'ดุสิตโพล' เผยคนไทยเกาะติดการเมืองเพิ่มขึ้น กว่า 63% ไม่เชื่อมั่นรัฐบาลเศรษฐา

Print

11 ส.ค. 2567 – ประธานสวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิตสวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “สถานการณ์การเมืองไทย ณ วันนี้” ระหว่างวันที่ 7-9 สิงหาคม 2567 กลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,147 คน สำรวจผ่านทางออนไลน์และภาคสนาม พบว่า กลุ่มตัวอย่างสนใจข่าวการเมืองในช่วงนี้เพิ่มขึ้น ร้อยละ 43.42 โดยสนใจข่าวยุบพรรคก้าวไกลเป็นพิเศษ ร้อยละ 75.65 เมื่อเปรียบเทียบสถานการณ์การเมือง ณ วันนี้กับช่วงที่ผ่านมา คิดว่าแย่ลง ร้อยละ 67.57 ด้านความเชื่อมั่นต่อรัฐบาลเศรษฐา กลุ่มตัวอย่างรู้สึกไม่ค่อยเชื่อมั่น ร้อยละ 63.73 ด้านกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรีก็เห็นว่าควรปรับ ร้อยละ 55.62 สุดท้ายมองว่าทิศทางการเมืองไทยต่อจากนี้น่าจะแย่ลง ร้อยละ 68.44

นางสาวพรพรรณ บัวทอง ประธานสวนดุสิตโพล ระบุว่า ผลโพลสะท้อนความวิตกกังวลของประชาชนต่อสถานการณ์การเมืองปัจจุบันและอนาคต โดยเฉพาะการยุบพรรคก้าวไกลที่กระตุ้นความสนใจข่าวการเมือง การมองว่าการเมืองแย่ลงสะท้อนถึงความไม่พอใจต่อการบริหารงาน โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจแม้จะมีความคืบหน้านโยบายดิจิทัลวอลเล็ตก็ยังไม่เพียงพอ ความเชื่อมั่นในรัฐบาลที่ต่ำและการสนับสนุนการปรับคณะรัฐมนตรีแสดงถึงความคาดหวังในการเห็นการเปลี่ยนแปลงที่เป็นรูปธรรม ซึ่งเป็นความท้าทายที่รัฐบาลต้องเร่งแก้ไขเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชน

ดร.งามประวัณ เอ้สมนึก อาจารย์ประจำโรงเรียนกฎหมายและการเมือง มหาวิทยาลัยสวนดุสิต กล่าวว่า ผลการสำรวจแสดงให้เห็นว่าประชาชนให้ความสนใจข่าวการเมืองเพิ่มมากขึ้น โดยมุ่งความสนใจไปที่กรณีการยุบพรรคก้าวไกลเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากการสำรวจครั้งนี้อยู่ในช่วงเวลาเดียวกันกับที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ยุบพรรคก้าวไกล พร้อมกับเพิกถอนสิทธิทางการเมืองของกรรมการบริหารพรรคเป็นเวลา 10 ปี เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา

ส่งผลให้ สส. พรรคก้าวไกลที่เหลืออยู่ 143 คน ต้องหาพรรคสังกัดใหม่ภายใน 60 วัน เพื่อไม่ให้ขาดสมาชิกภาพ สส. ต้องมีการจัดการเลือกตั้ง สส. เขตพิษณุโลก และต้องเลือกรองประธานสภาคนใหม่เพื่อแทนนายปดิพัทธ์ สันติภาดา อดีตกรรมการบริหารพรรคก้าวไกลที่ถูกเพิกถอนสิทธิทางการเมือง รวมทั้งต้องมีการแต่งตั้งผู้นำฝ่ายค้านคนใหม่แทนนายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกลเดิมอีกด้วย ผลโพลครั้งนี้สะท้อนมุมมองของประชาชนต่อสถานการณ์ทางการเมืองในปัจจุบันว่ามีสถานการณ์แย่ลง และมุมมองต่อทิศทางการเมืองไทยในอนาคตว่ามีแนวโน้มที่แย่ลงด้วย อีกทั้งประชาชนยังขาดความเชื่อมั่นต่อการบริหารของรัฐบาล สิ่งเหล่านี้อาจเป็นมุมสะท้อนจากสถานการณ์ความผันผวนทางการเมืองที่เกิดขึ้นในขณะนี้

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ดุสิตโพล' เผยดัชนีการเมืองไทย พ.ย. ตก มหาอุทกภัยหาดใหญ่กดคะแนนรัฐบาล

สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “ดัชนีการเมืองไทย ประจำเดือนพฤศจิกายน 2568” กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 2,208 คน

‘ดุสิตโพล’ ชี้ภูมิใจไทยได้เปรียบสุดในการเลือกตั้ง

“สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “พรรคการเมืองไทย พรรคใดได้เปรียบ” กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 1,794 คน (สำรวจทางออนไลน์และภาคสนาม) ระหว่างวันที่ 19-21 พฤศจิกายน 2568 พบว่า พรรคภูมิใจไทยถือเป็นพรรคที่มีความได้เปรียบมากที่สุดถึง 8 ข้อ

ดุสิตโพลชี้คนพร้อมเลือกตั้งแต่ยังกังวลปัญหาการเมืองซ้ำรอย

“สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “ความพร้อมของพรรคการเมืองกับการเลือกตั้ง” กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 1,174 คน (สำรวจทางออนไลน์และภาคสนาม) ระหว่างวันที่ 4-7 พฤศจิกายน 2568  พบว่า กลุ่มตัวอย่างค่อนข้างพร้อมสำหรับการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในปี 2569 ร้อยละ 56.81

ดุสิตโพลชี้ภาพรวมคนไทยเฝ้าดูแต่ยังไม่มั่นใจต่อการเมืองไทย

สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “ดัชนีการเมืองไทย ประจำเดือนตุลาคม 2568” กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 2,126 คน (สำรวจทางออนไลน์และภาคสนาม) ระหว่างวันที่ 28-31 ตุลาคม 2568 พบว่า กลุ่มตัวอย่างให้คะแนนภาพรวมดัชนีการเมืองไทยประจำเดือนตุลาคม 2568 เฉลี่ย 4.02 คะแนน เท่ากับเดือนกันยายน 2568 ที่ได้ 4.02 คะแนน

โพลชี้ประชาชนชอบ 'คนละครึ่ง'

“สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “คนไทยกับนโยบายลดค่าครองชีพ” กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 1,216 คน (สำรวจทางออนไลน์และภาคสนาม) ระหว่างวันที่ 21-24 ตุลาคม 2568  พบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เข้าร่วมโครงการของภาครัฐที่ช่วยลดภาระค่าครองชีพ คือ คนละครึ่ง

'ดุสิตโพล'ชี้สส.ย้ายพรรคไม่มีผลต่อการตัดสินใจลงคะแนนของประชาชน

“สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “ย้ายพรรค...ย้ายใจประชาชน?” กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 1,117 คน (สำรวจทางออนไลน์และภาคสนาม) ระหว่างวันที่ 14-17 ตุลาคม 2568  พบว่า กลุ่มตัวอย่างมองว่าการย้ายพรรคเป็นเรื่องปกติทางการเมือง เห็นเป็นประจำ