สมณเพศ ที่ควรสูงส่งดัง ระฆังศรัทธากลับแตกกังวานเป็นเสียง บัญชีและตัวเลข “หลวงพ่ออลงกต” คือภาพฉายว่าเมื่อ บาตร กลายเป็น ภาชนะรั่วไหล และ ผ้าเหลือง ถูกแขวนขายกลาง ตลาดบุญ สิ่งที่สังคมสูญเสียมิใช่พระรูปเดียวแต่คือรอยร้าวใหม่ที่สั่นคลอนความเชื่อในพุทธศาสนา
ครั้งหนึ่ง ผ้าเหลือง คือ สมณเพศแห่งความสงบ วันนี้กลับกลายเป็นผืนผ้าที่สังคมตั้งคำถามไม่สิ้นสุด
พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือ “หลวงพ่ออลงกต” ปรากฏบนหน้าข่าว ไม่ใช่เพราะธรรมะ หากเพราะ ข้อครหา ที่ก้องสะเทือน ศรัทธาของญาติโยมทั้งแผ่นดิน
แม้ กรมการปกครอง จะชี้แจงว่า เลขบัตรประชาชนที่ทำใหม่ในปี 2552 ไม่ตรงกับบุคคลที่เสียชีวิต และแม้ข้อมูลพื้นฐานพ่อแม่ในทะเบียนก็ไม่ตรงกัน
แต่ปริศนายังอยู่ที่ เลข 13 หลักในใบสุทธิพระ ตั้งแต่วันบวช ว่ามาได้อย่างไร และเหตุใดจึงไปตรงกับผู้ล่วงลับ
นี่ไม่ใช่เพียง ปัญหาทางทะเบียน หากคือ รอยร้าวในศรัทธา เพราะคำตอบเรื่องตัวเลขอาจปิดได้ในเอกสาร แต่ คำถามในหัวใจผู้คนไม่เคยปิด
เพียง รอยร้าวเล็กบนกำแพงแห่งความเชื่อ ก็เพียงพอให้ ระฆังศรัทธาก้องสะเทือนทั้งประเทศ หลวงพ่ออลงกตจึงไม่ใช่เพียงพระรูปหนึ่ง แต่คือ กระจก ที่ทำให้เราถามตัวเองว่า ศาสนายังมั่นคงพอจะเป็นที่พึ่งได้จริงหรือไม่
โปรไฟล์ของหลวงพ่อ เคยถูกเล่าขานราวกับ ตำนานงดงาม สำเร็จ วิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ต่อ ปริญญาโทที่ออสเตรเลีย ทำงานราชการ ก่อนละทางโลกเพื่อครอง สมณเพศ
แต่เมื่อ การตรวจสอบ เริ่มขึ้น ชื่อของหลวงพ่อไม่ปรากฏในทะเบียนนักศึกษา ทั้งในและต่างประเทศ เรื่องเล่ากลับสับสน บางครั้งบอกว่าจบ บางครั้งว่าไม่จบเพราะอุบัติเหตุ บางคราวโยนให้ ความจำพร่าเลือน เป็นเหตุผล
สมาคมนักเรียนเก่าเทพศิรินทร์ ถึงกับถอดป้ายชื่อออกจาก หอเกียรติยศ เพราะหลักฐานไม่สอดคล้องกับคำบอกเล่า นี่มิใช่ความผิดพลาดเล็กน้อย หากคือการสร้าง โปรไฟล์ปลอม เพื่อยกศรัทธาขึ้นด้วยภาพที่หรูหราแต่ไร้รากฐาน
และเมื่อภาพนั้นแตกออก ความจริงก็เผยชัด ผ้าเหลืองถูกใช้เป็น ฉากกำบัง มากกว่าจะเป็นสมณเพศแห่งธรรม
ภาพ “นักบุญแห่งวัดพระบาทน้ำพุ” ถูกสร้างขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ศรัทธาหลั่งไหลมาพร้อมเงินบริจาคนับร้อยล้าน ไม่ใช่เพียงธนบัตร หากคือ ความเชื่อว่าทุกบาทคือบุญ ที่จะกอบกู้ชีวิตผู้ป่วยเอดส์และผู้ไร้ญาติ
แต่เมื่อ กองเงินสูงขึ้น เสียงสงสัยก็ดังตาม บัญชีวัด บัญชีมูลนิธิ และบัญชีส่วนตัวถูกแยกชัดเจนหรือไม่ เส้นแบ่งที่พร่าเลือนทำให้ศรัทธาเริ่มร้าว
บุญที่ควรเป็น สะพานสู่ความสงบ กลับกลายเป็น สมการในสมุดบัญชี และเมื่อ บุญถูกนับเป็นตัวเลขโดยไร้ความจริง ศรัทธาก็ตายก่อนญาติโยมจะตาย
ไม่ใช่เพราะคนหยุดทำบุญ แต่เพราะ บุญถูกทำให้ไร้ค่า เมื่อ ผ้าเหลืองกลายเป็นเครื่องมือหากิน ศรัทธาก็ไม่ต่างจาก เช็คหมดอายุ ที่ไม่มีใครอยากถือครอง
ห้องเย็นในวัดพระบาทน้ำพุ ที่เก็บร่างไร้ญาติเรียงรายหลายสิบศพ คือภาพที่ เยียบเย็นและวังเวง ราวกับกาลเวลาหยุดนิ่ง
บางคนมองว่าเป็น เมตตาสูงสุด แม้ตายยังมีวัดรองรับ แต่สำหรับอีกหลายคน มันคือ ความผิดปกติที่น่าหวาดหวั่น เพราะเมื่อร่างมนุษย์ถูกวางไว้กลางศรัทธา คำถามเรื่องความถูกต้อง ย่อมดังขึ้นพร้อมกัน
ใบมรณบัตรครบถ้วนหรือไม่ เอกสารการบริจาคร่างถูกต้องเพียงใด หรือทั้งหมดคือ การจัดการที่เกินขอบเขตศาสนาและกฎหมาย
ศาสนาคือ ที่พึ่งของคนเป็น แต่ไม่ควรถูกใช้เป็นเวทีจัดการคนตายเพื่อดึงเงินบริจาค หากร่างไร้ญาติถูกทำให้เป็นเครื่องมือ เมตตาก็กลายเป็นการค้า ศรัทธาก็กลายเป็นสินค้าในตลาดบุญ
แรงกดดันจากทุกทิศถาโถมเข้ามา ในที่สุด พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือ หลวงพ่ออลงกต ประกาศลาออกจากตำแหน่ง เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ เพื่อเปิดทางให้คณะสงฆ์ตรวจสอบ
สำหรับญาติโยม การลาออกคือการยอมรับโดยนัย ว่า ปัญหามีจริงและใหญ่เกินจะปกปิดด้วยถ้อยคำ
วัดที่เคยอวลด้วย เสียงสาธุการ กลับกลายเป็นพื้นที่แห่งความลังเล บางรายขอคืนเงินบริจาค อีกหลายรายเงียบหายไปพร้อมกับความผิดหวัง
การแต่งตั้ง รักษาการเจ้าอาวาสใหม่ ไม่ต่างจาก การราดน้ำหนึ่งขันลงกองเพลิง สิ่งที่สังคมต้องการไม่ใช่ตำแหน่งใหม่ แต่คือ ความจริงที่จับต้องได้ และความรับผิดชอบที่แท้จริง
นี่คือ การพิพากษาที่หนักกว่าศาลใด ศาลของสังคม ที่ลงโทษด้วยการถอนศรัทธา
กรณีหลวงพ่ออลงกตอาจเป็น รอยร้าวใหญ่ แต่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผ้าเหลืองถูกฉีกกระชาก ก่อนหน้านี้สังคมเพิ่งสะเทือนกับคดี “สีกากอล์ฟ” พระชั้นผู้ใหญ่บางรูปถูกลากลงสู่ หุบเหวกามราคะ จนญาติโยมถามด้วยเสียงเจ็บปวดว่า ปาราชิกยังเป็นเส้นตายทางพระวินัย หรือกลายเป็นเพียงใบเบิกทางให้ลอยนวล?
อย่างไรก็ตาม มิใช่ว่าพระทุกรูปเป็นเช่นนั้น เพราะยังมีพระผู้ใหญ่จำนวนมากที่ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ แต่ปัญหากลับฝังอยู่ที่ โครงสร้างของสงฆ์ ที่เปิดกว้างจนถูกใช้ผิดทางได้ง่าย
ดั้งเดิม พระไม่ถูกนับว่าเป็นอาชีพ การบวชคือการเข้าสู่สมณเพศ หมายถึงการเปลี่ยนสถานะชีวิตจากทางโลกสู่ทางธรรมเพื่อฝึกฝนและละวาง
แต่เมื่อกาลเวลาผ่านไป สมณเพศเริ่มถูกลดทอน จนกลายเป็นเสมือนอาชีพ พระบางรูปได้รับเงินเดือนจากตำแหน่งทางการปกครอง มีเบี้ยเลี้ยงจากรัฐ มีรายได้จากการบริจาค และธุรกิจบุญรองรับ
ทว่าก็กลายเป็นช่องโหว่ ให้บางรูปอาศัยสมณเพศบังหน้า เพื่อ “สะสม” มากกว่า “สละ”
นี่คือความย้อนแย้งอันเจ็บลึก พระควรเป็น สมณเพศแห่งการสละ แต่ในบางกรณีผ้าเหลืองกลับถูกใช้เป็น สมณเพศแห่งการสะสม และเมื่อศรัทธาถูกผูกติดกับผลประโยชน์ มันก็เสี่ยงจะถูกแปรค่าเป็น สินค้าในตลาดศรัทธา
กรณี หลวงพ่ออลงกต มิใช่เพียงข่าวของพระรูปหนึ่ง หากคือ กระจกที่สะท้อนความเจ็บป่วยของศาสนาในไทยทั้งระบบ
ทุกวันนี้ ผ้าเหลืองไม่อาจอยู่เหนือสายตาสังคม แรงตรวจสอบจากสาธารณะติดตามทุกย่างก้าว คำเทศน์อาจยังศักดิ์สิทธิ์ แต่การกระทำไม่รอดพ้นการพิพากษาของผู้คน
และเมื่อพระก้าวออกจากศาลา ไปสู่การดูแลผู้ป่วย รับเงินบริจาคมหาศาล บทบาทสาธารณะยิ่งผูกพันศาสนาเข้ากับโลกแห่งความจริง โลกที่ศรัทธาเพียงอย่างเดียวไม่พออีกแล้ว
คำถามใหญ่จึงปรากฏชัด เราจะยอมให้ผ้าเหลืองเป็นเพียงสัญลักษณ์ศรัทธาที่ไร้การตรวจสอบ หรือจะสร้างกลไกใหม่ ที่ทำให้ศรัทธาเดินเคียงคู่กับความจริง
เพราะหาก ศรัทธาล้มลงเพราะน้ำหนักของคำลวง สิ่งที่สูญหายไปจะไม่ใช่เพียงพระรูปหนึ่ง แต่คือ ความหวังสุดท้ายของผู้คน ที่ยังเชื่อว่าศาสนายังคงเป็นที่พึ่ง.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'สอบสวนกลาง' แถลงผลปฏิบัติการ ทวงทรัพย์สินหมื่นล้าน คืนวัดพระบาทน้ำพุ
สอบสวนกลางปฏิบัติการ “คืนศรัทธา บอกลางมงาย สไตล์ CIB” ทวงคืนทรัพย์สินสู่วัดพระบาทน้ำพุ มูลค่ากว่าหมื่นล้านบาท
เอาแล้ว! สส.โตโต้ เตือนซื้อ-บริจาค 'เสื้อเกราะ' เสี่ยงคุก 5 ปี เข้าข่ายยุทธภัณฑ์
โตโต้-สส.พรรคประชาชน ชี้กระแสถกล็อกสเปกเสื้อเกราะ มองข้ามสาระสำคัญ หากกันกระสุนได้ถือเป็น “ยุทธภัณฑ์” ตามกฎหมาย แม้ซื้อเพื่อบริจาคก็ผิด พ.ร.บ.ควบคุมยุทธภัณฑ์ฯ โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี พร้อมเตือนหน่วยงานรัฐรับของจากเอกชนโดยไม่ตรวจสอบ อาจเข้าข่ายละเว้นหน้าที่
คณะสงฆ์-วัดไทยทั่วโลก ประกอบพิธีบำเพ็ญกุศล เจริญจิตตภาวนา อุทิศถวายพระราชกุศล 'สมเด็จพระพันปีหลวง'
สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เผยแพร่มติมหาเถรสมาคม ที่ พิเศษ ๗/๒๕๖๘ เรื่อง แนวทางการประกอบพิธีบำเพ็ญกุศล เพื่ออุทิศถวายพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง มีเนื้อหาดังนี้
ศรัทธากลายเป็นทุน ‘กัน จอมพลัง’ กับธุรกรรมทางความเชื่อในยุคดิจิทัล
ศรัทธาเคยเป็นของใจผู้คน แต่ในยุคดิจิทัลมันกลับกลายเป็นเครื่องมือของอำนาจ เมื่อความดีถูกใช้เป็นทุนสร้างอิทธิพล และมูลนิธิกลายเป็นเวทีแห่งศรัทธา ความเชื่อจึงต้องอยู่ภายใต้การตรวจสอบของสังคม
'บิ๊กเต่า' เร่งขยายผลเอาผิดล็อต 2 คดีอดีตพระอลงกต แบ่งงานละเอียดยิบ 24 เรื่อง
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. เปิดเผยความคืบหน้าคดีอดีตพระอลงกตว่า ในเบื้องต้นยังไม่มีการแจ้งข้อหาใดๆ ทั้งสิ้น และเป็นการรับฟังคำชี้แจงในฐานะพยาน ส่วนจะมีความผิดหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับการพิจารณาของพนักงานสอบสวน

