ไม่มีกั๊ก! เปิดคำสั่ง 'เศรษฐา' เด้ง 2 บิ๊กตำรวจเข้ากรุสำนักนายกฯ

เปิดคำสั่งนายกฯเด้ง 'บิ๊กต่อ-บิ๊กโจ๊ก' ปฏิบัติราชการสำนักนายกรัฐมนตรี และคำสั่งแต้งตั้ง 'บิ๊กต่าย' นั่งรักษาการพิทักษ์ 1

21 มี.ค.2567 - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกาคลัง ได้ลงคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี 2 ฉบับในการเด้ง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ที่สำนักนายกรัฐมนตรี ประกอบด้วยคำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ 106/2567 และคำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ 108 โดยแต่ละคำสั่งมีรายละเอียดดังนี้

คำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ 106 /2567 เรื่อง ให้ข้าราชการมาปฏิบัติราชการสำนักนายกรัฐมนตรี มีเนื้อหาระบุว่า

ด้วยปรากฎข้อเท็จจริงเป็นข่าวต่อสาธารณะโดยทั่วไปในลักษณะต่อเนื่องติดกันตลอดเวลา นับแต่ช่วงระยะเวลาก่อนและหลังการแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เมื่อวันที่ 27 ก.ย.2566 จนถึงปัจจุบัน แม้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติแล้ว แต่ในฐานะที่เป็นหัวหน้าส่วนราชการซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบในการปฏิบัติราชการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ต้องปฏิบัติราชการให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีหน้าที่และอำนาจ มีข้อเท็จจริง และพยานหลักฐานตามควรที่ปรากฏถึงความขัดแย้ง จนที่เป็นที่ประจักษ์ทั้งในสำนักงานตำรวจแห่งชาติและประชาชนทั่วไป แบ่งฝักแบ่งฝ่ายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ทั้งในทางการบริหารงานบุคคล และงานด้านกระบวนการยุติธรรม จนถึงขนาดมีการกล่าวหาต่อกันและกันในเรื่องส่วนตัว ซึ่งสำนักนายกรัฐมนตรีมีคำสั่งที่ 247/2566 เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย กรณีการเข้าค้นบ้านพักของข้าราชการตำรวจชั้นผู้ใหญ่และเคหสถานอื่นหลายแห่งทั่วประเทศมาครั้งหนึ่งแล้ว จนกระทั่งที่สุดถึงขนาดมีการกล่าวหาให้มีการดำเนินคดีอาญา แสดงให้เห็นถึงความปฏิปักษ์ต่อกัน และความขัดแย้งส่อจะลุกลามบานปลายจนไม่อาจหาข้อยุติได้ ทั้งที่ทั้งสองฝ่ายต้องร่วมกันรักษาความสงบเรียบร้อย ความปลอดภัยของประชาชน และความมั่นคงของราชอาณาจักร ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของประชาชนเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ โดยต้องประพฤติปฏิบัติตนเหมาะสมแก่เกียรติศักดิ์ของตำรวจและอยู่ในจริยธรรมและจรรยาบรรณของตำรวจ และเพื่อให้เป็นไปตามแนวทางปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม หากไม่กระทำการใด ๆ อาจเป็นเหตุให้ราชการและประชาชน ประเทศชาติ เสียหายได้

ดังนั้น เพื่อให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติสามารถปฏิบัติหน้าที่ที่เป็นภารกิจหลักและบริการประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว และเพื่อให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ใช้อำนาจให้เป็นไปตามหลักนิติธรรมตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด สมควรพิจารณาสั่งการให้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล และพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ไปปฏิบัติราชการนอกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 11 (4) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 จึงมีคำสั่งให้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มาปฏิบัติราชการสำนักนายกรัฐมนตรี โดยไม่ขาดจากอัตราเงินเดือนทางสังกัดเดิม และให้ได้รับเงินเดือน เงินประจำตำแหน่ง เงินเพิ่มพิเศษ และสิทธิประโยชน์อื่นใดไม่ต่ำกว่าที่ได้รับอยู่เดิม โดยเบิกจ่ายจากสังกัดเดิม

ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปจนกว่าจะมีคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นประการอื่น


สำหรับคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 108/2567 เรื่อง ให้ข้าราชการตำรวจรักษาราชการแทนมีเนื้อหาระบุว่า

ตามที่ได้มีคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 106/2567 ให้ข้าราชการมาปฏิบัติราชการสำนักนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ 20 มีนาคม 2567 เป็นเหตุให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติไม่สามารถปฏิบัติราชการได้ดังนั้น เพื่อให้การปฏิบัติราชการในสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นไปด้วยความเรียบร้อยคล่องตัว มีประสิทธิภาพ และเป็นไปเพื่อประโยชน์ของทางราชการ ตามหน้าที่และอำนาจของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในระหว่างที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติไม่สามารถปฏิบัติราชการได้ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา105 (1) แห่งพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2565 นายกรัฐมนตรีจึงมีคำสั่ง ดังต่อไปนี้

ให้ พลตำรวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้รักษาราชการแทนในตำแหน่ง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ โดยให้ผู้รักษาราชการแทนมีหน้าที่และอำนาจเช่นเดียวกับผู้ซึ่งตนแทน

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2567 เป็นต้นไป

 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ประชุม คกก.ถอดบทเรียนอุทกภัยนัดแรกเล็งลอกการบ้านแดนปลาดิบ

'บวรศักดิ์' ประชุม คกก.ถอดบทเรียนอุทกภัยนัดแรก ชี้ประเทศมี กม.แก้ภัยพิบัติเพียบ แต่เกิดเหตุฉับพลันอำนาจสั่งการไม่ได้ เตรียมถอดบทเรียนแบบญี่ปุ่น ก่อน 'นายกฯ อนุทิน' นั่งหัวโต๊ะนำประชุมต่อ

ต้องตีความ! อนุทินบอก 12 ธ.ค.คาดเข็มขัดนิรภัย​

นายกรัฐมนตรี ลั่น คาดเข็มขัดนิรภัย​ หลังสื่อถาม​ 12 ธ.ค.​ไม่มีอุบัติเหตุ​ทาง​การเมืองใช่หรือไม่​ ยกมือขึ้นมาโบกปฏิเสธ หลัง 'เพื่อไทย' ไม่ยื่นซักฟอกแล้ว บอกทำงานทุกวัน ยังไม่ได้คุย ย้ำอยู่ไม่เกิน 31 มค.

'อนุทิน' ขึงขังห้ามทำลายเกียรติภูมิ-รุกล้ำ!

นายกฯ กร้าว! ห้ามรุกล้ำ ห้ามย่ำยี ห้ามทำลายเกียรติภูมิและคนไทย ปมชายแดนบ้านหนองจาน ปัดขีดเส้นตายให้ชาวกัมพูชาต้องย้ายออกก่อนยุบสภา ย้ำความมั่นคงไม่มีกรอบกำหนด

นายกฯ บอกให้ทุกคนระบายแต่ย้ำเชื่อตัวเลขหมอ-สธ.

นายกฯ ชี้ตัวเลขผู้เสียชีวิต เชื่อแพทย์ - สถาบันนิติเวช บอก ปกปิดไม่ได้ หลังสะพัดมียอดผู้เสียชีวิตจากเหตุอุทกภัยหลักพัน บอกปล่อยให้ระบายแล้วจบ ทำงานต่อ หลังมีคลิปชาดา ไล่นายกฯแป้น

นายกฯ มอบนโยบาย กอ.รมน.เร่งปราบภัยข้ามชาติ-สแกมเมอร์

'นายกฯ' มอบนโยบาย 'กอ.รมน.' กำหนดทิศทางปี 69 มุ่ง 'ยั่งยืน-ทันสมัย' เร่งปราบปรามภัยข้ามชาติ-สแกมเมอร์ ชูงานเชิงรุกร่วมมือชุมชน เข้าถึงเป็นที่พึ่งประชาชน

มิตรแท้! จีนมอบเงินช่วยน้ำใต้อีกกว่า 30 ล้าน

'ทูตจีน' มอบเงินช่วยน้ำท่วมใต้อีก 30 กว่าล้าน ย้ำความสัมพันธ์ไทย - จีน มิตรภาพแน่นแฟ้น มั่นใจภายใต้การนำ 'นายกฯ อนุทิน' ช่วยฟื้นฟูได้รวดเร็ว 'นายกฯ' ขอบคุณรัฐบาลจีน ยันนำเงินเยียวยาช่วย ปชช.- ศก.ใต้ รวดเร็วโปร่งใสเป็นธรรม