดินดีกว่าเดินต่อแล้วตกเหว ลั่นอยากพูดคำว่าแก้ได้แล้ว ไม่ใช่แก้แล้ว