1 ก.พ.2568 - นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในช่วงบ่ายของวันพุธที่ 5 กุมภาพันธ์นี้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ จะออกเดินทางไปเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการ ณ กรุงปักกิ่ง โดยในเช้าวันพฤหัสบดีที่ 6 กุมภาพันธ์ นายกรัฐมนตรี และคณะ มีกำหนดการเข้าประชุมหารือกับ นายสี จิ้นผิง (H.E. Xi Jinping) ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน นายจ้าว เล่อจี้ (H.E. Mr. Zhao Leji) ประธานสภาประชาชนแห่งชาติสาธารณรัฐประชาชนจีน และนายหลี่ เฉียง (H.E. Mr. Li Qiang) นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อขับเคลื่อนความสัมพันธ์และความร่วมมือในทุกมิติ ทั้งการค้าการลงทุน เศรษฐกิจ และสังคมของทั้งสองประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ปี 2568 นี้ เป็นปีทองแห่งมิตรภาพไทย - จีน ครบรอบ 50 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต
นายจิรายุ กล่าวว่า จากนั้นนายกรัฐมนตรีจะวางพวงมาลาที่อนุเสาวรีย์วีรชน ที่จัตุรัสเทียนอันเหมิน โดยในช่วงบ่ายวันเดียวกัน นายกรัฐมนตรีจะเข้าร่วมพิธีตรวจแถวสวนสนามภายในศาลามหาประชาชน และเข้าพบปะหารือร่วมกับนายหลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีจีนและคณะ จากนั้นนายกรัฐมนตรีจะเป็นสักขีพยานในการลงนามข้อตกลงต่าง ๆ ระหว่างไทย - จีน ทั้งในเรื่องเศรษฐกิจการค้าการลงทุน และ ข้อตกลงต่าง ๆ ระหว่างรัฐบาลของทั้งสองประเทศที่ได้บรรลุข้องตกลงระหว่างกัน โดยในช่วงค่ำรัฐบาลจีนโดยนายกรัฐมนตรีจีนและคณะผู้บริหารของรัฐบาลจีนได้จัดงานเลี้ยงรับรองคณะนายกรัฐมนตรีและคณะ
นายจิรายุ กล่าวต่อไปว่า จากนั้นในวันศุกร์ที่ 7 กุมภาพันธ์ ช่วงเช้านายกรัฐมนตรีพร้อมคณะจะออกเดินทางจากกรุงปักกิ่งไปยังเมืองฮาร์บิน ในมณฑลเฮย์หลงเจียง ซึ่งอยู่ทางภาคเหนือของประเทศจีน ตามคำเชิญของรัฐบาลจีน โดยในช่วงเที่ยงวันดังกล่าวประธานาธิบดี สี จิ้นผิง จะเป็นประธานเลี้ยงต้อนรับผู้นำของแต่ละประเทศ และเชิญ นางสาวแพทองธาร เข้าร่วมเป็นเกียรติในพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ฤดูหนาว ครั้งที่ 9 อย่างเป็นทางการ นอกจากในส่วนของการต้องรับของรัฐบาลจีนแล้ว นายกรัฐมนตรีจะพบกับนักกีฬาไทยที่ประสบความสำเร็จในการแข่งขันในงานแสดงศิลปะแกะสลักน้ำแข็ง หรือ Harbin Ice and Snow World โดยในปีนี้จะร่วมทำการแข่งขันอีกด้วย
นายจิรายุ กล่าวว่า ทั้งนี้ คณะของนายกรัฐมนตรี ที่ตะเดินทางประกอบไปด้วย 1.นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม 2.นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย 3.นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง 4.นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม 5.นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ 6.นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา 7.นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ 8.นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ 9.นายพรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นายกฯ ทุบโต๊ะ! ประเทศมหาอำนาจกดดันไทยหยุดยิงไม่ได้ ต้องไปบอกฝ่ายกัมพูชา
นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณี ที่นายหวัง อี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสาธารณรัฐประชาชนชนจีน ได้คุยโทรศัพท์กับนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
‘อิ๊งค์-ปอ’ เข้าเยี่ยม ‘ทักษิณ’ คุยแคนดิเดตนายกฯ เพื่อไทย ฝากกำลังใจยศชนัน
“อิ๊งค์-ปอ” ตัวแทนครอบครัวเข้าเยี่ยม “ทักษิณ ชินวัตร” ครั้งที่ 26 ภายในเรือนจำกลางคลองเปรม เผยมีการพูดถึงแคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย พร้อมส่งกำลังใจให้ “ศ.ยศ
'หลิว จงอี้' พบกองทัพบก จีนชี้รัฐบาลกัมพูชาเอี่ยวขบวนการ 'สแกมเมอร์' หลายมิติ
หลิว จงอี้ ร่วมหารือกองทัพบก ขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาไซเบอร์สแกม เผยรัฐบาลกัมพูชามีความเชื่อมโยงและมีผลประโยชน์ร่วมกับขบวนการสแกมเมอร์ในหลายมิติ
'ลุงสุทิน' ยก 'ทูตพิเศษจีน' คือของจริงที่หยุดลมหายใจเขมรได้ ส่วน 'อันวาร์' คนเดินสารให้สหรัฐฯ จบเห่แล้ว
ตามที่โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน แถลงว่า ทูตพิเศษด้านกิจการเอเชียของกระทรวงการต่างประเทศจีนจะเดินทางไปกัมพูชาและไทยอีกครั้งในวันที่ 18 ธันวาคมนี้ เพื่อไกล่เกลี่ยการปะทะบริเวณชายแดนกัมพูชา-ไทย
'จีน' ปฏิเสธส่งอาวุธช่วยกัมพูชารบ หลังไทยยึดคลังแสงสัญชาติจีนบนเนิน 500 ช่องอานม้า
เพจเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทยออกมาโพสต์คำกล่าวของ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนซึ่งตอบคำถามผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชาในการแถลงข่าวประจำวันของกระทรวงการต่างประเทศจีนในวันที่ 17 ธันวาคม 2568
ทบ. พร้อมพิสูจน์เชิงลึกจีนส่งอาวุธช่วยกัมพูชา ทหารยังไม่ผ่อนหนุนการทูตเร่งกดดัน
พันเอกริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก กล่าวถึงแนวโน้มสถานการณ์สู้รบอาจลดลงหรือไม่ว่า มีการใช้อาวุธยิงสนับสนุนเข้ามาน้อยลงจริง ซึ่ง อาจเกิดจากการที่กองทัพบก และกองทัพอากาศ ลิดรอนการโจมตีของฝ่ายกัมพูชา

