ติโม แวร์เนอร์ กองหน้าดีกรีทีมชาติเยอรมนี ค่าตัว 53 ล้านปอนด์ ในที่สุด ก็กลับมาทำประตูให้เชลซีได้แล้วเมื่อคืนวันจันทร์ เป็นลูกแรกของตัวเองในการลงเล่นในพรีเมียร์ลีก 15 นัด พาทีม"สิงห์บลูส์"เปิดบ้านต้อนเอาชนะ นิวคาสเซิล ไป 2-0
    ผลงานการทำประตูในลีก ลูกแรกของแวร์เนอร์ นับตั้งแต่ 7 พฤศจิกายน จะช่วยลดความกดดันให้กับ หัวหอกชาวเยอรมัน ที่ก่อนหน้านี้ฝืดมานานถึง 1,000 นาที จนถูกวิจารณ์อย่างหนักถึงความคุ้มค่าที่ เขลซี ยอมจ่าย 53 ล้านปอนด์ เพื่อคว้าตัวเขามาเมื่อตอนซัมเมอร์
    โธมัส ทูเคล ยืนยันว่า มีเพียงการทำประตูเท่านั้น ที่จะช่วยฟื้นความมั่นใจให้กับบ แวร์เนอร์ และดูเหมือนว่าหนึ่งประตูที่ทำได้ในเกมกับ เจ้าสาลิกาดง จะมาช่วยคลายล็อคให้เขาได้แล้ว หลังจากที่เจ้าตัวเผยว่าตอนนี้เขาารู้สึกโล่งใจมากและมีความสุขมากที่หยุดอาถรรพ์ที่ทำให้เขาทำประตูคู่แข่งไม่ได้มาถึง 15 นัดในพรีเมียร์ลีก
      แวร์เนอร์ ให้สัมภาษณ์ หลังชัยชนะ 3-0 เมื่อคืนวันจันทร์ "ผมคิดว่าในฐานะกองหน้า คุณต้องการยิงประตูให้ได้อยู่ตลอดเวลา"
    "เมื่อเดือนที่แล้วผมไม่มีความสุขนักกับการที่ยังทำประตูไม่ได้ แต่นี่เป็นกีฬาที่เล่นเป็นทีมและเมื่อเราชนะ ทุกอย่างคือดี เมื่อผมช่วยทีมได้ด้วยการทำแอสซิสต์ เรียกจุดโทษ และตอนนี้กลับมาทำประตูได้แล้ว ผมมีความสุขมาก"
    "สำหรับกองหน้า มันเลวร้ายยิ่งกว่าถ้าคุณไม่มีโอกาสที่จะได้สับไกลุ้นประตูให้ทีมได้เลย ผมมีโอกาสเยอะมาก แต่ผมพลาดไปหมด วันนี้ทีมของผมช่วยสร้างโอกาสให้กับผมมากมายหลายครั้งที่จะช่วยให้ผมยิงได้ และนั้น่คือสิ่งสำคัญสำหรับผม"
    อันที่จริง แวร์เนอร์ ก็เกือบจะโชคร้ายไม่ได้ประตูนี้ เมื่อ บอลเหมือนจะเฉี่ยวท่อนแขนของ โอลิวิเยร์ ชิรูด์ จากจังหวะเตะมุม ก่อนที่จะมาตกใส่เท้าของเขา เกี่ยวบอลผ่านเส้นเข้าไปได้ที่เสาไกล
    แต่หลังจากที่ได้ดู VAR แล้ว ผู้ตัดสินเป่าให้ เชลซี ได้ประตูไป และ แวร์เนอร์ ก็ยิ้มได้ ที่ช่วยให้ทีมหนีห่างเป็น 2 ลูก ในนาทีที่ 39 หลังจากที่ ทีมเพิ่งได้ประตูแรกของเกมจาก ชิรูด์ ก่อนหน้านั้น 8 นาที
    ชัยชนะในถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ นัดนี้ ทำให้ เชลซี เข้าไปอยู่ในกลุ่มท็อปโฟร์ รั้งที่ 4 เป็นที่เรียบร้อย ขณะที่ ลิเวอร์พูล ร่วงลงไปอยู่ที่ 6 ของตาราง หลังจากที่ เวสต์แฮม ก็เป็นอีกทีมที่แซงแชมป์เก่าได้ด้วยชัยชนะเมื่อคืนวันจันทร์
    "มคิดว่ามันสำคัญมากสำหรับเราที่จะต้องได้ไปแชมเปี้ยนส์ลีกในฤดูกาลหน้า" แวร์เนอร์ กล่าว "เมื่อตอนสตาร์ทซีซั่น ทุกคนพูดกันว่าเราคือทีมเต็งแชมป์ แต่ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมานี้ มันแสดงให้เห็นว่าเราไม่ใช่ เรายังมีงานต้องทำอีกมากเพื่อปิดช่องว่างระหว่างเรากับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และสโมสรอื่นๆ"
    "ฟุตบอลที่เราเล่นตอนนี้ เกมต่างๆที่เราเอาชนะได้ ไม่ใช่เกมที่ง่าย ดังนั้นมันจึงแสดงให้เห็นว่าเราสามารถที่จะพัฒนาอย่างที่เห็นในผลงานในชข่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา เราสามารถเข้ามาอยู่ในท็อปโฟร์ได้แล้ว แต่ต้องไม่ใช่แค่นั้น และเรายังมองถึงปีหน้าและปีต่อๆไปแล้ว"
    ทางด้าน เวสต์แฮม แซง ลิเวอร์พูล ขึ้นรั้งงที่ 5 ต่อหลังจาก เชลซี โดยมี 42 คะแนนเท่ากัน แต่ผลต่างประตูได้เสียน้อยกว่า หลังเปิดบ้านถล่มเอาชนะ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ไป 3-0 เดแคลน ไรซ์ เปิดสกอร์แรกจากจุดโทษในครึ่งแรก น.41 จากนั้นในครึ่งหลังได้เพิ่มอีก 2 ประตู จาก อิซซา ดิอ็อป น.58 และ ไรอัน เฟรเดริคส์ น.90+6