4 เมษายน 2568 - เวลา 17.24 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จออก ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายนเรนทร โมที (Mr.Narendra Modi) นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐอินเดีย เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ในโอกาสเดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของรัฐบาล
ในโอกาสนี้ นายสิทธารถ บาบู (Mr.Sidharth Babu) นักการทูตปฏิบัติการ กรมเอเชียตะวันออก กระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐอินเดีย ปฏิบัติหน้าที่ล่ามภาษาฮินดี-อังกฤษ ร่วมเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ด้วย
ประเทศไทยและสาธารณรัฐอินเดียมีความสัมพันธ์ที่ดีในระดับพระราชวงศ์และระดับรัฐบาล ทั้งยังมีความผูกพันด้านวัฒนธรรมมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 6-11 โดยมีการสถาปนาความสัมพันธ์ในระดับอัครราชทูตต่อกัน เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2490 และได้มีความสัมพันธ์ในระดับเอกอัครราชทูต เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2494 โดยมีการฉลองครบ 75 ปี ของการสถาปนาทางการทูตไปเมื่อปี 2565
ทั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้เคยเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยือนสาธารณรัฐอินเดียอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 7-21 เมษายน 2535 และเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยือนอีกครั้งเมื่อวันที่ 23 – 27 ธันวาคม 2541 กับทรงทำการบินเครื่องบินพระที่นั่งเทียวบินพิเศษมหากุศล เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2553 โดยทรงทำหน้าที่นักบิน นำพุทธศาสนิกชนไปกราบสักการะสังเวชนียสถาน ณ ตำบลพุทธคยา ซึ่งเป็นสถานที่ตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมารัฐบาลของทั้งสองประเทศได้มีความร่วมมือในด้านต่างๆ อาทิ เมื่อปี 2567 รัฐบาลไทยและรัฐบาลอินเดีย ได้มีความเห็นชอบอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุของพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะมาประดิษฐานที่ประเทศไทยเป็นการชั่วคราว ระว่างวันที่ 23 กุมภาพันธ์ – 18 มีนาคม 2567 เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 รวมทั้งยังทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมรับสถานพยาบาลกุสินาราคลินิก เมืองกุสินารา รัฐอุตตรประเทศ ไว้ในพระบรมราชูปถัมภ์
ในการเดินทางมาเยือนประเทศไทยของนายกรัฐมนตรีอินเดียครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 3 โดยในครั้งแรกเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2559 ได้เดินทางมาถวายสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ซึ่งในครั้งนี้ทั้งสองฝ่ายจะได้หารือร่วมกัน เพื่อยกระดับความสัมพันธ์และความร่วมมือในด้านต่าง ๆ อาทิ ด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน การศึกษา ด้านวิทยาศาสตร์ และการท่องเที่ยว ตลอดจนการเชื่อมโยงทางคมนาคม รวมทั้งความร่วมมือด้านความมั่นคง อีกด้วย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ในหลวง พระราชินี ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ รัชกาลที่ 9
ในหลวง พระราชินี ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพรัชกาลที่ 9 และสถาปนาพระอิสริยศักดิ์เฉลิมพระนามพระอัฐิสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมพระนราธิวาสราชนครินทร์ บดินทรเชษฐภคินี
พระราชทาน100ล. ‘ในหลวง’ทรงห่วงใยราษฎรผู้ประสบภัยนํ้าท่วมพื้นที่ภาคใต้
นายกฯ โพสต์หนังสือหน่วยราชการในพระองค์ 904 แจ้ง 4 พระราชกระแส ทั้งรับศพผู้เสียชีวิตฯ พระราชทานกำลังใจแพทย์ พระราชทานเงิน
นายกฯ ปลื้มปีติในพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้น 'ในหลวง' พระราชทานความช่วยเหลือน้ำท่วมภาคใต้
นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย กล่าวว่า ถือเป็นพระมหากรุณาธิคุณ ซึ่งตนได้รับการเชิญพระราชกระแส จากท่านพล.อ.อ.สถิตย์พงษ์ สุขวิมล ราชเลขานุการในพระองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
โปรดเกล้าฯ พระราชทานเพลิงศพ-ดินฝังศพเป็นกรณีพิเศษ พร้อมเงินช่วยเหลือผู้เสียชีวิตอุทกภัยภาคใต้
ในหลวง โปรดเกล้าฯ พระราชทานเพลิงศพ-ดินฝังศพเป็นกรณีพิเศษแก่ผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วมรุนแรงภาคใต้ พร้อมพระราชทานเงินช่วยเหลือครอบครัวผู้สูญเสีย
ในหลวงพระราชทาน 100 ล้าน-โดรนช่วยอุทกภัยใต้ รับศพทุกรายไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์
นายกฯ โพสต์หนังสือหน่วยราชการในพระองค์ 904 แจ้ง 4 พระราชกระแส ทั้งรับศพผู้เสียชีวิตฯ พระราชทานกำลังใจแพทย์ มอบ 100 ล้านบาทฟื้นฟูรพ.หาดใหญ่ และพระราชทานโดรนสนับสนุนกองทัพ-ตร. ใช้ในภารกิจช่วยเหลือผู้ประสบภัยภาคใต้
ในหลวง-พระราชินี พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ คิปโชเก้ นักวิ่งชาวเคนยา เฝ้าฯ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จออก ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ คณะบุคคลต่าง ๆ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ตามลำดับดังนี้


