“รักแรกพบ” สู่หยดน้ำผึ้งแห่งความยั่งยืนของชุมชนไทรห้อง

ชุมชนไทรห้อง ตำบลควนกรด อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช เคยเป็นชุมชนเล็ก ๆ ที่ผู้คนส่วนใหญ่มีรายได้หลักจากการกรีดยางพารา ซึ่งเป็นอาชีพที่ต้องอาศัยแรงกายแรงใจแต่รายได้กลับไม่เพียงพอต่อค่าครองชีพที่สูงขึ้น ท่ามกลางความท้าทายนั้น ชาวบ้านในชุมชนกลับมองเห็นโอกาสจากธรรมชาติ ใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ในชุมชนอย่าง “ผึ้งโพรงไทย” มาต่อยอดเป็นอาชีพเสริม สร้างรายได้และความสุขอย่างยั่งยืน

ด้วยความตั้งใจของผู้ใหญ่สมใจ รัตนบุรี ประธานวิสาหกิจชุมชนเลี้ยงผึ้งโพรงไทยธรรมชาติบ้านไทรห้อง และสมาชิกวิสาหกิจชุมชนฯ ประกอบกับชาวบ้านในชุมชนที่เลี้ยงผึ้งโพรงไทยอยู่แล้วในพื้นที่ นำไปสู่จุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ ก่อกำเนิดเป็น “วิสาหกิจชุมชนเลี้ยงผึ้งโพรงไทยธรรมชาติบ้านไทรห้อง” ซึ่งกลายเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในการสร้างรายได้และความเข้มแข็งให้กับคนทั้งหมู่บ้าน

จากภูมิปัญญาพื้นบ้าน สู่การพัฒนาอย่างเป็นระบบ

การเลี้ยงผึ้งโพรงไทยและการเก็บน้ำผึ้งจำหน่ายด้วยภูมิปัญญาพื้นบ้าน อาชีพเสริมเล็ก ๆ ของชาวบ้านในพื้นที่แนวสายส่งไฟฟ้า มีจุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นในปี 2562 เมื่อการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้สอบถามความต้องการของชุมชนในพื้นที่แนวสายส่งไฟฟ้า ชาวบ้านชุมชนไทรห้องจึงขอรับการสนับสนุนเพื่อพัฒนาการเลี้ยงผึ้งให้มีมาตรฐานยิ่งขึ้น

จากวันนั้น กฟผ. จึงส่งผู้แทนชุมชนไปศึกษาดูงานที่ศูนย์ส่งเสริมเทคโนโลยีการเกษตรด้านแมลงเศรษฐกิจ เกิดเป็นการเรียนรู้ใหม่ ๆ ตั้งแต่เทคนิคการเลี้ยงผึ้งอย่างถูกวิธี การเก็บน้ำผึ้งให้สะอาดปลอดสารเจือปน ไปจนถึงการแปรรูปและออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้สวยงามได้มาตรฐาน สะท้อนให้เห็นว่าภูมิปัญญาท้องถิ่น เมื่อได้ผสานกับองค์ความรู้สมัยใหม่ก็สามารถงอกงามได้อย่างมีคุณค่า

‘น้ำผึ้งดอกรักแรกพบ’ รสหวานละมุนจากธรรมชาติ

หนึ่งในแนวคิดสำคัญที่เกิดขึ้นจากความร่วมมือนี้คือการนำ “ดอกรักแรกพบ” มาปลูกเพื่อเป็นแหล่งอาหารหลักของผึ้ง ซึ่งลักษณะของดอกไม้ชนิดนี้จะออกดอกตลอดทั้งปี ทำให้ผึ้งมีอาหารอุดมสมบูรณ์และผลิตน้ำผึ้งได้ต่อเนื่อง กฟผ. จึงนำต้นรักแรกพบไปแจกจ่ายและส่งเสริมให้ชุมชนในพื้นที่นำไปปลูก เพื่อเป็นการขยายพื้นที่แหล่งอาหารของผึ้ง โดยน้ำผึ้งจากดอกรักแรกพบจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวคือหวานละมุนซ่อนเปรี้ยว เนื้อไม่หนืด และมีค่าน้ำตาลต่ำกว่าน้ำผึ้งทั่วไป กลายเป็นผลิตภัณฑ์เด่นที่สร้างชื่อและรายได้ให้กับชุมชน จากเดิมที่เคยเก็บน้ำผึ้งได้เพียงปีละครั้งก็เพิ่มเป็น 2–3 ครั้งต่อปี โดยแต่ละรังสามารถให้ผลผลิตได้ไม่ต่ำกว่า 3 กิโลกรัม

ต่อยอดผลิตภัณฑ์ สร้างรายได้หลายทาง

วันนี้ “วิสาหกิจชุมชนบ้านไทรห้อง” เติบโตอย่างเข้มแข็ง มีสมาชิกกว่า 56 ครัวเรือนที่ร่วมแรงร่วมใจสืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่น ด้วยการผลิตน้ำผึ้งคุณภาพสูงและต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์จากผึ้งและวัตถุดิบธรรมชาติในชุมชนหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น Propolis จากชันโรง ที่ชาวบ้านมองเห็นโอกาสนำมาเลี้ยงเพิ่มในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และนำมาใช้เป็นส่วนผสมในยาสีฟัน การทำยาดมและน้ำมันไพล ที่ผสมน้ำผึ้งและสมุนไพรพื้นบ้านเข้าด้วยกัน รวมถึงการนำตัวอ่อนผึ้งมาปรุงอาหารพื้นถิ่น และการใช้ไขผึ้งที่เหลือมาทำเป็นยาหม่องและทำปุ๋ยหมัก เพื่อเพิ่มมูลค่าและสร้างรายได้หมุนเวียนให้กับสมาชิกในชุมชนอย่างยั่งยืน

ความมุ่งมั่นในการพัฒนาคุณภาพและมาตรฐาน ทำให้หลายผลิตภัณฑ์ของชุมชนได้รับการรับรองจาก สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) แล้ว เช่น น้ำผึ้งและยาสีฟัน ส่วนผลิตภัณฑ์กลุ่มเครื่องสำอางอย่าง สบู่ โลชั่น และลิปบาล์ม ก็กำลังอยู่ระหว่างขั้นตอนการจดแจ้งเพื่อเตรียมต่อยอดสู่ตลาดที่กว้างขึ้น ทั้งในร้านมินิมาร์ทและแพลตฟอร์มออนไลน์ในอนาคต

ไม่เพียงเท่านี้ วิสาหกิจชุมชนบ้านไทรห้องยังได้ขยายช่องทางการจำหน่ายให้เข้าถึงผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น ทั้งหน้าร้าน Facebook, Thailand Post Mart, สนามบิน, งานออกบูทตามหน่วยงานราชการ รวมถึงการจัดกระเช้าของขวัญเนื่องในวาระโอกาสต่าง ๆ ซึ่งทุกผลิตภัณฑ์ไม่เพียงสร้างรายได้ให้ชุมชน แต่ยังถ่ายทอด “เรื่องราวของความตั้งใจและหัวใจของผู้คน” ที่ร่วมกันสร้างคุณค่าจากผึ้งตัวน้อย สู่ความยั่งยืนของบ้านไทรห้องอย่างแท้จริง

สร้างสรรค์เศรษฐกิจชุมชน พร้อมคืนกลับสู่สังคม

วิสาหกิจชุมชนเลี้ยงผึ้งโพรงไทยธรรมชาติบ้านไทรห้อง ไม่ได้มุ่งเพียงสร้างรายได้ให้กับสมาชิกเท่านั้น แต่ยังใส่ใจแบ่งปันผลประโยชน์คืนสู่สังคมในหลากหลายมิติ ซึ่งรายได้ที่เกิดขึ้นถูกจัดสรรอย่างเป็นระบบ โดยมีการปันผลสูงสุดถึง 20% ส่วนที่เหลือไว้ใช้พัฒนาชุมชนในด้านต่าง ๆ จ้างงานในพื้นที่ มอบทุนการศึกษาให้เด็กด้อยโอกาส ช่วยเหลือผู้สูงอายุและผู้ป่วยติดเตียง ตลอดจนการจัดกิจกรรมสาธารณประโยชน์เพื่อสร้างรอยยิ้มให้กับคนในชุมชนอยู่เสมอ

นอกจากนี้ บ้านไทรห้องยังเปิดพื้นที่เป็น “ศูนย์เรียนรู้” สำหรับผู้ที่สนใจเข้ามาศึกษาดูงาน เรียนรู้การเลี้ยงผึ้ง การแปรรูปผลิตภัณฑ์ และแบ่งปันประสบการณ์จริงจากสมาชิกในชุมชน เพื่อส่งต่อองค์ความรู้ดี ๆ ให้ขยายผลออกไปได้ไกลยิ่งขึ้น

จากวิถีชีวิตที่เคยพึ่งพารายได้จากยางพาราเพียงอย่างเดียว วันนี้บ้านไทรห้องได้ก้าวข้ามข้อจำกัดด้วยพลังความร่วมมือของคนในชุมชน ที่นำภูมิปัญญาท้องถิ่นมาผสานกับการสนับสนุนจากหน่วยงานในพื้นที่อย่าง กฟผ. ที่รับฟังและเข้าใจความต้องการของชุมชน พร้อมผลักดันการพัฒนาอย่างตรงจุด ชุมชนไทรห้องจึงเป็นตัวอย่างของชุมชนที่เข้มแข็ง พึ่งพาตนเองได้ และมีความสุข ท่ามกลางสิ่งแวดล้อมที่ยังคงความสมบูรณ์ของธรรมชาติไว้อย่างดีเยี่ยม

หากสนใจผลิตภัณฑ์น้ำผึ้งรักแรกพบและผลิตภัณฑ์แปรรูปจากผึ้ง หรือต้องการศึกษาดูงานสามารถติดต่อได้ที่

  • Facebook “ศูนย์การเรียนรู้ชุมชนผึ้งร่มไทร”

https://www.facebook.com/Phuengromsai?locale=th_TH

  • โทร. 09 9623 5692 (ผู้ใหญ่สมใจ รัตนบุรี)

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ชวนทำบุญ อิ่มใจ ร้านกาชาด กฟผ. จัดเต็มสอยดาวฉลากเบอร์ 5 ชมนิทรรศการแสงแห่งพระเมตตา สถิตย์ในใจประชานิจนิรันดร์ รำลึก’พระพันปีหลวง’

เริ่มแล้วงานกาชาดประจำปี 2568 จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “ร้อยดวงใจปวงประชา น้อมสำนึกพระเมตตา องค์สภานายิกาสภากาชาดไทย”

“เทด้า” คว้ารางวัล “คู่ค้าดีเด่นจาก กฟผ.” ติดต่อกันเป็นปีที่ 2

นายครองเกียรติ์ อุดมรัตนชัยกุล (ที่ 2 จากซ้าย) กรรมการผู้จัดการ บริษัท เทด้า จำกัด ที่ดำเนินธุรกิจด้านการก่อสร้างสถานีไฟฟ้าและสายส่งไฟฟ้าแรงสูง

มะม่วงหิมพานต์กับปาฏิหาริย์เรื่องราวแห่งแรงใจจากบ้านหาดไก่ต้อย จังหวัดอุตรดิตถ์

เรื่องราวของ วิสาหกิจชุมชนกลุ่มส่งเสริมอาชีพบ้านหาดไก่ต้อย จังหวัดอุตรดิตถ์ คือบทพิสูจน์ชั้นดีว่า “ความไม่ยอมแพ้” สามารถเปลี่ยนผืนดินที่แห้งแล้งให้กลายเป็นแหล่งสร้างรายได้

SAMART แจ้ง 'เทด้า' คว้างานใหญ่ รวมมูลค่ากว่า 3.2 พันลบ. ดันมูลค่างานในมือพุ่งแตะ 3.7 พันล้านบาท

“เทด้า” คว้างานก่อสร้างสถานีไฟฟ้าใหญ่ รวมมูลค่ากว่า 3.2 พันล้านบาท วางแผนเข้าประมูลงานอีกหลายโครงการ ล่าสุดคว้ารางวัล “คู่ค้าดีเด่นประจำปี 2568” จากกฟผ. การันตีองค์กรคุณภาพที่มีมาตรฐานการทำงานสูง