26 ก.พ.2568 - นายแก้วสรร อติโพธิ นักวิชาการด้านกฎหมาย เขียนบทความในรูปถามเรื่อง “กฎหมายในมือโจร” เกี่ยวกับคดีฮั้วเลือก สว. มีเนื้อว่า
ถาม ข้อหา “ ฮั้ว..เลือก สว.” นี่ ไปเข้า ดีเอสไอ ได้ยังไงครับ
ตอบ เขาเสนอก่อนว่า ปรากฏฐานความผิดเป็น “อั้งยี่” จึงขอเสียง สองในสามของคณะกรรมการคดีพิเศษ อนุมัติให้เป็น “คดีพิเศษ” แต่ที่ประชุม 25 กุมภา ให้เลื่อนประชุมไปวันที่ 6 มีนา เพื่อรอฟังทาง กกต.ก่อน
ถาม เห็นในรายงานการสืบสวน ระบุว่ามีการใช้เงินจ้างวานให้แห่กันมาสมัครเป็น สว. แล้วลงคะแนนเลือกบุคคลที่กำหนดด้วย อย่างนี้มีความผิดตามกฎหมายเลือกตั้งชัดๆ ทำไม ดีเอสไอ ไม่ตั้งข้อหาในฐานนี้ล่ะครับ โทษจำคุกถึง 10 ปี เลยนะครับ
ตอบ ถ้าตั้งข้อหาอย่างนั้น มันก็เป็นความผิดตามกฎหมายเลือกตั้ง ที่อยู่ในอำนาจ กกต.โดยตรง ซึ่งตามกฎหมาย กกต.แล้ว กกต.เขาสามารถสั่งให้ดีเอสไอ ยุติการสอบสวน แล้วส่งเรื่องมาให้ กกต.ดำเนินการเองก็ได้
แต่งานนี้ เมื่อต้องการให้ ดีเอสไอจัดการสอบสวนด้วยตนเอง ก็ต้องหาทางตั้งข้อหาตามกฎหมายอื่นที่ไม่ใช่กฎหมายเลือกตั้ง คิดไปคิดมาแล้ว ก็เลยคว้าความผิดฐาน “อั้งยี่” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาเป็นสารตั้งต้นในที่สุด
ถาม โกงเลือกตั้งซื้อขายเสียง แล้วมาเอาผิด “อั้งยี่” ได้อย่างไร คดีฮั้ว สว.นี่ มีองค์กรอาชญากรรม เป็นอั้งยี่ อยู่ข้างหลังหรือครับ
ตอบ มันไม่เข้าองค์ประกอบเป็น “อั้งยี่” หรอกครับ ตามที่กล่าวหานั้น มีการสมคบเป็นวงกว้างทั้งประเทศก็จริงอยู่ แต่นั่นเป็นแค่ “ การจัดการ”เฉพาะกิจ เสร็จแล้วก็จบเลิกกันไป มันไม่ใช่ “การจัดตั้ง” เป็นองค์การอาชญากรรม จนเป็นภัยต่อความสงบแต่อย่างไร
ถาม ทำให้ถูกต้อง ต้องทำอย่างไรครับ
ตอบ เกิดความผิดซื้อสิทธิ์ขายเสียงเห็นอยู่ชัดๆ ก็เอาผิดตรงนั้นเลย เหมือนเจอผู้ต้องสงสัยคดีลักทรัพย์ ก็ต้องตั้งข้อหาลักทรัพย์ สอบสวนแล้วก็สรุปว่าผิดลักทรัพย์ ไม่ใช่กลัวว่าศาลจะยกฟ้องเพราะหลักฐานลักทรัพย์ไม่แน่นพอ ก็เลยตั้งข้อหาซ่องโจรแถมไปด้วย แต่เนื่องจากกฎหมายระบุว่าซ่องโจรต้องมี ๕ คนขึ้นไป ตำรวจก็เลยระบุว่าจำเลยทั้งสองทำผิดลักทรัพย์ และร่วมกับพวกอีกสามคนที่หลบหนีไป กระทำความผิดฐานเป็นซ่องโจร อีกกระทงหนึ่งด้วย เหลี่ยมเผื่อเหนียวแถมซ่องโจรอย่างนี้ ตำรวจใช้กันมานานแล้ว
ถาม มองอย่างนี้ อาจารย์เลยเห็นตรงกับคุณเปลว สีเงิน ว่า งานนี้ อำนาจ ดีเอสไอ ถูกใช้โดยมิชอบ ด้วยความโกรธทางการเมืองที่ สว.สีน้ำเงินไปขวางทางรื้อรัฐธรรมนูญของเขา
ตอบ มันบ่งชัดว่า งานนี้เขาพยายามหลีกหนีอำนาจ กกต.โดยสร้างข้อหา “อั้งยี่” ขึ้นมาเป็นสารตั้งต้น เขาอยู่กระทรวงยุติธรรม แล้วใช้กฎหมายไม่ยุติธรรม ไม่ตรงไปตรงมาอย่างนี้ ผมรับไม่ได้
ถาม วันที่ 6 มีนา นี้ อาจารย์ว่า กกต.เขาจะมาร่วมประชุมบอร์ดคดีพิเศษ หรือไม่
ตอบ น่าจะส่งระดับเจ้าหน้าที่มาฟัง แล้วบอกที่ประชุมว่า กกต.คงตอบอะไรไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องของดีเอสไอเองว่าจะมีมติเป็นคดีพิเศษหรือไม่ ตัวคณะกรรมการ กกต.เอง ฝากบอกด้วยว่า ถ้าตั้งข้อหาผิดกฎหมายเลือกตั้งเมื่อใด ก็ค่อยส่งสำนวนรายงาน กกต. เพื่อพิจารณาต่อไปก็แล้วกัน
ถาม ถ้าออกมาเหลี่ยมนี้ ดีเอสไอคงไปไม่ถูกเหมือนกัน
ตอบ มีทางเดียว คือเดินหน้าสอบสวนอย่างจริงจัง ในความผิดตามกฎหมายเลือกตั้งต่อไปเท่านั้น ซึ่งเขาต้องมีพยานหลักฐานในมือมากกว่านี้อีกมาก ว่าใครบ้างเป็นผู้จัดฮั้ว ตั้งข้อหาแล้ว สอบสวนแล้ว ก็ค่อยแจ้ง กกต.ให้ทราบว่า อยากจะรับสำนวนไปสอบสวนต่อหรือไม่ เรื่องนี้ก็ต้องยาวยืดเยื้อต่อไป
ถาม ทำไม..กฎหมายไทยจึงถูกใช้เป็นเกมการเมืองได้แบบนี้ครับ
ตอบ โจรมันเข้ามามีอำนาจ คับบ้านคับเมืองแล้ว อำนาจกฎหมาย เลยกลายเป็นอำนาจโจรไป
ในทางการเมืองนั้น ทำกันอย่างนี้ถือได้ว่า หน้าตัวเมียเล่นกันล้ำเส้นแดงอีกแล้ว เหมือนอเมริกาเอาจรวดใส่มือ ยูเครน ให้ยูเครนยิงลงกลางมอสโคว์ตรงจัตุรัสแดงเลย ทำกันอย่างนี้ ‘ตินไม่ยอมแน่
งานนี้...ผมว่า ‘ทินกับ ‘วิน ก็ไม่มีทางยอมเหมือนกัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'แก้วสรร' ออกบทความเดือด! ใครรังแกมึงวะ?
นายแก้วสรร อติโพธิ นักกฎหมาย นักวิชาการ เผยแพร่บทความในรูปถาม-ตอบ
ลุ้นกันยาวๆ 24 ธ.ค.ศาล รธน.นัดไต่สวนพยานคดี 'ภูมิธรรม-ทวี' จุ้นคดีฮั้ว สว.
ศาล รธน.นัดไต่สวนพยานคดีสถานะ 'ภูมิธรรม-ทวี' จุ้นคดีฮั้วเลือก สว. 24ธ.ค.นี้ พร้อมไม่อนุญาต 'สราวุธ' ถอนตัวจากการพิจารณาคดี
กกต. แจงอดีตพนักงานถูกกล่าวหารับเงิน 'ฮั้ว สว.' สั่งให้ออก-ตั้งคกก.สอบแล้ว
สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ออกเอกสารชี้แจงตามที่มีการเผยแพร่ข้อมูลบนสื่อสังคมออนไลน์เกี่ยวกับการนำเอกสารไปยื่นต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อให้รับเป็นคดีพิเศษ ในประเด็นที่มีการกล่าวหาว่าพนักงานของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งรายหนึ่ง
ส่อหนังยาว! รุทธพลรับคดีเขากระโดงต้องรอคำพิพากษา-ดีเอสไอรวบรวมหลักฐาน
'รุทธพล' เผยคดีสืบสวนเขากระโดง ขอรอดูคำพิพากษาศาล พ้อหากคดีนี้ทำได้จริง ต้องย้อนถามกลับอดีต รมว.ยธ.คนก่อนหน้า ส่วนจะรับเป็นคดีพิเศษทันวาระรัฐบาลหรือไม่อยู่ที่พยานหลักฐานที่ดีเอสไอเสนอมา
การรถไฟฯ พบ 'ดีเอสไอ' ร้องทุกข์กล่าวโทษ 'กลุ่มบุคคล-จนท.รัฐ' ยึดที่เขากระโดง
“ฝ่ายกฎหมายการรถไฟฯ” หอบเอกสารร้องทุกข์ “ดีเอสไอ” เอาผิด ”กลุ่มบุคคล-จนท.รัฐ“ ซึ่งได้ยึดที่เขากระโดง ต.อิสาณ ต.เสม็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ทั้งหมด 4,414 ไร่ ตามกฎหมายเกี่ยวข้อง ยืนยัน กรรมสิทธิ์ที่ดินเป็นของการรถไฟฯ แย้ม
'ดีเอสไอ' บี้การรถไฟ แจ้งความร้องทุกข์คดีเขากระโดง ขู่ฟัน ม.157 หากไม่มา
"รฟท." เลื่อนแจ้งความเอาผิดปมเขากระโดงไม่มีกำหนด ด้าน "ดีเอสไอ" เตรียมทำหนังสือถึงการรถไฟอีกครั้ง หากไม่มาร้องทุกข์ อาจเข้าข่ายละเลยปฏิบัติหน้าที่


