'ศิลปอาชา-สะสมทรัพย์' เข้าค่ายนํ้าเงิน!

“วราวุธ-สะสมทรัพย์” ยกมุ้งซบ ภท.  เปิดตัว 23 พ.ย. “อนุชา” อยู่พรรคใหญ่ ทำประโยชน์ให้นครปฐมได้มากกว่า “อัศวเหม” ยกทีมเปิดตัว พท. มั่นใจกวาดยกจังหวัด “นักวิชาการ”  ตั้งข้อสังเกตจับมือฟื้นกาสิโนหรือไม่ อาทิตย์นี้จับตาพรรคส้มมีประกาศสำคัญ

เมื่อวันที่ 21 พ.ย. นายภราดร ปริศนานันทกุล  รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ สส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงกรณีจะมี สส.จากพรรคอื่นย้ายมาร่วมพรรค ภท.หรือไม่ว่า ส่วนตัวไม่ทราบ เพราะไม่ได้ติดต่อให้ใครมาร่วม ต้องรอดูหลังยุบสภา ส่วนกระแสข่าวนายวราวุธ ศิลปอาชา สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) จะย้ายมาร่วมพรรค ภท.นั้น ไม่ทราบ แต่ได้คุยปกติทั่วไป วันก่อนได้เจอกับนายนิกร จำนง ผู้อำนวยการพรรค ชทพ. ได้คุยกันเรื่องทั่วไป เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ไม่ได้คุยเรื่องย้ายมา ยืนยันว่าไม่ได้ชวน อยู่ที่หัวหน้าพรรค ภท. ซึ่งได้ชวนหรือไม่ ไม่ทราบ แต่ยอมรับว่าเคยอยู่ด้วยกัน  มีความรู้สึกที่ดีต่อกัน

ผู้สื่อข่าวถามว่า อยากให้มาอยู่แท็กทีมภาคกลางร่วมกันหรือไม่ นายภราดรหัวเราะพร้อมกล่าวว่า “ผมอยู่พรรค ภท. ผมก็อยากให้พรรคผมโต” เมื่อถามย้ำว่าตระกูลสะสมทรัพย์ จ.นครปฐม จะพ่วงมาด้วยหรือไม่ นายภราดรกล่าวว่า ไม่ทราบ

นายภราดรยังเปิดเผยถึงการประชุมใหญ่พรรค ภท. ในวันที่ 23 พ.ย.ว่า ยังไม่เห็นวาระการประชุม แต่น่าจะเป็นเรื่องของการเตรียมความพร้อมการเลือกตั้ง การตั้งกรรมการสรรหาผู้สมัคร คณะกรรมการนโยบาย คณะกรรมการยุทธศาสตร์ ซึ่งต้องใช้มติที่ประชุมใหญ่ตั้ง

ทั้งนี้ ในวันอาทิตย์ที่ 23 พ.ย. เวลา 09.00-12.00 น. พรรค ภท.จะมีการประชุมใหญ่วิสามัญ ครั้งที่ 1/2568 จากนั้นเวลา 13.30 น. จะประชุมพรรคร่วมรัฐบาล ที่ทำการพรรค ภท.

นายอนุชา สะสมทรัพย์ สส.นครปฐม รองหัวหน้าพรรค ชทพ. เผยผ่านมติชนออนไลน์ ถึงกระแสข่าวดังกล่าวว่า มีการพูดคุยกันมาระยะหนึ่งแล้ว ทั้งการพูดคุยกันเองในพรรค ชทพ.ถึงอนาคตทางการเมืองของพรรค เพราะมองว่าการเมืองวันข้างหน้าพรรคเล็กจะอยู่ไม่ไหว พรรคเล็กจะทำประโยชน์ให้กับประชาชนได้น้อยกว่าการได้รวมกันกับพรรคใหญ่ ขณะคุยกันนั้นยังไม่ได้เคาะว่าจะไปไหน กระทั่งมาตกผลึกกันที่พรรค ภท. โดยเฉพาะสะสมทรัพย์ เรามองว่าพรรค ภท.เหมาะกับประชาชน จ.นครปฐมมากที่สุด จึงตัดสินใจกันว่าระหว่างสะสมทรัพย์กับศิลปอาชา เราเห็นพ้องกัน ไปไหนไปกันเลือดสุพรรณ ซึ่งขณะนั้นนายวราวุธก็เลือกตรงกันกับกลุ่มนครปฐม  จึงมาเป็นข้อสรุปว่ารวมกันไปพรรค ภท.                       

นายอนุชากล่าวว่า ในวันที่ 23 พ.ย.นี้ จะมีความชัดเจนอย่างเป็นทางการที่พรรค ภท. ซึ่งตามมารยาทพรรค ภท.ต้องเป็นฝ่ายแถลงเอง โดยวันดังกล่าวเรามอบหมายให้นายพาณุวัฒณ์ สะสมทรัพย์ สส.นครปฐม หลานชาย ไปที่พรรค ภท.แทน เพราะติดภารกิจ โดยสะสมทรัพย์เราเล่นการเมืองมากว่า 30 ปี เราต้องกราบพ่อแม่พี่น้องชาวนครปฐมทุกคนที่เลือกสะสมทรัพย์มายาวนาน ซึ่งเราเห็นอะไรมามาก อย่างนายไชยยศ สะสมทรัพย์ เคยเป็นหัวหน้าพรรคก้าวหน้า เมื่อพรรคเล็กไม่สามารถทำประโยชน์ให้พี่น้องนครปฐมได้ดีมากพอ เราก็เลือกไปรวมกับพรรคใหญ่ในสมัยนั้น สะสมทรัพย์เราไม่ได้ย้ายพรรคเรื่อยเปื่อย เราอยู่กับใครเราจริงใจ เรามีสัจจะ

“ย้อนไปตอนเราย้ายมาอยู่กับพรรค ชทพ. เพราะสะสมทรัพย์เราไม่เล่นการเมืองลักษณะคู่ขัดแย้ง เราขออยู่ตรงกลาง และมาวันนี้เราจับมือกัน พรรค ชทพ.ทั้งหมด นครปฐม สุพรรณบุรี ร้อยเอ็ด ไป ภท. พวกเราพรรค ชทพ.ทั้ง 10 คน เรามั่นใจว่าเราเป็น สส.ที่มีคุณภาพ เราอยู่กันอย่างไรเราก็อยู่กันอย่างนี้ โดยเฉพาะท่านวราวุธ อยู่กระทรวงไหนก็เป็นที่ยอมรับ แม้จะอายุน้อย แต่ด้วยคุณภาพเราสมควรที่จะอยู่กับเขา อะไรก็ได้ พวกเรายินดี” นายอนุชาระบุ

วันเดียวกัน นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ สส.เชียงใหม่ และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย พท. พร้อมด้วยผู้บริหารพรรค ร่วมเปิดตัวผู้สมัคร สส. เป็นรอบที่ 6 โดยแบ่งเป็นผู้เสนอตัวลงสมัคร สส.แบบแบ่งเขต ของ จ.สมุทรปราการ จำนวน 8 คน และบัญชีรายชื่อจำนวน 3 คน

โดยนายจุลพันธ์กล่าวว่า การต้อนรับทีมนายอัครวัฒน์ อัศวเหม รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สมุทรปราการ และอดีต สส.สมุทรปราการ เข้ามาอยู่ในพรรค พท. ถือเป็นการรวมพลัง และทำให้เราเชื่อมั่นว่าใน จ.สมุทรปราการ ในการเลือกตั้งครั้งที่จะมาถึง เราจะสามารถคว้าชัยชนะมาได้ทั้งจังหวัด มั่นใจมาก

ขณะที่นายอัครวัฒน์กล่าวว่า พรรค พท.ได้ชักชวนกลุ่มมาอยู่หลายครั้งแล้ว เรามั่นใจพ่อแม่พี่น้องใน จ.สมุทรปราการ ตลอดจนนักการเมืองท้องถิ่นและผู้สมัครพรรค พท. เป็นพี่เป็นน้องกันทั้งนั้น และมีความมั่นใจว่าถ้าอยู่พรรค พท.ในการเลือกตั้งครั้งนี้ ถ้าเป็นรัฐบาลจะสามารถแก้ไขปัญหาในสมุทรปราการให้ดียิ่งขึ้น

อัศวเหมซบเพื่อไทย

นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรค ภท. กล่าวถึงกรณีพรรค พท.เปิดตัวบ้านใหญ่อัศวเหมว่า “อูย ยินดีด้วยจะได้มาช่วยบ้านเมือง” เมื่อถามย้ำว่า ถือว่าเป็นการตัดขาดกันเลยหรือไม่ นายอนุทินยิ้มรับแต่ไม่ตอบคำถาม

นายโอฬาร ถิ่นบางเตียว อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์  มหาวิทยาลัยบูรพา แสดงความเห็นกรณีที่พรรค พท.ดึงบ้านใหญ่อัศวเหมเข้าร่วมพรรคเพื่อเตรียมสู้ศึกเลือกตั้งว่า ประเด็นที่ทำให้การย้ายพรรคครั้งนี้ได้รับความสนใจมากเป็นพิเศษคือ บริบทที่เกี่ยวข้องกับแนวคิดเรื่องกาสิโน ซึ่งถูกหยิบยกขึ้นมาในเวทีการเมืองหลายครั้ง โดยพรรค พท.เคยมีการแสดงท่าทีสนับสนุนการตั้งกาสิโนถูกกฎหมายในบางช่วงเวลา ขณะเดียวกัน ชื่อของนายวัฒนา อัศวเหม แกนนำสำคัญของตระกูล ก็เคยปรากฏในข่าวเชิงธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับกิจการกาสิโนฝั่งกัมพูชา ความสอดคล้องบางด้านระหว่างพรรค พท.กับตระกูลอัศวเหม ทำให้เกิดข้อถกเถียงว่าทั้งสองฝ่ายอาจมองเห็นผลประโยชน์ทางนโยบายร่วมกัน โดยเฉพาะในประเด็นกาสิโน ซึ่งอาจถูกหยิบมาเป็นส่วนหนึ่งของข้อเสนอใหม่ในศึกเลือกตั้งครั้งหน้า

 “คำถามไม่ใช่ว่าตระกูลอัศวเหมเลือกอยู่กับใคร แต่คือเมื่อพวกเขาเข้าร่วมพรรคที่เคยพูดถึงนโยบายกาสิโนอย่างเปิดเผยในอดีต ผลลัพธ์เชิงนโยบายจะมุ่งหน้าไปในทิศทางใด และจะถูกเสนอเป็นแนวทางในการหาเสียงหรือไม่” นายโอฬารระบุ

ขณะที่ความเคลื่อนไหวของพรรค ปชน. นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรค ได้โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า ขอต้อนรับอาจารย์ธีระ สุธีวรางกูร อดีตอาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คณาจารย์กลุ่มนิติราษฎร์ ผู้เชี่ยวชาญทางด้านกฎหมายมหาชน สู่บทบาทใหม่ในการร่วมกับพวกเราพรรคประชาชน เป็นที่ปรึกษาพรรคประชาชนด้านกฎหมาย

มีรายงานข่าวจากพรรค ปชน.แจ้งด้วยว่า ในวันที่ 22-23 พ.ย.นี้ พรรค ปชน.จะจัดงานรีชาร์จประชาชน ที่สำนักงานใหญ่พรรค ปชน. โดยทีมงานพรรค ปชน.ย้ำว่า ในวันดังกล่าวจะมีการประกาศเรื่องสำคัญด้วย ซึ่งคาดว่าอาจจะมีการเผยชื่อแคนดิเดตนายกฯ ของพรรค

ด้านพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เมื่อเวลา 08.45 น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้เป็นประธานในพิธีตั้งศาลพระภูมิเจ้าที่และศาลตา-ยาย ที่ทำการพรรค พปชร. ถนนประชาราษฎร์ เพื่อความเป็นสิริมงคลและความเจริญรุ่งเรืองให้แก่พรรค  โดยมีแกนนำเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง

นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ หัวหน้าพรรคไทยก้าวใหม่ กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมของผู้สมัคร สส. หลังจากนายกฯ ประกาศพร้อมยุบสภาในเดือน ธ.ค. ว่า ทุกพรรคการเมืองต้องพร้อมทุกวินาทีด้วย วันนี้ถือเป็นวันดีของพรรคไทยก้าวใหม่ เป็นความพร้อมของเรา การส่ง สส.ได้ ก็อาจไม่ใช่เรื่องยากเย็นนัก แต่การสรรหาผู้ประสงค์จะลงสมัคร สส.ไม่ง่าย โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่ตั้งใจจะเปลี่ยนแปลงประเทศให้ไม่เหมือนเดิม

ส่วนจะส่งผู้สมัคร สส.ครบทั้ง 400 เขตหรือไม่ นายสุชัชวีร์ยอมรับว่า ยากเหมือนกัน เพราะมีผู้ประสงค์จะสมัครเยอะ แต่เราสัมภาษณ์หนักและละเอียด ไหนๆ จะทำพรรคการเมืองทั้งที ถ้าจะทำเหมือนเดิม สุดท้ายก็อยู่ในหลุมดำแบบเดิม

เมื่อถามถึงการเปิดตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี  นอกจากตัวนายสุชัชวีร์เอง จะเปิดเพิ่มให้ครบ 3 ชื่อหรือไม่ นายสุชัชวีร์กล่าวว่า อยากให้ติดตาม ส่วนของ กทม. จะส่งผู้สมัคร สส.กทม.ครบทั้ง 33 เขต ความจริงมีตัวผู้สมัครแล้ว แต่ถ้าวันนี้เปิดหมดก็ไม่สนุก และจะใช้เวลานาน ขณะที่ความชัดเจนเรื่องแคนดิเดตผู้ว่าฯ กทม.นั้น เรื่องนี้ขอให้ติดตาม.