นักวิชาการ ชี้ ไทยใช้ยุทธศาสตร์ 'คีมหนีบ' กดดันกัมพูชา ช้าแต่ชัวร์

11 ต.ค.2568-ผศ.ดร.วันวิชิต บุญโปร่ง อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวถึงสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างไทย–กัมพูชาในช่วงนี้ว่าไทยกำลังพยายามใช้เกมทางการทูต ซึ่งเคยเป็นจุดอ่อนในรัฐบาลก่อน ให้กลับมาเป็นจุดแข็งในรัฐบาลนี้ เพื่อสื่อสารกับกัมพูชาและประชาคมโลกถึงจุดยืนของไทย ว่าจริง ๆ แล้วไทยไม่ได้ปิดใจในการเจรจา ตรงกันข้าม ไทยเคารพในเงื่อนไข และกัมพูชาก็ต้องกลับมาอยู่ในเงื่อนไขที่ได้ตกลงกันไว้ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศต่างยึดแนวทางนี้อย่างชัดเจน เป็นจุดยืนที่แข็งกร้าวและมีเหตุผล ล่าสุดชาติมหาอำนาจก็รับทราบท่าทีของไทยแล้ว

ถือเป็นการใช้การทูตเพื่อเพิ่มแต้มต่อทางการเมืองระหว่างประเทศ หลังจากที่ไทยตั้งรับมานาน โดยเฉพาะการที่กองทัพภาคที่ 1 ใช้ยุทธวิธีแบบเดียวกับที่กัมพูชาเคยใช้ในอดีต คือเมื่อจะดำเนินการใด ๆ มักมีคณะผู้สังเกตการณ์หรือกิจกรรมร่วมทางสังคมมาประกอบด้วย เช่น การที่ทหารไทยนำทีมเก็บกู้วัตถุระเบิดในพื้นที่ชายแดน พร้อมแจ้งเตือนกัมพูชาล่วงหน้าผ่านสื่อมวลชน แสดงให้เห็นถึงความโปร่งใสในการดำเนินงาน

ขณะเดียวกัน ไทยยังได้ยื่นแผนขอให้กัมพูชาพาพลเรือนของตนที่ลักลอบเข้ามาอาศัยในบ้านหนองจาน ซึ่งเป็นพื้นที่ของไทย ออกจากพื้นที่ ถือเป็นการเดินเกมเชิงสัญลักษณ์ที่แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลไทยกำลังขยับหมากทางการทูตอย่างเป็นระบบ

ผศ.ดร.วันวิชิต ระบุว่า รัฐบาลไทยเป็นผู้ให้ไฟเขียวกับกองทัพในการดำเนินการตามแผนดังกล่าว โดยอยู่ในกรอบของหลักการสากล และย้ำว่า “ไทยต้องไม่ทำตัวเป็นรัฐอันธพาล แต่สามารถดำเนินการอย่างมั่นคงและชอบธรรมได้” ไทยกำลังใช้ยุทธศาสตร์ “คีมหนีบ” โดยใช้เศรษฐกิจเป็นเครื่องมือกดดัน ไม่เปิดช่องทางการค้าชายแดนเพิ่มเติม ขณะเดียวกันก็ใช้เทคนิคการทูตเชิงรุกมากขึ้น เพื่อบังคับให้กัมพูชากลับมาปฏิบัติตามข้อตกลงทั้ง 4 ข้อที่นายกรัฐมนตรีไทยเสนอไว้ก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นแนวทางที่ทำให้ไทยไม่ต้องตกเป็นฝ่ายตั้งรับอีกต่อไป แต่ยังคงรักษาภาพลักษณ์ของประเทศในสายตานานาชาติได้อย่างสมดุล

“หลายคนอาจมองว่าเราหน่อมแน้ม แต่ทางกัมพูชา อยู่ไม่สุขแน่นอน การที่มีประชาชนกัมพูชาทะลักล้นเข้ามาในไทย สะท้อนว่าเศรษฐกิจกัมพูชาไม่สามารถรองรับประชาชนของตนเองได้ และแท้จริงแล้ว กัมพูชายังต้องพึ่งพาไทยอย่างมาก นี่คือเกมกดดัน ทางผู้นำกัมพูชาอาจต้องการใช้ไทยปลุกกระแสรักชาติในประเทศ แต่ประชาชนของเขาเริ่มไม่เอาด้วยแล้ว เราจึงเห็นความร้อนรนของผู้นำกัมพูชาปรากฏให้เห็นมาตลอด

จากนี้ ไทยเพียงต้องรักษาจุดได้เปรียบเหล่านี้ไว้ และพยายามรักษาการเจรจาแบบสองฝ่ายเอาไว้ เพราะหากนานาชาติเข้ามาร่วมวง จะเข้าเหลี่ยมกัมพูชาทันที เนื่องจากเป็นประเทศเล็กกว่า มักจะได้รับความเห็นใจมากกว่า จะเห็นว่าในแนวปะทะหลายพื้นที่ กัมพูชาจัดเด็ก สตรี และคนชรามาอยู่แนวหน้า หากฝ่ายไทยใจร้อนจนเกิดภาพการทุบตีขึ้น จะกลายเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน และเป็นภาพลบในสายตานานาชาติ ซึ่งสุดท้ายจะเป็นการเปิดช่องให้ชาติอื่นเข้ามาร่วมวงความขัดแย้งไทย–กัมพูชาได้ แบบนั้นไทยจะเสียเปรียบ — และนี่คือสิ่งที่ไทยต้องหลีกเลี่ยง ซึ่งตอนนี้ไทยก็กำลังทำได้ดีอยู่แล้ว ตอนนี้ เราต้องบีบกัมพูชา ให้มายอมรับเงื่อนไขเรา ซึ่งคิดว่า เราได้เห็นความสำเร็จแน่”.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นักวิชาการ สะกิด อินฟลูฯ - นักการเมือง เลิกซ้ำเติมสถานการณ์ จ้องหาคนผิด น้ำท่วมหาดใหญ่

ผศ.ดร.วันวิชิต บุญโปร่ง อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ให้ความเห็นต่อสถานการณ์มหาอุทกภัยครั้งใหญ่ในพื้นที่หาดใหญ่ จังหวัดสงข

สหรัฐระงับดีลภาษี บีบไทยกลับสู่โต๊ะเจรจาเขมร‘อนุทิน’ยันกัมพูชาต้องขอโทษก่อน

ล่าอาณานิคมยุคใหม่ สหรัฐระงับการเจรจาภาษีการค้ากับไทยชั่วคราว จนกว่าฝ่ายไทยให้คำมั่นว่าจะกลับเข้าสู่โต๊ะเจรจาไทย-กัมพูชา กระทรวงการต่างประเทศผิดหวัง

'อนุทิน' เปิด 11 ข้อ คุย 'ทรัมป์-อันวาร์' ซัดกัมพูชาฉีกปฏิญญาสันติภาพ ต้องขอโทษคนไทย

นายกฯอนุทิน เผย ‘อันวาร์-ทรัมป์’ ยกหูคุยสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ร่ายยาว 11 ข้อชี้แจง จี้ ‘เขมร’ ออกแถลงการณ์ขอโทษคนไทยทำทหารเหยียบทุ่นระเบิด ซัดละเมิดเงื่อนไขมีสันติภาพลำบาก ขอสหรัฐฯปรับลดภาษีลงอีก

‘อดีตบิ๊กข่าวกรอง’ เซ็ง! ทหารไทยขาขาด แต่รัฐบาลแค่ประท้วงทางการทูต

นันทิวัฒน์ สามารถ  อดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และอดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์ข้อคว

โบว์ ณัฏฐา ยก 3 ประเด็นใหญ่ คำถามน่าตอบ ภายใต้ข่าวสถานการณ์ไทย-กัมพูชา  

โบว์ ณัฏฐา มหัทธนา พิธีกรรายการวิเคราะห์ข่าว นักกิจกรรมนักเคลื่อนไหวทางการเมือง ตอบ 3 คำถามสถานการณ์ไทย-กัมพูชา

ไม่ได้คลั่งรัฐบาลนี้! สื่ออาวุโส ยังขอซูฮก 'อนุทิน' นำไทยกลับคืนจอเรดาร์โลกสำเร็จ

นายสุทิน วรรณบวร อดีตผู้สื่อข่าวสำนักข่าวต่างประเทศ โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊กว่า ไม่ได้คลั่งรัฐบาลนี้ แต่สัมผัสได้ว่ารัฐบาลนายอนุทิน ชาญวีรกูล ได้นำประเทศไทยกลับสู่เรดาร์ในสายโลกตั้งแต่วันแรกที่เป็นรัฐบาล โดยนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้วทำให้ประเทศไทยโดดเด่นในยูเอน จากผลพวงของถ้อยแถลงวันนั้น ทำให้ประเทศโดดเด่นในที่ประชุมระดับโลก