ศรีสะเกษ เขต 5 สนามซ่อมที่เล็กในขนาด แต่หนักในความหมาย “บ้านใหญ่” ที่ยังยืนเป็นหลักพึ่งพิง “ศรัทธา” ที่ถูกทดสอบจากคลื่นใหม่ และเสียงจาก ขุนหาญ–ภูสิงห์ ครั้งนี้ อาจขยายก้องไกลจนแตะถึงแผนที่ใหญ่ของประเทศ
การเมืองไทยไม่เคยนิ่ง มันหมุนวนเหมือนกระแสน้ำที่บางครั้งเชี่ยว บางครั้งสงบ แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนคือ เหตุการณ์เล็กๆ บางเหตุการณ์กลับสั่นสะเทือนให้ทั้งประเทศต้องหันมามอง
หลายครั้ง พื้นที่ที่ไม่อยู่ในสปอตไลต์ กลับกลายเป็นจุดชี้วัดทางการเมืองได้ชัดเจนยิ่งกว่าการต่อสู้ในเมืองหลวง และเมื่อเวลานั้นมาถึง ชื่อที่ไม่คุ้นหูก็อาจดังขึ้นมาอยู่กลางวงสนทนาของทั้งประเทศ
ศรีสะเกษ เขต 5 คือหนึ่งในนั้น การเลือกตั้งซ่อมที่ครอบคลุม อำเภอขุนหาญ และภูสิงห์ กำลังจะเปิดคูหาในวันที่ 28 กันยายน เก้าอี้เดียวในสภาที่ว่างลงอาจดูเล็กน้อย แต่แท้จริงคือ สนามเล็กที่สะท้อนสมการการเมืองใหญ่ของไทย
ฝั่ง เพื่อไทย ตัดสินใจส่ง ภูริกา สมหมาย ลูกสาวอดีต สส.อมรเทพ ผู้ล่วงลับ ลงสนามเพื่อรักษาที่มั่นของพรรค แม้นามสกุล “สมหมาย” จะคุ้นหูในพื้นที่ แต่ความเป็น “หน้าใหม่” ของภูริกาก็ถูกตั้งคำถาม ทั้งเรื่องการใช้ชีวิตนอกจังหวัด และการเพิ่งเปลี่ยนนามสกุลมาไม่นานก่อนลงสมัคร
ข้อกังขานี้ยิ่งหนักขึ้นเมื่อพรรคต้องเผชิญคลื่นการเมืองระดับชาติ ทั้งคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่โยงถึง แพทองธาร ชินวัตร และประเด็น คลิปเสียงกับสมเด็จฮุน เซน ที่สร้างรอยด่างด้านความมั่นคงในสายตาประชาชนชายแดน การเลือกตั้งซ่อมที่ขุนหาญ–ภูสิงห์จึงกลายเป็นเวทีพิสูจน์ว่า เพื่อไทยยังเหนี่ยวรั้งศรัทธาไว้ได้หรือไม่
อีกฟากหนึ่ง ภูมิใจไทย ส่ง จินณ์ตวรรณ ไตรสรณกุล หรือ “ครูอีฟ” ลงสนาม นามสกุลไตรสรณกุลไม่ใช่เพียงชื่อ แต่คือเครื่องหมายของ บ้านใหญ่ ที่หยั่งรากในศรีสะเกษมายาวนาน
ครูอีฟคือทายาทการเมืองของ “เฮียโอ” ธีระ ไตรสรณกุล อดีต สส.คนสำคัญของจังหวัด และเติบโตเคียงข้าง “ป๊าโอ” ในการทำงานพื้นที่มาตลอด เธอจึงถูกมองว่าเป็นลูกศิษย์ของพื้นที่มากกว่าผู้มาเยือน ความใกล้ชิดนี้ยิ่งโดดเด่นเมื่อย้อนถึงบทบาทของ บ้านใหญ่ ในยามวิกฤติชายแดน ที่พวกเขาคือกลุ่มแรก ๆ ที่ระดมทรัพยากรมาช่วยประชาชน
ภาพของครูอีฟยังถูกขยายด้วยการเป็นหนึ่งใน เจเนอเรชันใหม่ของบ้านใหญ่ ที่เดินเคียงข้างกับ “กวาง” ไตรศุลี ไตรสรณกุล ลูกสาวนายก อบจ.ศรีสะเกษ และว่าที่เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ทำให้ชื่อ ไตรสรณกุล ไม่ได้เป็นเพียงตำนานเก่า แต่กลายเป็นตระกูลที่ส่งไม้ต่อสู่เวทีการเมืองระดับชาติแล้วอย่างเป็นรูปธรรม
เมื่อมองให้ชัด การเลือกตั้งซ่อมศรีสะเกษครั้งนี้ไม่ใช่การดวลของผู้สมัครธรรมดา แต่คือการประชันกันของ สองพลังที่ต่างที่มา
ฝั่งหนึ่งคือ พลังท้องถิ่น ที่หยั่งรากอยู่กับ บ้านใหญ่ไตรสรณกุล ผ่านการทำงานต่อเนื่องและความใกล้ชิดกับชาวบ้าน อีกฝั่งคือ พลังจากความทรงจำของเพื่อไทย ที่ยังผูกพันกับประชาชนผ่านชื่อ ชินวัตร และนโยบายที่เคยฝากร่องรอยไว้ในใจผู้คน
สิ่งที่เดิมพันจึงไม่ใช่เพียงเก้าอี้เดียว แต่คือคำตอบว่า ระหว่าง การเมืองที่จับต้องได้ในชีวิตประจำวัน กับ ความเชื่อมโยงทางใจที่สืบทอดจากอดีต สิ่งใดจะมีพลังมากกว่ากันในศรีสะเกษวันนี้
บ้านใหญ่ ในสายตาคนเมือง อาจถูกมองเป็นระบบการเมืองเก่า แต่สำหรับชาวบ้าน บ้านใหญ่คือ สถาบันไม่เป็นทางการ ที่ช่วยแก้ปัญหาตั้งแต่ถนน น้ำท่วม ไปจนถึงการหางานให้ลูกหลาน ความช่วยเหลือเช่นนี้ไม่เพียงสร้างบุญคุณ แต่ก่อให้เกิด ศรัทธาที่ยืนยาว
นี่เองคือเหตุผลว่าทำไมพรรคการเมืองจึงต้องอาศัย บ้านใหญ่ ไม่ใช่เพราะฐานเสียงเพียงอย่างเดียว แต่เพราะบ้านใหญ่ทำหน้าที่เชื่อมประชาชนกับรัฐในแบบที่กลไกทางการเมืองส่วนกลางไม่อาจเข้าถึงได้ทัน
สำหรับ ภูมิใจไทย การได้ บ้านใหญ่ไตรสรณกุล เคียงข้าง ไม่ได้หมายถึงผู้สมัครที่มีชื่อเสียงเท่านั้น แต่คือ กลไกที่ลงมือได้จริง พรรคจึงไม่ใช่เพียงองค์กรการเมืองในนาม แต่แผ่รากลงไปถึงท้องถิ่น ผ่านเครือข่ายที่จับต้องได้
ตรงกันข้าม เพื่อไทย ยังคงอาศัยพลังจาก ความทรงจำเก่า การป้องกันพื้นที่ศรีสะเกษจึงเป็น ภารกิจที่กดดัน เพราะหากทำไม่สำเร็จการสูญเสียที่มั่นนี้อาจเป็น สัญญาณของการเสื่อมถอย ในอีสานใต้ทั้งภูมิภาค
ศรีสะเกษ ไม่ได้เป็นเพียงสนามเลือกตั้งซ่อม แต่กำลังกลายเป็น โมเดลการเมืองอีสานใต้ หากภูมิใจไทยยึดได้สำเร็จ จะเป็นหลักฐานว่าพรรคที่ผนึกกับ บ้านใหญ่ มีโอกาสสร้างฐานเสียงมั่นคงยาวนาน และใช้เป็นบันไดต่อรองในเวทีระดับชาติ
เมื่อ เจเนอเรชันใหม่ อย่างครูอีฟ และกวาง ไตรสรณกุล ก้าวขึ้นมาสู่เวที ศรีสะเกษจึงสะท้อนภาพของการเมืองที่ไม่ได้หยุดอยู่กับมรดกเก่า หากแต่กำลัง “ขยับ” ไปสู่การทดลองของคนรุ่นใหม่ บ้านใหญ่ยังคงเป็นฐานเดิม แต่สีสันของการเปลี่ยนผ่านกำลังทำให้ผู้คนจับตา ว่าจะขยายบทบาทจากเวทีท้องถิ่นสู่การเมืองระดับประเทศได้มากน้อยเพียงใด
แต่หาก เพื่อไทย ยังป้องกันขุนหาญ–ภูสิงห์ไว้ได้ ก็จะพิสูจน์ว่า พลังจากความทรงจำ ยังเหนี่ยวรั้งอยู่ ไม่ได้ถูก บ้านใหญ่ เบียดทับไปทั้งหมด
ทว่าคลิปเสียงสนทนาระหว่าง แพทองธาร ชินวัตร กับ สมเด็จฮุน เซน ที่ถูกเผยแพร่ต่อสาธารณะ กลายเป็น ปัจจัยกดดันศรัทธา โดยเฉพาะในพื้นที่ชายแดนที่อ่อนไหวต่อประเด็นความมั่นคง หากพรรคยังรักษาที่มั่นได้สำเร็จ ก็จะสะท้อนว่า ความผูกพันเดิมยังแข็งแรงพอจะต้านแรงเสื่อม ในปัจจุบัน
ศึกศรีสะเกษยังตอกย้ำอีกว่า บ้านใหญ่ไม่ใช่อดีต แต่คือ พลังร่วมสมัย ที่ยังทำงานอยู่ทุกวัน ขณะที่รัฐไม่อาจตอบโจทย์ได้ครบถ้วน เครือข่ายท้องถิ่น กลับเป็นกลไกที่ประชาชนหันไปพึ่งพา ไม่ว่าจะเป็นการดูแลยามวิกฤติหรือการสร้างโอกาสใหม่ ๆ
พรรคการเมืองจึงเลี่ยงไม่ได้ว่าจะต้องเลือกอยู่ร่วมกับ บ้านใหญ่ หรือจะปล่อยให้กลายเป็นคู่แข่ง หาก เพื่อไทย ไม่สามารถเชื่อมโยงได้ทันเวลา ศรีสะเกษอาจกลายเป็น คำเตือนแรงกล้า ว่าการเมืองที่พึ่งพาแต่ ชื่อเสียงส่วนกลาง ไม่อาจยืนอยู่ลำพังได้อีกต่อไป
ชัยชนะหรือความพ่ายแพ้ใน ศรีสะเกษ เขต 5 มีความหมายเกินกว่าหนึ่งเก้าอี้ หาก เพื่อไทยแพ้ นั่นคือการสะท้อนว่า ศรัทธา ที่เคยเหนี่ยวรั้งอีสานใต้กำลังเลือนหายไปตามกาลเวลา ความผูกพันที่เคยมั่นคงเริ่มถูกสั่นคลอน และถูกแทนที่ด้วยแรงดึงดูดจาก พลังใหม่ ที่จับต้องได้มากกว่า
ในทางกลับกัน หาก ภูมิใจไทยชนะ ก็จะเป็นการตอกย้ำว่า พลังบ้านใหญ่ เมื่อผนึกกับ พรรคการเมืองระดับชาติ สามารถยกระดับตัวเองเป็น เสาหลักใหม่ของภูมิภาค ได้จริง พร้อมทั้งสร้าง สมการการเมืองใหม่ ที่ต่างออกไปจากอดีตอย่างเด่นชัด
ศรีสะเกษครั้งนี้ จึงไม่ใช่เพียงการเลือกตั้งซ่อม แต่คือ กระจกสะท้อนการเมืองไทยทั้งระบบ ระหว่าง พลังจากความทรงจำ ที่ยังหลงเหลือ กับ พลังที่มาจากการลงมือทำจริง ในปัจจุบัน
และเมื่อสองสิ่งนี้หักล้างกันบนสนามเล็กแห่งอีสานใต้ เราก็อาจได้เห็น เส้นทางใหม่ของการเมืองไทย ถูกเขียนขึ้นเงียบๆ แต่หนักแน่นพอจะเปลี่ยนแผนที่ใหญ่ทั้งประเทศ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
หยิกเล็บเจ็บเนื้อ! 'ภท.-พท.' โต้เดือดพัวพัน 'เบน สมิธ'
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า กรณีเบน สมิธ : ภูมิใจไทย-เพื่อไทย หยิกเล็บเจ็บเนื้อ
เพื่อไทยกระอัก! 'อนุทิน' ย้อนเจ็บ มีภาพคู่ทักษิณเยอะ ไม่เห็นมีปัญหา
"อนุทิน" เหน็บ "สุริยะ-โฆษกเพื่อไทย" ไม่รู้เรื่องอะไรเพราะไม่ได้ร่วมวง การสนทนาสำหรับผมต้องระดับสูงขึ้นไป ย้อนเจ็บภาพถ่ายคู่ทักษิณก็มีตั้งเยอะ ไม่เห็นมีปัญหาอะไรเลย
โฆษกภูมิใจไทย โต้เดือด โทรโข่งเพื่อไทยแกล้งตาบอด ไม่เห็นภาพทักษิณกับเบน สมิธ
โฆษกภูมิใจไทย สวนโฆษกเพื่อไทย อย่าแกล้งตาบอด ปีนี้ใครถ่ายรูปกับ "เบน สมิธ" ยัน "อนุทิน" แค่รู้จักแต่ไม่สนิท ผลงานประจักษ์ยึดทรัพย์หมื่นล้านสแกมเมอร์รายใหญ่ บีบพ้น มท.1 เหตุไม่ให้สัญชาติใครหรือไม่ เย้ย 4 เดือนใครบริหารน้ำท่วมเหลว ขณะที่ "2 เดือน" นายกฯอนุทิน" เข้ามาแก้วิกฤติ
เพื่อไทย เปิดตัว 'อดีตปลัด ก.เกษตร' ลงสนามชนบ้านใหญ่ 'ศิลปอาชา'
พท.เปิดตัว “ประยูร อินสกุล” อดีตปลัด ก.เกษตรฯ ลงสนามชนบ้านใหญ่ “ศิลปอาชา” ไม่ฟันจะปักธงเมืองสุพรรณได้หรือไม่ ชี้ขึ้นกับ ปชช. อ้อนกาเพื่อไทยทั้งคนทั้งพรรค
'เทพไท' ชี้ 5 ปัจจัยทำเพื่อไทยยึกยักสางแค้นซักฟอกรัฐบาล
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์คลิปพร้อมเนื้อหา
ปลด 'กัณวีร์ สืบแสง' พ้นเลขาฯพรรคเป็นธรรม แอบอ้างมติพรรคหนุน 'อนุทิน' นั่งนายกฯ
เพจเฟซบุ๊ก พรรคเป็นธรรม แจ้งว่ามีมติให้ปลด นายกัณวีร์ สืบแสง ออกจากตำแหน่ง “เลขาธิการพรรคเป็นธรรม” มีผลนับแต่บัดนี้เป็นต้นไป


