จตุพร พรหมพันธุ์ ซัดรัฐบาลไร้เสถียรภาพ ทั้งศึกนอกศึกในรุมเร้า ชี้พรรคร่วมแตกหักไม่เหลือเยื่อใย ขณะนายกฯแพทองธารโชว์ไม่เข้าใจสถานการณ์ชายแดน สั่งเปิด-ปิดด่านไร้แผน หวังแพทยสภาย้ำมติลงโทษ 3 หมออย่างมีศักดิ์ศรี
12 มิถุนายน 2568 - นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน กล่าวในเฟซบุ๊กไลฟ์ “ประเทศไทยต้องมาก่อน” เมื่อวันที่ 11 มิถุนายนที่ผ่านมา วิจารณ์สถานการณ์การเมืองว่า รัฐบาลภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทยกำลังเข้าสู่ภาวะ “เละเทะไร้ชิ้นดี” ทั้งจากแรงเสียดทานภายในพรรคร่วมรัฐบาล และแรงกดดันจากชายแดนตึงเครียดไทย-กัมพูชา โดยระบุว่า รัฐบาลชุดนี้จะอยู่ได้อีกไม่นาน หากยังเดินเกมการเมืองแบบหลงทิศทางเช่นปัจจุบัน
นายจตุพรฉายภาพว่า ภายในรัฐบาลขณะนี้ พลังประชารัฐแตกร้าวเป็นสองซีก, รวมไทยสร้างชาติแฉโพยกันจนยากจะประสานรอยร้าว ขณะที่ ภูมิใจไทยแม้ถูกรุมดึงให้ทะเลาะ แต่ยังประคองตัวด้วยความเป็นเอกภาพ โดยเฉพาะบทบาทของนายอนุทิน ชาญวีรกูล ในฐานะ รมว.มหาดไทย ลงพื้นที่ชายแดนตะวันออกเฉียงเหนืออย่างโดดเด่น กลบความไร้ภาวะผู้นำของพรรคแกนนำอย่างเพื่อไทยไปโดยปริยาย
แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ถูกวิจารณ์อย่างหนัก หลังเดินทางไปดูงานปัญหาน้ำที่กาญจนบุรี ทั้งที่สถานการณ์ชายแดนเกิดขึ้นที่อุบลราชธานี จนภายหลังต้องปรับทิศ ลงพื้นที่ช่องจอม จ.สุรินทร์ แต่กลับถูกประชาชนตำหนิหนักจากการโชว์คำสั่งเปิด-ปิดด่านอย่างไม่เข้าใจพลวัตของปัญหาระหว่างประเทศ สะท้อนความเป็น “คุณหนูนายกฯ” ที่แสดงอารมณ์ขัดใจไร้สาระ อย่างการถูกห้ามซื้อลอตเตอรี่ จนเสียแต้มทางการเมืองซ้ำซาก
“ไม่มีใครคาดหวังว่านายกฯ จะช่วยแก้ปัญหาชายแดนได้เลย เพราะไปช้า ไม่เข้าใจสถานการณ์ และไม่สื่อสารกับความรู้สึกของประชาชนที่อยู่ภายใต้เงากระสุน” นายจตุพรระบุ พร้อมชี้ว่า บทบาทของกระทรวงกลาโหมและต่างประเทศไม่สอดคล้องกับวิกฤตชายแดน และ การเลือกใช้เวที JBC ในวันที่ 14 มิ.ย.ก็ไม่ตอบโจทย์เมื่อกัมพูชาประกาศไม่ร่วมเจรจาเรื่องช่องบก
เขาย้ำว่า ไทยควรเลื่อนการประชุม JBC ออกไปก่อน เพราะหากยังยืนกรานเจรจาในประเด็นที่กัมพูชาไม่ตอบรับ ก็เท่ากับ “พูดคนเดียว” ในเวทีที่ไร้น้ำหนัก และเตือนว่า หากรัฐบาลยังสภาพย่อยยับทั้งภายในและภายนอกแบบนี้ ไม่แปลกหากจะพังในเวลาไม่นาน
ในประเด็นอื่น นายจตุพรยังกล่าวถึงมาตรา 144 ของรัฐธรรมนูญว่า ป.ป.ช.ไม่มีอำนาจวินิจฉัยเอง เมื่อพบว่าข้อกล่าวหามีมูลแล้ว ต้องส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญภายใน 15 วัน เปรียบ ป.ป.ช.เป็นเพียง “บุรุษไปรษณีย์” ไม่ใช่ผู้ตัดสินความถูกผิด
ส่วนวาระสำคัญของวันที่ 12 มิ.ย. คือการประชุมของ แพทยสภาในการลงมติยืนยันบทลงโทษทางจริยธรรมต่อ 3 แพทย์กรณีทักษิณ ชินวัตร ซึ่งนายจตุพร ระบุว่า แม้จะมีการตรึกตรองจากกรรมการบางส่วน แต่ เสียงโหวตคาดว่าจะมีอย่างน้อย 55 เสียง จากทั้งหมด 70 เสียง ซึ่งเพียงพอต่อการผ่านมติด้วยเสียงเกิน 2 ใน 3 หรือ 47 เสียง
“มติของแพทยสภาครั้งนี้จะเป็น กระดุมเม็ดแรก ที่ชี้ว่าประเทศไทยยังมีองค์กรวิชาชีพที่ยืนหยัดต่ออำนาจการเมือง” เขาระบุ พร้อมวอนให้กรรมการทุกคนยืนยันในศักดิ์ศรีและเกียรติภูมิของวงการแพทย์ ไม่ให้การเมืองแทรกแซง
ในตอนท้าย นายจตุพรกล่าวถึงการนัดไต่สวนของศาลฎีกาฯ นักการเมือง วันที่ 13 มิ.ย. ว่า ทักษิณจะไม่เดินทางไปศาล โดยขอเลื่อนการยื่นเอกสารออกไปเป็นวันที่ 23 มิ.ย. พร้อมมอบหมายให้ทนายความเป็นตัวแทน อย่างไรก็ตาม เขาเชื่อว่าศาลอาจกำชับให้นำตัวทักษิณมาศาลในวันดังกล่าว เพื่อพิจารณาคดีด้วยตนเอง
“เรื่องของผมกับทักษิณมันจบไปนานแล้ว ผมไม่ได้อคติ แต่สิ่งที่พูดคือเพื่อบ้านเมือง ยืนยันว่า ผิดคือผิด ถูกคือถูก ดำคือดำ ขาวคือขาว หากบ้านเมืองยังเดินสวนทางความถูกต้อง เราก็ไปต่อไม่ได้” นายจตุพรกล่าวทิ้งท้าย พร้อมวิงวอนแพทยสภาให้ยึดมั่นในมติลงโทษเดิมเพื่อรักษาหลักการของชาติ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'หมอวรงค์' มองภาพ 'เบนสมิธ' ร่วมวง 'ทักษิณ-ธรรมนัส' น่ามีผลต่อปท. มากกว่ารูปเก่า 'อนุทิน'
ภาพที่มีเบน สมิธกับทักษิณ และมีธรรมนัส น่าจะมีน้ำหนักสร้างผลกระทบต่อประเทศชาติมากกว่า เมื่อเทียบกับภาพเมื่อ 10 ปีที่แล้วของนายอนุทิน แต่สิ่งที่นายอนุทินต้องพิสูจน์ อาจจะมีบางสิ่งบางอย่างผ่านมาทางธรรมนัสก็ได้
‘เสรีพิศุทธ์’ จัดเต็ม ‘ทักษิณ’ ยังไม่สิ้นกรรม แฉลึก...ศึกสีกากี
กลายเป็นเรื่องที่สร้างเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตามมาอย่างมาก กับการออกเปิดโปง-แฉข้อมูลเรื่องตำรวจรับผลประโยชน์ รับส่วยจากเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์
'ภูมิใจไทย'โชว์พร้อมยุบสภา 'ทักษิณ'ถูกสกัด-'พท.แพแตก'
การเมืองเวลานี้ต้องจับตาว่าจะมีการเลือกตั้งตาม MOA ระหว่างพรรคประชาชนและพรรคภูมิใจไทย ที่กำหนดวันเลือกตั้งไว้วันที่ 31 มกราคม 2569 เพื่อเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้งใหญ่หรือไม่
พูดแบบนี้ได้ยังไง! อดีตลูกจ้างวอยซ์ ลั่นไม่เห็นใจทักษิณ หลังคดี 112 ถูกอุทธรณ์
อินฟลูเอนเซอร์สายการเมือง และอดีตพิธีกรข่าววอยซ์ทีวีของตระกูลชินวัตร แสดงความคิดเห็นผ่านสื่อออนไลน์ หลังอัยการสูงสุดยื่นอุทธรณ์คดีมาตรา 112 ข
‘ปลื้ม’ ถอดบทเรียนทักษิณ ต้องรู้จักแพ้-รู้จักหมอบ ถ้ามีแผลก็อย่าซ่า
หม่อมหลวงณัฏฐกรณ์ เทวกุล ไลฟ์ “บทเรียนที่แสนแพง” ชี้ชีวิตการเมืองไม่สวยหรู เด็กต้องเรียนรู้การพ่ายแพ้ เก็บข้าวของกลับบ้าน และรู้ว่าถ้ามีแผลในสารบบศาบ แผลนั้นพร้อมเหวอะทันทีเมื่อถูกเชือด ระบุซ่าได้ต่อเมื่อไม่มีแผล
คดี112 ประธานผู้ลี้ภัย โวยกฎหมายโบราณกลั่นแกล้งทักษิณ
นายจรัล ดิษฐาอภิชัย อดีตกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ประธานสมาคมนักประชาธิปไตยชาวไทยไร้พรมแดน ปัจจุบันลี้ภัยในฝรั่งเศส โพสต์เ

