'พีระพันธุ์' เผยความก้าวหน้า 'รื้อ ลด ปลด สร้าง' ระบบพลังงานไทย

28 ธ.ค.2567 - นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน โพสต์เฟซบุ๊กว่า สวัสดีครับ ผมขออนุญาตเรียนความก้าวหน้าของร่างกฎหมายที่จะเป็นเครื่องมือสำคัญอีกอย่างหนึ่งในการ “รื้อ ลด ปลด สร้าง” ระบบพลังงานไทยตามที่ผมได้ให้สัญญาไว้กับพี่น้องประชาชน นั่นคือ กฎหมายกำกับการประกอบกิจการค้าน้ำมันและก๊าซ เพื่อสร้างความเป็นธรรมให้แก่ทุกฝ่าย ทั้งประชาชนผู้ใช้น้ำมัน และผู้ประกอบกิจการค้าน้ำมัน และทำให้ราคาน้ำมันไม่ต้องปรับขึ้นลงรายวันอีกต่อไป อีกฉบับหนึ่งคือกฎหมายส่งเสริมการใช้ไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์หรือโซลาร์รูฟ เพื่อจะช่วยให้การติดตั้งระบบนี้เป็นไปโดยรวดเร็ว เพื่อปลดแอกประชาชนจากราคาไฟฟ้าในระบบหลักที่ต้องปรับราคาตลอดเวลา จะทำให้ลดภาระค่าใช้จ่ายด้านไฟฟ้า ซึ่งร่างกฎหมายส่งเสริมการใช้ไฟฟ้าแสงอาทิตย์เสร็จและนำเข้าสู่กระบวนการของสภาผู้แทนราษฎรแล้ว!!

สำหรับร่างกฎหมายกำกับการประกอบกิจการค้าน้ำมันและก๊าซนั้น ผมเขียนด้วยตัวเองทั้งหมด หลังจากที่ผมได้ออกประกาศกระทรวงพลังงาน ให้ผู้ค้าน้ำมันต้องแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับต้นทุนน้ำมัน ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อเดือนเมษายน 2567 ที่ผ่านมา

ผมร่างกฎหมายฉบับนี้ขึ้นเพื่อกำกับดูแลการกำหนดราคาน้ำมันให้มีความเหมาะสมและเป็นธรรม เพราะการปรับราคาน้ำมันในทุกวันนี้อ้างอิงจากราคาปัจจุบันในตลาดโลก ซึ่งอาจไม่ได้สะท้อนจากต้นทุนที่แท้จริง และสร้างภาระให้แก่ประชาชน แต่กฎหมายฉบับนี้จะมีกลไกในการกำกับดูแลราคาน้ำมันรวมไปถึงราคาก๊าซ ให้เป็นธรรมต่อประชาชนมากที่สุด เรียกว่า ระบบ Cost Plus ซึ่งหมายถึงระบบที่คำนวณราคาตามต้นทุนที่แท้จริงแทนการอ้างอิงราคาน้ำมันต่างประเทศ โดยผู้ค้าต้องสามารถพิสูจน์ได้ว่าปรับขึ้นราคาเพราะอะไร และให้ปรับได้เดือนละ 1 ครั้ง

นอกจากประชาชนจะได้รับการคุ้มครองด้านราคาน้ำมันที่เป็นธรรมแล้ว กฎหมายฉบับนี้

ยังจะเปิดโอกาสให้มีการนำน้ำมันเชื้อเพลิงมาใช้ได้เองสำหรับผู้ที่ประกอบการขนส่ง เกษตรกร ชาวประมง และบริการสาธารณกุศล อีกทั้งจะให้สิทธิประโยชน์ในการซื้อน้ำมันราคาพิเศษแก่ผู้มีรายได้น้อยที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

ที่สำคัญ ผมขอขอบคุณท่านคณะกรรมการทุกท่านที่ได้กรุณามาช่วยผมทบทวนร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ ทุกท่านล้วนเป็นผู้มีความรู้ความชำนาญในด้านกฎหมายและด้านพลังงาน ซึ่งได้สละเวลามาร่วมประชุมกับผมทุกสัปดาห์ตั้งแต่เดือนกันยายนที่ผ่านมา รวมแล้วไม่ต่ำกว่า 15 รอบ เพื่อให้ร่างกฎหมายฉบับนี้ออกมาอย่างถูกต้องสมบูรณ์ที่สุด ไม่ขาดไม่เกิน

ท่านแรก คือ ท่านณอคุณ สิทธิพงศ์ ท่านเคยเป็นอดีตปลัดกระทรวงพลังงานเป็นผู้ที่มีความรู้ความชำนาญทั้งเรื่องของน้ำมัน ก๊าซ และไฟฟ้า

ท่านที่สอง คือ ท่านอธึก อัศวานันท์ ท่านเป็นนักกฎหมายมือหนึ่ง เป็นผู้ก่อตั้งสำนักกฎหมาย Baker McKenzie และเป็นผู้ที่มีความรู้ความชำนาญกฎหมายระหว่างประเทศ โดยเฉพาะเรื่องของพลังงาน
ท่านที่ 3 คือ ท่านพัชโรดม ลิมปิษเฐียร ผู้แทนจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งเป็นผู้ชำนาญการ และกำกับดูแลกฎหมายด้านพลังงานของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

ท่านที่ 4 คือ ท่านจินตพันธุ์ ทังสุบุตร ตัวแทนจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งท่านเป็นผู้ชำนาญการและดูแลงานกฎหมายด้านการเงินการคลัง

ส่วนท่านสุดท้าย ก็คือ ‘ยิ้ม’ หรือ สุทธิรักษ์ ยิ้มยัง คนที่เป็นมือขวาช่วยผมทำงานด้านกฎหมายมาตลอดตั้งแต่คดีโฮปเวลล์

ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่า กฎหมายฉบับนี้จะเป็นอีกกลไกในการสร้างความเป็นธรรมต่อทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง และเป็นอีกรากฐานในการสร้างความมั่นคง เป็นธรรม และยั่งยืน ของระบบพลังงานไทย เพื่อความสุขของคนไทยทุกคน

ขอบคุณครับ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'พีระพันธุ์' ยกทหารเรือเฉียบขาด บีบเขมรรื้อสันเขื่อนรุกอ่าวไทย

“พีระพันธุ์” ยกย่อง "กองทัพเรือ" เด็ดขาด! บีบทหารเขมรรื้อสันเขื่อนรุกอ่าวไทย ซัดรัฐบาลต้องเฉียบขาด อย่าแค่ประท้วง

รทสช. ติวเข้มผู้สมัคร สส. ชูนโยบายปราบสแกมเมอร์ ปิดฉากรบสยบเขมร

รทสช. พร้อมลุยเลือกตั้ง "พีระพันธุ์" นำเวิร์กช็อป ติวเข้มว่าที่ผู้สมัคร สส. ทั่วประเทศ ย้ำจุดยืน ‘เด็ดขาดแก้วิกฤต พลิกโฉมประเทศ’ ปิดฉากรบสยบเขมร ปราบทุจริต-สแกมเมอร์ ลดค่าไฟ-น้ำมัน เสริมเศรษฐกิจฐานราก สร้างเงินให้เกษตรกร

กฟผ.ลั่นหากไม่มี SMR เป็นทางเลือกต้นทุนค่าไฟพุ่งสูงแน่

กฟผ.รับพีดีพีล่าช้าแต่ไม่ห่วง ยัน SMR ไม่ใช่โครงการระยะสั้นที่ต้องรอจังหวะรัฐบาล แต่เป็นการลงทุนเชิงโครงสร้างที่ต้องเตรียมการ 10 ปีขึ้นไป ย้ำสิ่งสำคัญคือการยอมรับของสังคมที่ต้องอาศัยการสื่อสารและความต่อเนื่องของนโยบาย ลั่นหากไม่มี SMR เป็นทางเลือก ต้นทุนค่าไฟฟ้าจะสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

‘พลังงาน’ สั่งเข้ม! ตรวจสอบส่งออกน้ำมัน สกัดลักลอบส่งน้ำมันไปกัมพูชา

"พลังงาน" สั่งเข้ม! ตรวจสอบปริมาณการส่งออกน้ำมัน ทั้งทางบก-ทางเรือ พร้อมร่วมมือกองทัพเต็มที่ สกัดลักลอบส่งน้ำมันเข้ากัมพูชา

‘พลังงาน’ ยันไม่มีส่งออกน้ำมันไปยังกัมพูชาตั้งแต่ก.ค. 2568

พลังงานลั่นยึดความมั่นคงของชาติเป็นหลัก ย้ำชัดไทยไม่ได้ส่งออกน้ำมันไปยังประเทศกัมพูชาตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา พร้อมแจงตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง ผู้ค้าน้ำมันจะต้องรายงานข้อมูลปริมาณการส่งออกให้กรมธุรกิจพลังงานทราบ หากฝ่าฝืนไม่รายงานหรือรายงานข้อมูลเท็จจะมีโทษตามกฎหมาย