ปัตตานีเร่งตั้งศูนย์บัญชาการติดตามอุทกภัย หลังน้ำป่าหลาก-ท่วมขังสะสมกระทบ 47 หมู่บ้าน เสียชีวิต 2 ราย ด้านยะลาฝนชุดใหญ่ทำถนนรอบอ่างเก็บน้ำยะรมทรุดตัว ผิวถนนแยกยาว 50 เมตร ปิดเส้นทางชั่วคราวและประกาศพื้นที่เฝ้าระวังฝนหนัก 21-23 พ.ย.
28 พฤศจิกายน 2568 - ที่ห้องศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉิน EOC สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดปัตตานี นายสนั่น สนธิเมือง รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เป็นประธานการประชุมศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย และดินถล่ม ปี 2568 พร้อมประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์กับทั้ง 12 อำเภอ เพื่อติดตามสถานการณ์และเร่งให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย
จังหวัดปัตตานีได้รับผลกระทบหนักจากอุทกภัย โดยข้อมูลเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน ระบุว่าได้รับผลกระทบแล้ว 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอแม่ลาน อำเภอสายบุรี และอำเภอโคกโพธิ์ รวม 13 ตำบล 47 หมู่บ้าน 1 ชุมชน 1,191 ครัวเรือน ประชาชน 3,860 คน โดยมีผู้เสียชีวิต 2 รายจากการจมน้ำ ในพื้นที่ตำบลปากู อำเภอทุ่งยางแดง และตำบลเขาตูม อำเภอยะรัง ขณะที่ความเสียหายด้านเกษตร ประมง ปศุสัตว์ และสาธารณประโยชน์ อยู่ระหว่างตรวจสอบ
นายสนั่น กล่าวว่า ได้กำชับอำเภอ อปท. ทหาร อาสาสมัคร และมูลนิธิต่าง ๆ ให้เข้าพื้นที่ทันทีเพื่อช่วยขนย้ายสิ่งของไปยังจุดปลอดภัย พร้อมช่วยเหลือประชาชนเบื้องต้น โดยขณะนี้หลายพื้นที่ยังมีฝนตกต่อเนื่อง ระดับน้ำในแม่น้ำปัตตานีและแม่น้ำสายบุรีเพิ่มสูงอย่างต่อเนื่อง กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดยังคงติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด พร้อมย้ำให้เฝ้าระวังโรงพยาบาล โรงเรียน และหน่วยงานราชการในพื้นที่เสี่ยง
สภาพฝนที่ตกหนักตั้งแต่วันที่ 17 พฤศจิกายนนำไปสู่ปริมาณน้ำสะสมจำนวนมาก ส่งผลให้หลายจุดน้ำระบายไม่ทันและท่วมสูง การสัญจรเป็นไปอย่างยากลำบาก ทั้งในอำเภอสายบุรี มายอ และทุ่งยางแดง โดยกังวลว่าน้ำป่าอาจมาอีกระลอกหลังรอบแรกสร้างความเสียหายหนักอยู่แล้ว
ที่จังหวัดยะลา ฝนตกหนักต่อเนื่องทำให้ถนนรอบอ่างเก็บน้ำยะรม หมู่ 4 ตำบลยะรม อำเภอเบตง เกิดการทรุดตัวและผิวถนนแยกเป็นแนวยาวกว่า 50 เมตร เจ้าหน้าที่ต้องเร่งติดตั้งป้ายเตือนและปิดเส้นทางชั่วคราวเพื่อความปลอดภัย
ร.ต.อ.สิทธิพงศ์ เหมกุสุมา นายกองค์การบริหารส่วนตำบลยะรม มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบ โดยนายพรชัย ซาแลง นายช่างโยธา อบต.ยะรม ระบุว่า ถนนทรุดลึกประมาณ 2 เมตร คาดว่าเกิดจากฝนที่ตกต่อเนื่อง ทำให้ดินอุ้มน้ำจนสูญเสียความแข็งแรง และอาจเกิดโพรงใต้ถนนจากการถูกน้ำเซาะ
เบื้องต้นได้ปิดพื้นที่ ห้ามบุคคลสัญจรเข้า–ออก พร้อมรอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าดำเนินการซ่อมแซมโดยด่วน
สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดยะลาแจ้งว่า ช่วงวันที่ 21–23 พฤศจิกายน ร่องมรสุมพาดผ่านภาคใต้ร่วมกับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังแรง ส่งผลให้หลายอำเภออยู่ในพื้นที่เสี่ยงน้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง และดินโคลนถล่ม ได้แก่ อำเภอเบตง ธารโต บันนังสตา กาบัง ยะหา รวมถึงมีโอกาสที่ระดับน้ำเพิ่มขึ้นฉับพลันในอำเภอเมืองยะลา อำเภอรามัน และอำเภอยะหา.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
รัฐบาลยกเว้น 'ค่าไฟ' พ.ย. 420 ล้าน เยียวยาน้ำท่วมสงขลา
นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การเยียวยาและฟื้นฟูพื้นที่ประสบอุทกภัย โดยเฉพาะในจังหวัดสงขลา เดินหน้าไปอย่างมาก โดยปัจจุบันสามารถนำประชาชนกลับบ้านไปได้กว่า 90%
มูลนิธิคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ มอบเงินให้สภากาชาดไทย ช่วยน้ำท่วมภาคใต้
รศ.นายแพทย์พินิจ กุลละวณิชย์ ประธานกรรมการมูลนิธิคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ มอบเงินบริจาคจำนวน 306,000 บาท (สามแสนหกพันบาทถ้วน) ให้นายเตช บุนนาค เลขาธิการ สภากาชาดไทย รับมอบ เพื่อ “รวมน้ำใจ ช่วยภัยน้ำท่วมภาคใต้ กับสภากาชาดไทย” ช่วยเหลือ ฟื้นฟู เยียวยา พี่น้องผู้ประสบอุทกภัยน้ำท่วมภาคใต้
อวยไส้แตก! สิ่งที่เท้งทำตอนน้ำท่วม ถ้าได้บริหารประเทศ จะตอบโต้สถานการณ์น้ำท่วมได้
ตอนน้ำท่วมแม่สาย เชียงราย ปีก่อน เท้งมาแบบคนที่ตาใสเลย นับ 1 จับต้นชนปลายไม่ถูก แต่มีความตั้งใจ มาแต่ตัวจริงๆ ไม่มีแม้อุปกรณ์ล้างบ้าน ตั้ง
อุตุฯ เตือนใต้ฝนตกหนักถึงหนักมาก เหนือ-อีสาน-กลางอุณหภูมิลดลง
กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้าว่า ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส พังงา ภูเก็ต ตรัง และสตูล
สส.ศาสตรา สะท้อนปัญหาน้ำท่วมหาดใหญ่ จี้รัฐบาลเร่งแก้ขยะเน่าเหม็นแล้ว เงินเยียวยายังล่าช้า
สส.สงขลา เข้าสภาฯ สะท้อนปัญหาชาวหาดใหญ่ เรียกร้องรัฐบาล เร่งจ่ายเงิน 9,000 บาทให้เร็วเหมือนวันแรก จี้ เก็บขยะเน่าเสีย วอน ออกมาตรการช่วยเหลือภาคอุตสาหกรรม สร้างความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยว
วิริยะประกันภัย ผุดมาตรการเร่งช่วยเหลือลูกค้าจากเหตุวิกฤตอุทกภัยภาคใต้
วิริยะประกันภัย เดินหน้ามาตรการรับมือวิกฤตอุทกภัยภาคใต้ จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการเฉพาะกิจรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินช่วยเหลือผู้เอาประกันภัยที่ได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่อง พร้อมปฏิบัติการ FIRST AID ระดมเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สำรวจความเสียหาย


