เดือดพลั่ก “ปิยบุตร” จัดหนักจัดเต็มโต้กระแสลือเงิน 2,000 ล้านบาทแลกโหวตอนุทินเป็นนายกฯ ชี้เป็นพฤติกรรมของพวกชั่ว จิตใจต่ำที่ใช้มาตรฐานมืดของตัวเองไปตัดสินคนอื่น ย้ำพรรคประชาชนรู้ว่าจะเสียคะแนนแต่ยอมแลกเพื่อปลดล็อกแก้รัฐธรรมนูญ
22 พฤศจิกายน 2568 – นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า พูดผ่านสื่อออนไลน์ด้วยน้ำเสียงดุเดือด เปิดประเด็นเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ พร้อมสวนกลับกระแสลือว่าพรรคประชาชนโหวตให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นนายกรัฐมนตรีเพื่อแลกผลประโยชน์ โดยตั้งคำถามว่า พรรคประชาชนได้อะไรจากการตัดสินใจครั้งนั้น
เขาระบุว่าไอ้พวกชั่ว เน้นคำนี้ ไอ้พวกชั่วไปลือกันว่าได้เงิน 2 พันล้าน พูดตรงตรง พวกชั่ว เอาสันดานที่ตัวเองเคยทำกัน แล้วมาคิดว่าคนต้องเป็นอย่างตัวเอง
เลขาธิการคณะก้าวหน้า กล่าวต่อว่า ผู้ปล่อยข่าวลือไม่เชื่อจริงหรือว่าพลังการเมืองแบบใหม่มีความบริสุทธิ์ใจ ต้องการหาทางแก้รัฐธรรมนูญ และตัดสินใจเอาตัวเองเข้าไปทำเพื่อส่วนรวมโดยไม่ได้หวังผลตอบแทนใด ๆ
นายปิยบุตร ระบุว่ามาตรฐานจิตใจของคนกลุ่มนี้มันต่ำ จึงเชื่อว่าการโหวตทุกครั้งต้องแลกด้วยผลประโยชน์ เงินทอง หรือการเป่าคดี เพราะคุ้นกับวิธีแบบนั้น จึงคิดว่าพรรคประชาชนต้องเป็นแบบเดียวกัน
เขากล่าวว่าคนกลุ่มนี้มีจิตใจต่ำ ชั่ว จึงเที่ยวปล่อยข่าวลือ และนำมาตรฐานต่ำของตัวเองไปตัดสินคนอื่นโดยไม่สนใจข้อเท็จจริง
นายปิยบุตร ยังชี้ว่า พรรคประชาชนรู้ดีว่าจะเสียคะแนนนิยม โดนคนด่าทุกวัน ว่าทำไมค้านนายอนุทินมาตลอดแต่กลับโหวตให้ แต่ผู้บริหารพรรคก็รับรู้ล่วงหน้า และเห็นแสงสว่างรำไรว่าข้อตกลงอาจช่วยปลดล็อกการแก้รัฐธรรมนูญให้เดินหน้าได้
เขาระบุว่าตลอดสองเดือนที่ผ่านมา พรรคประชาชนไม่ได้อะไรเลย นอกจากเสียคะแนนและโดนโจมตี แต่หากกระบวนการเดินหน้าได้จริง ปี 2569 จะเป็นปีที่ทั้งสังคมพูดเรื่องรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และอาจได้เห็นรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ในปี 2570 ซึ่งจะทำให้ไม่ต้องติดปัญหาเสียง สว.67 เสียงอีก
เลขาธิการคณะก้าวหน้า กล่าวด้วยว่า แม้ข้อตกลงเอ็มโอเอจะไม่ใช่หลักประกัน แต่ถือว่าได้ลุ้นมากกว่าสถานการณ์ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ กระแสลือเงิน 2,000 ล้านบาทแลกโหวตนายอนุทินนั้น มีต้นทางจากการอภิปรายในสภาเมื่อวันที่ 5 กันยายน เมื่อ นายอดิศร เพียงเกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย นำเรื่องนี้ขึ้นมากล่าวกลางสภา โดยระบุว่ามีกระแสข่าวพูดถึงการใช้เงิน 1,500–2,000 ล้านบาทเพื่อสนับสนุนการขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล
หลังจากนั้น ประเด็นดังกล่าวถูกขยายผลอย่างรวดเร็ว และถูกนำไปใช้ในการโจมตีพรรคประชาชนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะจากกลุ่มผู้สนับสนุนพรรคเพื่อไทย ทำให้ข่าวลือนี้ถูกตีความเชื่อมโยงกับการโหวตครั้งนั้น แม้จะไม่มีหลักฐานยืนยันก็ตาม.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
อดีต สส.ปากน้ำ ฉะพรรคส้มเผด็จการ ถูกเขี่ยไม่ให้ลงสมัครเลือกตั้ง ทั้งที่ผ่านมติ กก.บห.แล้ว
ตีกันยับ! 'ตรัยวรรษ' อดีต สส.ปชน. เมืองปากน้ำ มอง ไม่ได้รับความเป็นธรรม ฉะพรรคส้มเผด็จการ 'เลขาพรรค' หักมติ เหตุ ตอนแรกได้ลงสมัครต่อแล้ว แต่ถูกต่อสายขอให้ถอนตัว งง แล้วจะมี กก.บห.เพื่อ ยัน 2 ปี 7 เดือนมุ่งมั่นทำงาน ขอทวงคืนความยุติธรรมให้ตัวเอง
'อภิสิทธิ์' ลั่นต่อสู้ให้การเมืองกลับมาเป็นเรื่องความนิยมอุดมการณ์-นโยบายตัวบุคคล
หัวหน้าปชป. ไม่หวั่น อดีต สส. แห่ย้ายพรรค พร้อมส่ง สส.ชน ย้ำไม่มีใครผูกขาดคะแนนเสียง บอกหากวันเลือกตั้งต้องขยับ เนื่องจากเหตุสุดวิสัยเป็นเรื่องเข้าใจได้
ภูมิใจไทยปลุกพลังผู้สมัครสส. ชูสโลแกน 'พูดแล้วทำพลัส' ตั้งเป้าเกิน 200 ที่นั่ง!
แกนนำภูมิใจไทยกำชับว่าที่ผู้สมัคร สส.เดินเกมเลือกตั้งตามกติกา กกต. ชูผลงานรัฐบาลเป็นจุดขาย พร้อมปลุกใจหากทุ่มเทเต็มที่ มีลุ้นกวาดเกิน 200 ที่นั่ง มองสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชามีแนวโน้มคลี่คลายก่อนปีใหม่
อดีต สส.พรรคส้ม 'จิรัฏฐ์' ถอดใจ ไม่ไปต่อ เมียขอลงสมัครแทน
พรรคส้มยันไม่ปกป้อง สส.จิรัฏฐ์ ถูกตัดสินจำคุก คดีปลอมใบ สด.43 ย้ำ เป็นสิทธิเจ้าตัวพิสูจน์ตัวเองในกระบวนการยุติธรรม เผยตัดสินใจมานานแล้วจะไม่ลงสมัครต่อ แต่ ภรรยา "จิรัฏฐ์" ได้แสดงความประสงค์สมัครรับเลือกตั้งในนามพรรค
เพื่อไทย ชูเครือญาติ 'ชินวัตร' นั่งแคนดิเดตนายกฯ อันดับ 1
"เพื่อไทย ชู "ยศชนัน" นั่งแคนดิเดตนายกฯ เบอร์ 1 ชี้ไม่เป็นปัญหาถูกมองหนีไม่พ้นตระกูลชินวัตร ลั่นเป็นโอกาส-จุดเด่น รับเป็นหน้าใหม่การเมือง เชื่อเวลา 2 เดือน ชนะใจปชช.ได้ พร้อมยัน ไม่ถูกครอบงำจาก “เยาวภา” ด้าน “สุริยะ” ยังมั่นใจ ถึงเป้า 200 ที่นั่ง ขณะที่ “จุลพันธ์” ประกาศพร้อมฝ่าด่านอำนาจรัฐ กระสุน กระแสชาตินิยม สู่ชัยชนะด้วยนโยบาย
ปชป. ชู 3 แกนหลัก การเมืองสุจริต ความเป็นมืออาชีพ ไว้วางใจได้ไม่มีดีลลับ
ปชป. ประกาศเดินหน้าเปลี่ยนผ่านสู่ยุคใหม่ ชู 3 แกนหลัก สุจริต-มืออาชีพ-ไว้วางใจ พร้อมสะท้อนปัญหาหาดใหญ่ถึงรัฐบาล

