นายกฯ นำทีมแถลงเงินดิจิทัลหมื่นบาท บอกวันนี้ฝนตกเป็นนิมิตรหมายอันดี ประกาศรัฐบาลฝ่าฟัน จนได้ทำตามสัญญา ส่งมอบนโยบายพลิกชีวิตประชาชน บอกแม้ดีเลย์แต่เงินเข้ากระเป๋าได้ไตรมาส 4
10 เม.ย.2567 - ที่ตึกสันติไมตรี (หลังใน) ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานการแถลงข่าวผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet โดยมี นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ รมช.การคลัง นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.การคลัง นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายเฉลิมพล เพ็ญสูตร ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ และนายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
โดยทันทีที่นายกฯ นั่งแถลงข่าวได้กล่าวอย่างอารมณ์ดีว่า ฝนตกเป็นนิมิตรหมายอันดี วันนี้รัฐบาลมีความยินดีที่จะประกาศให้พี่น้องประชาชนทราบว่านโยบายการเติมเงิน 10,000 บาทผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งเป็นนโยบายโดยตรงของรัฐบาล เป็นนโยบายที่จะยกระดับเศรษฐกิจ ทั้งระดับประเทศและระดับประชาชนได้เกิดขึ้นอย่างเป็นทางการแล้ว รัฐบาลได้ใช้ความพยายามสูงสุด ฟันฝ่าอุปสรรคและข้อจำกัดทั้งหลาย จนวันนี้ได้มาถึงวันที่รัฐบาลสามารถทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับพี่น้องประชาชนส่งมอบนโยบายที่จะพลิกชีวิตให้กับประชาชนได้ และที่สำคัญเป็นไปตามตัวบทกฎหมายที่เกี่ยวข้องทุกประการ รวมทั้งอยู่ในกรอบวินัยการเงินการคลังอย่างเคร่งครัด โดยประชาชนและร้านค้าจะได้ลงทะเบียนยืนยันตัวตนได้ในไตรมาส 3 และเงินจะส่งตรงถึงพี่น้องประชาชนในไตรมาส 4 ปีนี้
นายกฯ กล่าวว่า นโยบายการเติมเงิน 10,000 บาทผ่านดิจิทัลวอลเล็ต เป็นการใส่เงินในระบบเศรษฐกิจอย่างทั่วถึงและกระจายไปยังทุกพื้นที่ ให้หมุนเวียนอยู่ในระบบเศรษฐกิจ ให้ถึงฐานราก เกิดการจับจ่ายใช้สอย ยกระดับคุณภาพชีวิตและสร้างโอกาสในการประกอบอาชีพของประชาชนและภาคธุรกิจ ที่จะขยายการลงทุนขยายกิจการ เกิดการผลิตสินค้ามากขึ้นนำไปสู่การจ้างงาน สร้างอาชีพ และเกิดการหมุนเวียนของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ซึ่งรัฐบาลจะได้รับผลตอบแทนคืนมาในรูปแบบของภาษี อันจะเป็นการวางรากฐานเศรษฐกิจดิจิทัลให้กับประเทศ เป็นการเตรียมความพร้อมของประเทศให้เข้าสู่เศรษฐกิจสมัยใหม่และเพิ่มประสิทธิภาพและสร้างความโปร่งใสให้กับกลไกการชำระเงินของระบบเศรษฐกิจและรัฐบาล
นายกฯ กล่าวอีกว่า โครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจโดยการส่งเสริมให้มีเม็ดเงินหมุนเวียนในพื้นที่ และช่วยบรรเทาภาระค่าครองชีพ ตลอดจนยกระดับและพัฒนาคุณภาพชีวิตให้แก่ประชาชนที่ต้องการได้รับความช่วยเหลือ เช่น กลุ่มเปราะบาง กลุ่มเกษตรกร เป็นต้น เพื่อให้ประชาชนและชุมชนมีความเข้มแข็งในด้านเศรษฐกิจ และสามารถพึ่งพาตนเองได้ รวมทั้งจะเป็นการสร้างโอกาสในการประกอบอาชีพของประชาชน และยังก่อให้เกิดนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีดิจิทัล อันจะนำเข้ามาเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจและสังคมโดยรวมอีกด้วย ในส่วนของความคุ้มค่าของการดำเนินงานโครงการจะให้สิทธิ์แก่ประชาชนจำนวน 50 ล้านคน ผ่านดิจิทัลวอลเล็ตวงเงิน 5 แสนล้านบาท และกำหนดให้ใช้จ่ายในร้านค้าที่กำหนด ซึ่งจะเป็นการเติมเงินลงสู่ฐานราก จะส่งผลต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทยประมาณ 1.2% ถึง 1.6% จากกรณีฐานครั้งนี้ขึ้นอยู่กับรายละเอียดเงื่อนไขของโครงการ
“รัฐบาลจะดำเนินโครงการให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 โดยกระบวนการต่างๆต้องเป็นไปตามกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง และต้องดำเนินการด้วยความโปร่งใส ตรวจสอบได้ การดำเนินโครงการจะต้องเป็นไปด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต รอบคอบ และระมัดระวัง เพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศและประชาชนโดยรวม ตลอดจนรักษาวินัยการเงินการคลังของรัฐอย่างเคร่งครัด” นายเศรษฐา กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า มาตรการที่ออกในวันนี้ความรู้สึกๆของนายกฯ ผิดจากความตั้งใจในตอนหาเสียงอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า ตนว่าก็เป็นระยะเวลาที่จะเกิดขึ้นได้ ซึ่งแน่นอนเราเป็นรัฐบาลที่ต้องรับฟังเสียงของประชาชน ที่เราคาดว่าทีแรกจะออกประมาณต้นปีนี้ แต่ก็ดีเลย์ไปถึงปลายปี อย่างที่เรียนเราต้องฟังเสียงของทุกคน ให้ข้อแนะนำ คำแนะนำ ข้อเสนอแนะ เราก็พยายามตั้งคณะกรรมการต่างๆขึ้นมา ซึ่งต้องมีการดูอย่างดีอย่างละเอียดเพื่อให้เป็นโครงการที่โปร่งใส ซื่อสัตย์ สุจริต และผลประโยชน์ทุกบาททุกสตางค์ตกอยู่กับพี่น้องประชาชน
เมื่อถามว่านายกฯในฐานะประธานบอร์ดดิจิทัลซีเรียสหรือไม่ที่ นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ไม่เข้าร่วมการประชุมบอร์ดดิจิทัล 2 ครั้งสำคัญติดต่อกัน นายกฯ กล่าวว่า ก็ท่านติดภารกิจ ท่านบอกมาว่าติดภารกิจ ก็รับทราบ อย่างที่ นายจุลพันธ์ ตอบ ก็เป็นไปตามกฎหมายและมีการส่งมอบตัวแทนมา ก็ถือว่าทุกอย่างเป็นไปด้วยความชอบธรรมถูกต้อง
เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้นายกฯบอกว่าจะตั้งกองทุนเพิ่มขีดความสามารถ 100,000 ล้านบาท ยังคงเดิมหรือไม่ และจะเอางบตรงไหนมาใส่ นายกฯ พยักหน้าพร้อมกล่าวว่า ยืนยันไม่ได้ไปบั่นทอนเรื่องลดขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศ เงินตรงนี้ยังมี Level อยู่
เมื่อถามว่าเงินที่จะเข้ากระเป๋าประชาชนในไตรมาส 4 เป็นวันไหน ได้วางไว้หรือไม่ นายกฯ ไม่ตอบคำถามดังกล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ประชุม คกก.ถอดบทเรียนอุทกภัยนัดแรกเล็งลอกการบ้านแดนปลาดิบ
'บวรศักดิ์' ประชุม คกก.ถอดบทเรียนอุทกภัยนัดแรก ชี้ประเทศมี กม.แก้ภัยพิบัติเพียบ แต่เกิดเหตุฉับพลันอำนาจสั่งการไม่ได้ เตรียมถอดบทเรียนแบบญี่ปุ่น ก่อน 'นายกฯ อนุทิน' นั่งหัวโต๊ะนำประชุมต่อ
ต้องตีความ! อนุทินบอก 12 ธ.ค.คาดเข็มขัดนิรภัย
นายกรัฐมนตรี ลั่น คาดเข็มขัดนิรภัย หลังสื่อถาม 12 ธ.ค.ไม่มีอุบัติเหตุทางการเมืองใช่หรือไม่ ยกมือขึ้นมาโบกปฏิเสธ หลัง 'เพื่อไทย' ไม่ยื่นซักฟอกแล้ว บอกทำงานทุกวัน ยังไม่ได้คุย ย้ำอยู่ไม่เกิน 31 มค.
'อนุทิน' ขึงขังห้ามทำลายเกียรติภูมิ-รุกล้ำ!
นายกฯ กร้าว! ห้ามรุกล้ำ ห้ามย่ำยี ห้ามทำลายเกียรติภูมิและคนไทย ปมชายแดนบ้านหนองจาน ปัดขีดเส้นตายให้ชาวกัมพูชาต้องย้ายออกก่อนยุบสภา ย้ำความมั่นคงไม่มีกรอบกำหนด
นายกฯ บอกให้ทุกคนระบายแต่ย้ำเชื่อตัวเลขหมอ-สธ.
นายกฯ ชี้ตัวเลขผู้เสียชีวิต เชื่อแพทย์ - สถาบันนิติเวช บอก ปกปิดไม่ได้ หลังสะพัดมียอดผู้เสียชีวิตจากเหตุอุทกภัยหลักพัน บอกปล่อยให้ระบายแล้วจบ ทำงานต่อ หลังมีคลิปชาดา ไล่นายกฯแป้น
นายกฯ มอบนโยบาย กอ.รมน.เร่งปราบภัยข้ามชาติ-สแกมเมอร์
'นายกฯ' มอบนโยบาย 'กอ.รมน.' กำหนดทิศทางปี 69 มุ่ง 'ยั่งยืน-ทันสมัย' เร่งปราบปรามภัยข้ามชาติ-สแกมเมอร์ ชูงานเชิงรุกร่วมมือชุมชน เข้าถึงเป็นที่พึ่งประชาชน
มิตรแท้! จีนมอบเงินช่วยน้ำใต้อีกกว่า 30 ล้าน
'ทูตจีน' มอบเงินช่วยน้ำท่วมใต้อีก 30 กว่าล้าน ย้ำความสัมพันธ์ไทย - จีน มิตรภาพแน่นแฟ้น มั่นใจภายใต้การนำ 'นายกฯ อนุทิน' ช่วยฟื้นฟูได้รวดเร็ว 'นายกฯ' ขอบคุณรัฐบาลจีน ยันนำเงินเยียวยาช่วย ปชช.- ศก.ใต้ รวดเร็วโปร่งใสเป็นธรรม


