ส่องโครงสร้างราคาน้ำมัน ทำไมแต่ละประเทศราคาไม่เท่ากัน ?

ในช่วงนี้ที่ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ โดยเฉพาะสงครามไม่ว่าจะเป็นในตะวันออกกลาง หรือความไม่แน่นอนในยุโรปตะวันออก สิ่งหนึ่งที่ได้รับผลกระทบโดยตรงคือ ราคาพลังงาน โดยเฉพาะ น้ำมันดิบ ที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ประเทศไทยที่เป็นประเทศต้องนำเข้าน้ำมัน 90% ของความต้องการใช้ในประเทศ มีต้นทุนพลังงานที่ผันผวนตามตลาดโลกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ จึงทำให้เกิดข้อสงสัยว่าราคาน้ำมันของไทย จะขยับขึ้นลงได้มากน้อยเพียงใด และการที่ราคาในประเทศนั้นมีขึ้นลงขึ้นอยู่กับปัจจัยอะไรกันแน่ คำตอบทั้งหมดซ่อนอยู่ในสิ่งที่เรียกว่า “โครงสร้างราคาน้ำมัน”

โครงสร้างราคาน้ำมันขายปลีกของประเทศไทย ประกอบไปด้วยราคาเนื้อน้ำมัน 60 - 70% อ้างอิงตามตลาดสิงค์โปร์ ซึ่งเป็นตลาดอ้างอิงของไทย รวมค่าขนส่ง ค่าประกัน และค่าบริหารอื่น ๆ เข้ามารวม จนได้ “ราคาหน้าโรงกลั่น” ที่ใช้เป็นฐานในการคำนวณราคาขายปลีก รวมกับ ภาษีและกองทุน 25 - 30% ประกอบด้วย ภาษีสรรพสามิต + ภาษีเทศบาล + ภาษีมูลค่าเพิ่ม + กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง + กองทุนอนุรักษ์พลังงาน โดยภาครัฐเป็นผู้กำหนดและบริหารอัตราการจัดเก็บ และยังมีค่าการตลาด 5% เป็นค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่ใช้ในการขายน้ำมันที่สถานีบริการ อาทิ ค่าพนักงาน ค่าน้ำไฟ ค่าส่วนลดโปรโมชั่นฯ ของเจ้าของสถานีบริการและผู้ค้าน้ำมัน

โดยจะสังเกตได้ว่า สาเหตุที่ราคาน้ำมันตลาดโลกลดลง แต่ราคาขายปลีกน้ำมันไทยไม่ลดลงตามด้วยในทันที เนื่องจาก ไทยมีกลไกการบริหารกองทุนน้ำมัน ที่มีทั้งการเก็บเงินเข้า และชดเชยราคา ในบางครั้งที่สถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลกลดลง อาจมีการเก็บเงินเข้ากองทุนฯ ส่งผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันไม่ลดลง หรือลดลงช้ากว่าตลาดโลกในช่วงนั้น ๆ

ราคาขายน้ำมันเชื้อเพลิงแต่ละประเทศต่างกัน เนื่องจากการกำหนดนโยบายการบริหารจัดการน้ำมันภายในประเทศ แต่ละประเทศมีมาตรการภาษี และระบบการเก็บเงินเข้ากองทุนหรืออุดหนุนราคาพลังงานที่แตกต่างกัน รวมถึงเกรดน้ำมันที่มีความแตกต่างกันด้วย เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศในกลุ่มอาเซียน และอีกหลายประเทศที่เป็นผู้นำทางด้านเศรษฐกิจของโลกพบว่า ราคาน้ำมันในประเทศไทย อยู่ในระดับกลาง ๆ แม้จะราคาน้ำมันสูงกว่าบางประเทศ เพราะมีเก็บภาษีและไม่มีแหล่งน้ำมันของตัวเอง แต่ในภาพรวม ไทยก็ถือว่าควบคุมราคาได้ดีเมื่อเทียบกับโครงสร้างเศรษฐกิจที่มีอยู่

แล้วอะไรทำให้ราคาขึ้น – ลง ? อันดับแรกต้องไปดูราคาน้ำมันโลก ที่เป็นตัวแปรหลัก หากราคาน้ำมันตลาดโลกปรับขึ้น ราคาเนื้อน้ำมันก็เพิ่มตาม และต่อมาคืออัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากไทยต้องนำเข้าน้ำมัน การเปลี่ยนแปลงของค่าเงินบาทส่งผลทันที รวมถึงนโยบายรัฐ เช่น การลดภาษีชั่วคราว หรือการเก็บเงินเข้าเพิ่ม แต่อย่างไรก็ตาม การตรึงราคาต่อเนื่องอาจทำให้กองทุนติดลบและกระทบเสถียรภาพในระยะยาว และต้องยอมรับว่าการอุดหนุนราคาน้ำมันเป็นนโยบายที่ไม่ยั่งยืน ซึ่งเป็นภาระต่องบประมาณของประเทศ ดังนั้น ประเทศไทยซึ่งเป็นผู้นำเข้าน้ำมันดิบกว่า 90% การพิจารณานโยบายการช่วยเหลือแบบเฉพาะกลุ่มน่าจะเหมาะสมกว่า

ต้องเข้าใจว่าราคาน้ำมันไม่ใช่แค่เรื่องของน้ำมันดิบ แต่เกี่ยวข้องกับภาษี เงินกองทุน และต้นทุนการตลาดมากมาย การเข้าใจโครงสร้างราคาน้ำมัน จะช่วยให้เรารับรู้ถึงการจัดการบางอย่างเมื่อราคาขายปลีกในประเทศมีการปรับขึ้นหรือลง

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘ศุลกากร’ยันส่งออกน้ำมันไปลาวไม่ได้พุ่งจนผิดสังเกต

‘ศุลกากร’ แจงข้อมูลส่งออกน้ำมันไป สปป.ลาว ตรงกันทุกหน่วยงาน ยืนยันหลังตรวจสอบทุกด่านพบปริมาณไม่ได้เพิ่มขึ้นจนผิดสังเกต ย้ำชัดไทยงดส่งออกน้ำมันไปกัมพูชาแล้ว 100% ตั้งแต่ ก.ค. 2568 พร้อมขอความร่วมมือคู่ค้าไทยงดส่งต่อน้ำมันไปประเทศที่สาม

เลขาฯ ศรชล.แจง ไม่ได้ปิดอ่าวไทย  มาตรการบังคับใช้เฉพาะเรือชักธงไทย สกัดน้ำมัน- ยุทธปัจจัยเข้ากัมพูชา

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ร.อ.ธาดาวุธ ทัดพิทักษ์กุล เสนาธิการทหารบก ในฐานะเลขาธิการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติท

‘พลังงาน’ สั่งเข้ม! ตรวจสอบส่งออกน้ำมัน สกัดลักลอบส่งน้ำมันไปกัมพูชา

"พลังงาน" สั่งเข้ม! ตรวจสอบปริมาณการส่งออกน้ำมัน ทั้งทางบก-ทางเรือ พร้อมร่วมมือกองทัพเต็มที่ สกัดลักลอบส่งน้ำมันเข้ากัมพูชา