26 ใบเสร็จค่ายา 0 บาท: หลักฐานเงียบ ก่อนศาลไต่สวน คืนคุก-จุดจบรัฐบาล?

แม้ใครบางคนอาจมองว่าเป็นเพียง ใบเสร็จค่าห้องธรรมดา แต่ 26 ใบเสร็จของโรงพยาบาลตำรวจ ที่ไร้เงา ค่ายา ค่าหมอ หรือเวชภัณฑ์ กลับกลายเป็น พยานเอกสารที่อันตรายที่สุด สำหรับ ทักษิณ ชินวัตร นับตั้งแต่เหยียบแผ่นดินไทยในฐานะนักโทษ

เพราะนั่นคือสิ่งที่กระแทกกลางใจคำถามที่ค้างคาในสังคมว่า ทักษิณป่วยจริง หรือป่วยทิพย์?

และยิ่งสั่นคลอนเมื่อ แพทยสภา องค์กรวิชาชีพแพทย์ที่ควรยืนบน หลักจริยธรรมแท้จริง กล้าฟันมติ ลงโทษแพทย์ 3 ราย ที่เกี่ยวข้องกับการรักษาทักษิณ

แต่ยังไม่ทันที่สังคมจะเห็น ผลลัพธ์ตามครรลอง กลับมี เงารัฐบาลแทรกซ้อน ผ่านมือของ สมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีสาธารณสุข ผู้ใช้ อำนาจพิเศษในฐานะ “สภานายกพิเศษ” วีโต้มติแพทยสภา

คือการฉุดรั้ง ศรัทธาประชาชน กลับเข้าสู่ ปลักเก่า และ รัฐประหารความยุติธรรมทางวิชาชีพ

หลายฝ่ายจึงเริ่มออกมาส่งเสียง ไม่ใช่แค่เพื่อ แพทย์สามคน ที่กลายเป็น หมากในเกมอำนาจ แต่เพื่อ แพทยสภาทั้งสถาบัน ว่าจะยืนหยัดอยู่บน ความถูกต้อง หรือยอมให้ การเมืองบงการจริยธรรม

กระแสในโลกออนไลน์เริ่มก่อตัวขึ้น อย่างไม่ได้นัดหมาย มีการติดแฮชแท็กให้กำลังใจ “หมอแพทยสภา” พร้อมรณรงค์ให้ประชาชนร่วมลงชื่อ สนับสนุนให้แพทยสภา ยืนหยัดตามมติเดิม ไม่หวั่นไหวต่อ แรงกดดันทางการเมือง

เพจดังอย่าง หมอแล็บแพนด้า และ นักวิชาการด้านสาธารณสุข หลายรายเริ่มออกมาส่งเสียงชัดเจน ร่วมแสดงความเห็นสนับสนุน แพทยสภา ในสถานการณ์นี้

เสียงที่เคยแผ่วเบาเริ่ม ดังขึ้นทุกขณะ และไม่ได้มีแต่ คนเสื้อสีตรงข้ามทักษิณ ที่ไม่พอใจ แต่รวมถึง คนกลาง และ คนรุ่นใหม่ ที่รู้สึกว่า ความยุติธรรมต้องไม่ถูกเหยียบย่ำซ้ำซาก

การตัดสินใจของ สมศักดิ์ เทพสุทิน จึงไม่ใช่แค่ การปกป้องแพทย์ ที่เกี่ยวข้องกับทักษิณ แต่มันได้ จุดชนวนระเบิดทางสังคม ที่สั่นสะเทือน ความชอบธรรมของรัฐบาล ไปอีกระลอก

และเมื่อย้อนดูบทบาทของสมศักดิ์ ตั้งแต่เป็น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ที่ ปรับแก้ระเบียบราชทัณฑ์ ในรัฐบาลลุงตู่ ไปจนถึงบทบาทปัจจุบันในฐานะผู้ที่ กีดกันไม่ให้แพทยสภาลงโทษแพทย์ที่เกี่ยวข้องกับทักษิณ

ภาพรวมทั้งหมดจึงชัดเจนว่า สมศักดิ์ คือแรงสนับสนุนสำคัญ ที่ช่วย ประคองเส้นทางกลับบ้านของเจ้านาย หากเจ้านายพัง เส้นทางของสมศักดิ์ ก็คง ปิดฉากลงเช่นกัน

และเมื่อพิจารณาไทม์ไลน์นับตั้งแต่คืนที่ ทักษิณป่วยกะทันหัน หลังจากถูกควบคุมตัวไม่กี่ชั่วโมง จนถึงการไปพักฟื้น กว่า 180 วัน บน ชั้น 14 ของโรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่มีใครเคยเห็นแม้ เงาหมอและยา ก็ยิ่งทำให้คนสงสัยว่า เรื่องนี้จริงหรือแค่ข้ออ้าง

13 มิ.ย. ที่จะถึงนี้ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้นัด ไต่สวนเพื่อพิจารณาข้อเท็จจริงว่า ช่วงเวลาที่ทักษิณอยู่โรงพยาบาลนั้น คือ การติดคุกจริงหรือไม่

แต่ก่อนถึงวันนั้นแค่ 24 ชั่วโมง — วันที่ 12 มิ.ย. คือวัน ประชุมใหญ่ของแพทยสภา ที่จะพิจารณา ยืนยันหรือเปลี่ยนแปลงมติเดิม โดยต้องใช้เสียงไม่น้อยกว่า 2 ใน 3 หรือ 47 จาก 70 คน ซึ่งในความเป็นจริง ยัง ไม่ปรากฏเหตุผลใดที่เพียงพอจะลบล้างมติแรก

หาก แพทยสภายืนยันตามเดิม — มติ ลงโทษแพทย์ 3 คน ที่เกี่ยวข้องกับการวินิจฉัย “ทักษิณป่วยหนัก” ก็จะกลายเป็น หลักฐานชิ้นสำคัญ ที่ศาลใช้ในการไต่สวนวันรุ่งขึ้น

และหากศาลเห็นว่า เอกสารทางการแพทย์นั้นเป็นเท็จ หรือ อ้างอิงจากเจตนาทางการเมือง มากกว่าความจริง ทักษิณอาจต้อง บันทึกประสบการณ์ใหม่ ในเรือนจำอีกครั้ง

แม้ คำร้องจาก ชาญชัย อิสระเสนารักษ์ จะถูกศาลยกถึง 3 ครั้ง ด้วยเหตุผลว่า “ไม่ใช่ผู้เสียหายโดยตรง” แต่ หลักฐานใหม่ ที่เขานำเสนอ กลับทำให้ศาลใช้ “ดุลยพินิจ” ขยับขึ้นมาทำหน้าที่ เจ้าภาพไต่สวนเอง

และเมื่อ “กลุ่มชาญชัย” ซึ่งประกอบด้วย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ สมชาย แสวงการ นพ.ตุลย์ และนิติธร ล้ำเหลือ ได้รวมตัวกัน ยื่นพยานหลักฐานเพิ่มเติม — ภาพ ความพยายามกระชากหน้ากากการป่วยของทักษิณ จึงเด่นชัดมากขึ้น

ไม่ว่าจะเป็น เอกสารของพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ที่เคยยืนยันต่อ ป.ป.ช. ว่า ชั้น 14 นั้นมิได้มีการรักษาแบบวิกฤต, หรือ รายงานของคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สว. และ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ที่ชี้ว่า การใช้สิทธิพิเศษนี้อาจเข้าข่ายเลือกปฏิบัติ

แต่ที่ร้อนแรงที่สุดคือ ใบเสร็จค่าห้อง 26 ใบ ที่ไม่มีแม้แต่ รายการค่ายา ซึ่ง “ชาญชัย” ยืนยันว่าเป็นของแท้ มี เจ้าหน้าที่ รพ.ตำรวจ ลงชื่อรับรองทุกฉบับ

จึงไม่ใช่เรื่องเลื่อนลอย หากสาธารณชนจะสงสัยว่า การป่วยของทักษิณ คือการปั้นแต่งเพื่อไม่ต้องติดคุกแม้แต่วันเดียว

ขณะเดียวกันก็มี สัญญาณว่า บางฝ่ายอาจพยายามออกเอกสารย้อนหลัง เพื่อทำให้ ข้อมูลของชาญชัยหมดน้ำหนัก ซึ่งหากเกิดขึ้นจริง ย่อมหมายถึง การปกปิดและบิดเบือนหลักฐานต่อศาล

ด้าน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ที่เคย เข้าเยี่ยมทักษิณถึง 2 ครั้งบนชั้น 14 ก็ออกมาสนับสนุน การไต่สวนเต็มที่ พร้อมย้ำว่า หากไม่รีบทำ ความจริงให้ปรากฏ ทักษิณจะกลายเป็น ศูนย์รวมความวุ่นวายของประเทศอีกครั้ง

เส้นทางสู่วันที่ 13 มิ.ย. จึงไม่ใช่แค่เรื่องของนักโทษคนหนึ่งจะกลับเข้าคุกหรือไม่ แต่คือบททดสอบสำคัญว่า หลักนิติธรรมของประเทศ จะยังได้รับการตีความและบังคับใช้อย่างเสมอภาคอยู่หรือไม่ ภายใต้สายตาของประชาชนทั้งประเทศที่กำลังเฝ้ามองอย่างไม่กะพริบ

และมากไปกว่านั้นคือ คำถามปลายเปิดที่เริ่มดังขึ้นทุกขณะว่า รัฐบาลนี้จะอยู่ต่อไปได้อีกนานแค่ไหน หากทักษิณต้องคืนคุก?

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘เสรีพิศุทธ์’ จัดเต็ม ‘ทักษิณ’ ยังไม่สิ้นกรรม แฉลึก...ศึกสีกากี

กลายเป็นเรื่องที่สร้างเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตามมาอย่างมาก กับการออกเปิดโปง-แฉข้อมูลเรื่องตำรวจรับผลประโยชน์ รับส่วยจากเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์

'ภูมิใจไทย'โชว์พร้อมยุบสภา 'ทักษิณ'ถูกสกัด-'พท.แพแตก'

การเมืองเวลานี้ต้องจับตาว่าจะมีการเลือกตั้งตาม MOA ระหว่างพรรคประชาชนและพรรคภูมิใจไทย ที่กำหนดวันเลือกตั้งไว้วันที่ 31 มกราคม 2569 เพื่อเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้งใหญ่หรือไม่

พูดแบบนี้ได้ยังไง! อดีตลูกจ้างวอยซ์ ลั่นไม่เห็นใจทักษิณ หลังคดี 112 ถูกอุทธรณ์

อินฟลูเอนเซอร์สายการเมือง และอดีตพิธีกรข่าววอยซ์ทีวีของตระกูลชินวัตร แสดงความคิดเห็นผ่านสื่อออนไลน์ หลังอัยการสูงสุดยื่นอุทธรณ์คดีมาตรา 112 ข

‘ปลื้ม’ ถอดบทเรียนทักษิณ ต้องรู้จักแพ้-รู้จักหมอบ ถ้ามีแผลก็อย่าซ่า

หม่อมหลวงณัฏฐกรณ์ เทวกุล ไลฟ์ “บทเรียนที่แสนแพง” ชี้ชีวิตการเมืองไม่สวยหรู เด็กต้องเรียนรู้การพ่ายแพ้ เก็บข้าวของกลับบ้าน และรู้ว่าถ้ามีแผลในสารบบศาบ แผลนั้นพร้อมเหวอะทันทีเมื่อถูกเชือด ระบุซ่าได้ต่อเมื่อไม่มีแผล

คดี112 ประธานผู้ลี้ภัย โวยกฎหมายโบราณกลั่นแกล้งทักษิณ

นายจรัล ดิษฐาอภิชัย อดีตกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ประธานสมาคมนักประชาธิปไตยชาวไทยไร้พรมแดน ปัจจุบันลี้ภัยในฝรั่งเศส โพสต์เ

ไม่ยอม ‘ทนายทักษิณ‘ ลำดับไทม์ไลน์คดีขายหุ้นชินคอร์ป ก่อนชี้เปรี้ยงคำวินิจฉัยศาลฎีกามีความพิสดาร

นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความประจำตัวของนายทักษิณ ชินวัตร โพสต์เฟซบุ๊กว่า ลำดับเหตุการณ์คดีภาษีการข