เดินหน้าเจรจาภาษีสหรัฐฯ ลั่นจุดยืนรัฐบาลแยกเรื่องความมั่นคงชายแดน-การค้าออกจากกัน

โฆษกรัฐบาล เผย จุดยืนของไทยต่อสหรัฐฯ ย้ำไทยแยกการเจรจาประเด็นความมั่นคง และประเด็นทางการค้าออกจากกัน ยืนยันตามข้อเท็จจริง กัมพูชาเป็นฝ่ายละเมิดก่อน

15 พฤศจิกายน 2568 - นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงพัฒนาการล่าสุดในสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา และประเด็นอื่นที่กระทรวงการต่างประเทศรายงานต่อรัฐบาล โดยประเด็นแรกเป็นผลจากการหารือทางโทรศัพท์ระหว่างนายกรัฐมนตรีอนุทิน ชาญวีรกูล และนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อค่ำวานนี้ ซึ่งมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศร่วมรับฟังด้วย ประธานาธิบดีสหรัฐฯ สอบถามสถานการณ์ล่าสุดที่ชายแดน นายกรัฐมนตรีได้ใช้โอกาสนี้อัปเดตข้อมูลและย้ำว่าทั้งสองประเทศต้องปฏิบัติตามถ้อยแถลงร่วมเพื่อก้าวสู่สันติภาพ พร้อมแสดงความเสียใจที่กัมพูชาฝ่าฝืนข้อตกลงก่อน โดยเฉพาะเรื่องการติดตั้งทุ่นระเบิดใหม่ ทั้งที่ทั้งสองฝ่ายตกลงร่วมกันให้เก็บกู้และงดการติดตั้งเพิ่มเติม

โฆษกประจำสำนักนายกฯ ระบุว่า นายกรัฐมนตรีได้ลงพื้นที่ตรวจสอบด้วยตนเองและยืนยันว่าพบการลักลอบติดตั้งทุ่นระเบิดใหม่ ส่งผลให้ทหารไทยที่ลาดตระเวนตามปกติได้รับบาดเจ็บสาหัสถึงขั้นสูญเสียขา พร้อมทั้งฝ่ายไทยยังได้เชิญคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียนลงพื้นที่เมื่อวานนี้เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริง สำหรับคำถามของประธานาธิบดีสหรัฐฯ เกี่ยวกับความคาดหวังของไทย นายกรัฐมนตรีได้ย้ำว่าไทยยึดมั่นในสันติภาพ แต่กัมพูชาต้องยอมรับข้อเท็จจริง แสดงความรับผิดชอบ และมีมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุลักษณะนี้อีก โดยสิ่งที่สำคัญที่สุดคือกัมพูชาต้องเปิดพื้นที่ 13 จุดตามที่เคยหารือกัน เพื่อให้ไทยเข้าดำเนินการเก็บกู้ทุ่นระเบิดได้อย่างปลอดภัย ทั้งนี้ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ รับฟังด้วยความเข้าใจ พร้อมย้ำว่าสหรัฐฯ และมาเลเซียพร้อมสนับสนุนเพื่อให้กระบวนการสันติภาพเดินหน้าต่อ แต่ไม่ประสงค์แทรกแซงกลไกทวิภาคีระหว่างไทย–กัมพูชา ซึ่งเป็นจุดยืนสำคัญของไทย

โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า ประเด็นที่สอง การหารือทางโทรศัพท์ระหว่างนายกรัฐมนตรีอนุทิน และนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย หลังการสนทนากับผู้นำสหรัฐฯ เพื่อประสานและแบ่งปันข้อมูลที่ได้หารือ นายกรัฐมนตรีมาเลเซียได้แสดงความเข้าใจและพร้อมสนับสนุนในฐานะประธานอาเซียน โดยคำนึงถึงข้อเสนอของไทยที่ระบุว่า “การเก็บกู้ทุ่นระเบิด” คือหัวใจสำคัญของข้อตกลงตามปฏิญญาร่วม ซึ่งทั้งสหรัฐฯ และมาเลเซียต่างรับทราบจุดยืนนี้ของไทยแล้ว

สำหรับประเด็นสุดท้าย กระทรวงการต่างประเทศรายงานว่า ไทยได้รับแจ้งจากรองผู้แทนการค้าสหรัฐฯ เมื่อคืนที่ผ่านมาว่า ฝ่ายสหรัฐฯ ขอ “ระงับชั่วคราว” การเจรจากรอบความตกลงภาษีต่างตอบแทนไทย–สหรัฐฯ โดยจะกลับมาหารือได้อีกครั้งเมื่อไทยให้คำมั่นว่าจะปฏิบัติตาม Joint Declaration อย่างเคร่งครัด ในประเด็นนี้ รัฐบาลไทยมีความผิดหวังต่อท่าทีดังกล่าว เพราะประเทศไทยยืนยันมาโดยตลอดว่า ประเด็นด้านความมั่นคงกับกัมพูชาเป็นเรื่องทวิภาคีที่ต้องพิจารณาแยกจากเรื่องการค้า ซึ่งเป็นผลประโยชน์ร่วมไทย–สหรัฐฯ ด้านประธานาธิบดีสหรัฐฯ เองยังได้ย้ำในการหารือกับนายกรัฐมนตรีว่า “สหรัฐฯ ไม่ประสงค์แทรกแซงปัญหาไทย–กัมพูชา” ตามกลไกทวิภาคีที่มีอยู่

รัฐบาลยินดีที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ รับฟังด้วยความเข้าใจ และหวังว่า ท่าทีของสหรัฐฯ ในประเด็นการค้าและภาษี สามารถหารือและเจรจาต่อไปได้โดยไม่กระทบต่อกรอบความร่วมมือสำคัญในด้านอื่นๆ ที่ทั้งสองประเทศมีมาอย่างแน่นแฟ้นและยาวนาน

“รัฐบาลขอย้ำว่าประเทศไทยจะยืนหยัดบนพื้นฐานผลประโยชน์แห่งชาติเป็นสำคัญพร้อมทั้งรักษาจุดยืนด้านความมั่นคงและอธิปไตยอย่างชัดเจน อย่างไรก็ตาม ไทยยังพร้อมร่วมมือกับสหรัฐฯ ในประเด็นความร่วมมือด้านอื่น ๆ ที่มีผลประโยชน์ร่วมกัน เพื่อสนับสนุนเสถียรภาพ ความมั่นคง และการพัฒนาทางเศรษฐกิจในภูมิภาคต่อไป“ นายสิริพงศ์ กล่าว

นายสิริพงศ์ กล่าวย้ำด้วยว่า ประเด็นที่มีการนำเสนอข่าวว่า สหรัฐฯขอชะลอการเจรจาเรื่องภาษี เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นก่อนที่นายกฯจะได้คุยกับ ประธานาธิบดีทรัมป์ ส่วนแนวทางในเรื่องนี้ขอยืนยันว่าในเรื่องการเจรจาภาษีจะยังมีการเดินหน้าเจรจาต่อไป แยกออกจากเรื่องชายแดน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รัฐบาลยกเว้น 'ค่าไฟ' พ.ย. 420 ล้าน เยียวยาน้ำท่วมสงขลา

นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การเยียวยาและฟื้นฟูพื้นที่ประสบอุทกภัย โดยเฉพาะในจังหวัดสงขลา เดินหน้าไปอย่างมาก โดยปัจจุบันสามารถนำประชาชนกลับบ้านไปได้กว่า 90%

รู้จักน้อยไปจริง! กระทุ้ง 'อนุทิน' เผยตัวตนให้มากขึ้น

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต สส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า หรือเรารู้จักท่านนายกรัฐมนตรีน้อยไปจริงๆ

โฆษกภูมิใจไทย โต้เดือด โทรโข่งเพื่อไทยแกล้งตาบอด ไม่เห็นภาพทักษิณกับเบน สมิธ

โฆษกภูมิใจไทย สวนโฆษกเพื่อไทย อย่าแกล้งตาบอด ปีนี้ใครถ่ายรูปกับ "เบน สมิธ" ยัน "อนุทิน" แค่รู้จักแต่ไม่สนิท ผลงานประจักษ์ยึดทรัพย์หมื่นล้านสแกมเมอร์รายใหญ่ บีบพ้น มท.1 เหตุไม่ให้สัญชาติใครหรือไม่ เย้ย 4 เดือนใครบริหารน้ำท่วมเหลว ขณะที่ "2 เดือน" นายกฯอนุทิน" เข้ามาแก้วิกฤติ