แฟ้มภาพ
เส้นทางแก้รัฐธรรมนูญเพื่อเปิดทางสู่การร่างฉบับใหม่ อาจจอดป้ายตั้งแต่วาระแรก เมื่อแรงเสียดทานจากหลายฝ่ายเริ่มปะทุหนัก
โดยเฉพาะจาก วุฒิสภา พรรคภูมิใจไทย และพรรคพลังประชารัฐ ที่แสดงจุดยืนไม่สนับสนุนการเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญในครั้งนี้ ส่งสัญญาณชัดว่า ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญอาจไปไม่ถึงเส้นชัยตั้งแต่เริ่มต้น
สัญญาณเริ่มต้นจากสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ได้ส่งความเห็นทางกฎหมายถึง นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา โดยยืนยันว่า ก่อนจะแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อยกร่างฉบับใหม่ ต้องมีการทำประชามติถึง 3 ครั้ง เพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมในทุกขั้นตอน ตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญปี 2555 และ 2564
1. ถามประชาชน ว่าต้องการให้มีการร่างรัฐธรรมนูญใหม่หรือไม่
2. หากประชาชนเห็นชอบในครั้งแรก ให้รัฐสภาพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญก่อนนำไปทำประชามติอีกครั้ง
3. เมื่อร่างรัฐธรรมนูญใหม่เสร็จ ต้องให้ประชาชนลงประชามติอีกครั้งว่ารับหรือไม่รับ
ความเห็นนี้ถูกมองว่าจะเป็นด่านหิน หรืออุปสรรคสำคัญ ที่อาจทำให้กระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องชะลอหรือเปลี่ยนแนวทาง ขณะที่ สมาชิกวุฒิสภาจำนวนมากมีแนวโน้มจะไม่สนับสนุน ทำให้โอกาสผ่านวาระแรกแทบเป็นไปไม่ได้
สอดรับกับการเคลื่อนไหวของ พรรคภูมิใจไทย ที่ประกาศจุดยืนชัดเจนว่า จะไม่ร่วมพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในวันที่ 13-14 ก.พ. นี้ โดยให้เหตุผลว่า กระบวนการยังไม่ถูกต้องตามกฎหมาย เนื่องจากไม่มีการทำประชามติก่อน อาจสุ่มเสี่ยงขัดต่อคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญปี 2564
นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค ย้ำว่า พรรคไม่ได้ขวางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่ต้องการให้ดำเนินการตามกฎหมาย โดยได้แจ้งจุดยืนนี้ให้นายกรัฐมนตรีและแกนนำพรรคเพื่อไทยรับทราบแล้ว พร้อมยืนยันว่า แม้พรรคจะไม่ร่วมพิจารณา แต่สมาชิกพรรคจะยังคงเข้าห้องประชุมเพื่อร่วมวาระอื่น
ทางด้าน นายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ย้ำว่า พรรคไม่สนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญทุกมาตรา โดยเฉพาะการแก้ไขมาตรา 256 และเพิ่มหมวด 15/1 เพื่อให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) เพราะมองว่า ขัดต่อคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ
นอกจากนี้ ยังเตือนว่า สส. ที่ลงมติสนับสนุนอาจเสี่ยงถูกฟ้อง ฐานฝ่าฝืนคำวินิจฉัยศาล พร้อมมั่นใจว่า สมาชิกวุฒิสภาส่วนใหญ่จะไม่เห็นด้วย ซึ่งหมายความว่า ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญอาจถูกตีตกตั้งแต่วาระแรก เพราะต้องใช้เสียงสนับสนุนจาก สว. อย่างน้อย 67 คน แต่จากการประเมิน มีแนวโน้มว่าเสียงสนับสนุนอาจไม่ถึงเกณฑ์
เมื่อฝ่ายกฎหมายสำนักเลขาธิการวุฒิสภาชี้ว่าต้องทำประชามติถึง 3 ครั้ง พรรคภูมิใจไทยถอนตัว และพลังประชารัฐประกาศค้านสุดตัว ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญจึงอยู่ในสถานการณ์สุ่มเสี่ยงที่จะถูกตีตกตั้งแต่วาระแรก ขึ้นอยู่กับท่าทีของสมาชิกวุฒิสภาและเสียงสนับสนุนในที่ประชุมรัฐสภา
การประชุมวันที่ 13-14 ก.พ. นี้ จะเป็นศึกชี้ชะตา ว่าร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะไปต่อได้หรือไม่ หรือสุดท้าย จะต้องจอดป้ายตั้งแต่วาระแรกตามที่หลายฝ่ายคาดการณ์!
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ภูมิใจไทยคึกคัก! 'อนุทิน' สวมเสื้อให้ว่าที่ผู้สมัคร สส. อดีตเด็กเพื่อไทยโผล่พรึ่บ
ที่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ตลอดช่วงบ่ายยังคงมีอดีต สส. และนักการเมือง เดินทางมาสมัครสมาชิกพรรคอย่างคึกคัก อาทิ น.ส.สุดารัตน์ พิทักษ์พรพัลลภ อดีต สส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย ที่ได้มีการเปิดตัวไปก่อนหน้านี้แล้ว
'อนุทิน' ลั่นภูมิใจไทยพร้อมทุกขุมกำลัง ก้าวสู่พรรคอันดับหนึ่ง เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล
นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ในฐานะถ้าการเลือกตั้งครั้งหน้าไม่ว่าพรรคภูมิใจไทยจะมาเป็นที่ 1 หรือที่ 2 จะจับมือกับพรรคเพื่อไทยหรือพรรคประชาชน นายอนุทิน ตอบว่า รอให้ถึงวันนั้นก่อน ต้องคิดอีกเยอะ
‘ปิยบุตร’ เผยเบื้องหลัง MOA ปชน.-ภูมิใจไทย เป็นการ ‘ทดลอง’
เลขาธิการคณะก้าวหน้า ยอมรับเสียใจ กระบวนการแก้รัฐธรรมนูญล้มเหลว ชี้เป็นการ “ทดลอง” ภายใต้ข้อจำกัดในระบบการเมือง
รทสช. ออกแถลงการณ์ ชี้แก้รัฐธรรมนูญ-ยุบสภา ซ้ำเติมวิกฤตประเทศ
“รวมไทยสร้างชาติ” ออกแถลงการณ์ ชี้ยุบสภาซ้ำเติมวิกฤต ไม่เกิดประโยชน์ประเทศ สะท้อนให้ความสำคัญการเมืองกว่าความเดือดร้อนประชาชน รทสช. พร้อมพาฝ่าขัดแย้ง ส่งผู้สมัครครบ 77 จว.
นักวิชาการ มธ. มองเลือกตั้งหน้า ‘พรรคประชาชน’ โดดเดี่ยว อำนาจต่อรองไหลกลับเพื่อไทย
นักวิชาการธรรมศาสตร์วิเคราะห์ผลจากการยุบสภา ชี้สมการการเมืองหลังเลือกตั้งมีแนวโน้มทำให้พรรคประชาชนโดดเดี่ยว สูญเสียอำนาจต่อรองในการจัดตั้งรัฐบาล ขณะที่บทบาทต่อรองมีโอกาสไหลกลับไปอยู่ที่พรรคเพื่อไทย ท่ามกลางการแข่งขันของการเมือง 3 ขั้ว
'เฉลิม' ซบ 'ลุงป้อม' ลงเลือกตั้ง สส.ปาร์ตี้ลิสต์ พลังประชารัฐ
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง อดีตสส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เดินทางมา พบ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เพื่อยื่นใบสมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ

