รู้แล้วทหารมีไว้ทำไม! 'วิโรจน์' ชื่นชมแม่ทัพภาค 2 ทำหน้าที่เหมาะสม แต่ข้องใจท่าทีรัฐบาล

3 มิ.ย.2568- นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความหัวข้อ ความพร้อมรบของกองทัพ อย่างอดทนอดกลั้น และการตอบโต้ที่ชอบธรรม จะกดดันให้เกิดการเจรจา

……………………………

สำหรับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนอย่างมาก ดังนั้นการให้ความคิดเห็นในแง่มุมใดๆ จำเป็นที่จะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เพราะอาจจะถูกอีกฝ่ายหนึ่งหยิบยกขึ้นมาใช้ขยายข้อพิพาท หรือเอามาใช้เป็นเงื่อนไขในการเจรจาที่ทำให้ประเทศไทยเสียเปรียบในอนาคตได้

ในภาพรวม จนถึงปัจจุบัน กมธ.ทหาร ยืนยันว่า การปฏิบัติหน้าที่ของ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค 2 ทำได้อย่างเหมาะสมแล้ว มีความเข้มแข็งในการปกป้องอธิปไตยของชาติ โดยที่ยังเปิดทางในการเจรจาด้วยสันติวิธี ไม่ได้มีท่าทีที่ประสงค์จะรบ แต่ก็พร้อมรบอย่างไม่หวาดหวั่น

ผมเข้าใจความจำเป็นในการสงวนท่าทีของรองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง และ รมว.ต่างประเทศ แต่อย่างไรก็ตามก็ควรชี้แจงกับประชาชน ให้ได้รับทราบว่า รัฐบาลไม่ได้ละเลยกับปัญหาดังกล่าว ยังคงประเมินสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง และพร้อมดำเนินมาตรการที่ได้สัดส่วน เป็นไปตามหลักสากล ที่เหมาะกับสถานการณ์ อย่างทันท่วงที หากถูกรุกล้ำอธิปไตย

ข้อพิพาทระหว่างไทย และกัมพูชา ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ เราจำเป็นต้องรู้เท่าทันว่า ส่วนหนึ่งมาจากอีกฝ่ายที่พยายามหยิบยกเอาเรื่องเขตแดนมาสร้างกระแสชาตินิยม เพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองของตนเอง

ผมเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่า ท่าทีที่เข้มแข็งของเรา และมาตรการตอบโต้ที่ชอบธรรม เหมาะสมต่อสถานการณ์ จะสามารถทำให้อีกฝ่ายเข้าสู่กระบวนการเจรจาได้ในที่สุด

เบื้องต้นผมเห็นด้วยว่า กระทรวงการต่างประเทศควรเร่งประสานจัดการประชุมคณะกรรมการเขตแดนร่วม หรือ JBC (Thai-Cambodian Joint Boundary Commission) เพื่อเจรจาหาทางออกร่วมกันอย่างสันติ โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ร่วมกันของทั้ง 2 ประเทศ

ผมคิดว่า การที่กัมพูชาท้าทาย ด้วยการที่จะนำเอาข้อพิพาทที่ช่องบก ไปพิจารณาที่ศาลโลก หรือ ศาล ICJ (International Court of Justice) ผมประเมินว่า เป็นการสร้างประเด็นเพื่อให้ตนดูมีอำนาจต่อรองเพิ่มขึ้นเท่านั้น เพราะการพิจารณาที่ศาลโลก ต้องใช้ระยะเวลาที่ยาวนาน ซึ่งหากทำเช่นนั้นย่อมส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ และความเป็นอยู่ของประชาชนทั้ง 2 ประเทศอย่างแสนสาหัส ที่สำคัญการตัดสินของศาลโลก อาจทำให้ไทย และกัมพูชา ต่างฝ่ายต่างได้ และเสียคนละส่วน ซึ่งเมื่อพิจารณาถึงผลลัพธ์สุทธิแล้ว อาจจะทำให้ทั้งไทย และกัมพูชา เสียผลประโยชน์ร่วมกันอย่างมหาศาล เป็นการยุติข้อพิพาทที่ได้ไม่คุ้มเสีย

ผมคิดว่า เราจำเป็นต้องอดทนอดกลั้นต่อการท้าทายยั่วยุ ซึ่งอีกฝ่ายหมายจะให้เราใช้กำลัง เพื่อที่เขาจะได้หยิบยกมาเป็นข้ออ้างในการขยายความขัดแย้ง ผมเชื่อว่าในที่สุดถ้าจำเป็นต้องรบ ด้วยความเข้มแข็งของกองทัพ เราสามารถรบชนะได้แน่ๆ แต่กว่าจะไปถึงขั้นนั้น เราจำเป็นต้องใช้สันติวิธีตามหลักสากล เพื่อหลีกเลี่ยงการใช้กำลังอย่างถึงที่สุดเสียก่อน เพื่อความชอบธรรมในการใช้กำลัง ในกรณีที่หลีกเลี่ยงไม่ได้แล้วจริงๆ

จะมีประโยชน์อะไรหากชัยชนะที่ได้มา ต้องแลกกับความสูญเสีย และหายนะทางเศรษฐกิจ และคุณภาพชีวิตของประชาชนที่อยู่อาศัยตามแนวชายแดน.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เสียงปืนเขมรเบาลงครั้งแรกในช่วง 12 วันสู้รบ พบลูกจรวดเกลื่อนไร่ยางพารา

เสียงปืนฝั่งเขมรหยุดลงครั้งแรกในรอบ 12 วัน จนท.เร่งลงพื้นที่ตรวจสอบพื้นที่โดยรอบ พบลูกจรวดปืนใหญ่ตกใส่ไร่ยางพาราเป็นจำนวนมาก มีทั้งแตกและไม่แตก ระบุเขมรหันกระบอกปืนมาทางพลเรือนของไทย

นายกฯ ทุบโต๊ะ! ประเทศมหาอำนาจกดดันไทยหยุดยิงไม่ได้ ต้องไปบอกฝ่ายกัมพูชา

นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณี ที่นายหวัง อี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสาธารณรัฐประชาชนชนจีน ได้คุยโทรศัพท์กับนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ

'อนุทิน' เปิดพรรครับ 'กลุ่มรักสถาบัน' ให้กำลังใจ ปกป้องอธิปไตยไทย

'อนุทิน' เปิดพรรค รับดอกไม้-หนังสือ 'กลุ่มศปปส.' ให้กำลังใจปกป้องอธิปไตย ลั่นไทยไม่มีแพ้ ขอมั่นใจพร้อมสู้เคียงบ่าเคียงไหล่ทหาร

'ทหารผ่านศึก' รวมพลังส่งกำลังใจทหารชายแดน 'รมว.กห.' ย้ำเงื่อนไขหยุดยิง

ทหารผ่านศึกรวมพลังส่งกำลังใจทหารชายแดน ด้าน 'บิ๊กเล็ก' ส่งรองเสธ.ทหาร ร่วมถก รมว.กต.อาเซียน ย้ำไทยหยุดยิงหากกัมพูชาสิ้นปฏิปักษ์ชัดเจนเปิดเผยต่อเนื่อง เคืองนานาชาติไม่ประณามปมวางทุ่นระเบิด

'บิ๊กเล็ก' สั่งคุมเข้ม! รับเขมรอาจจ้องก่อวินาศกรรม 'แท่นขุดเจาะน้ำมัน'

'รมว.กห.' ยอมรับกัมพูชาอาจพยายามก่อวินาศกรรมแท่นขุดเจาะน้ำมัน หลังพบโดรนบินอ่าวไทย สั่งทุกเหล่าทัพเพิ่มความเข้มงวดมาตรการดูแลความปลอดภัย ชี้เขมรทำลายโดรน D-20 เป็นเรื่องน่าเสียดาย