ไทยไม่ทนมันปาก รุมอัดบิ๊กตู่-พ.ร.ก. ปูดพ้นเก้าอี้‘พ.ค.’


เพิ่มเพื่อน    

 เวทีด่าออนไลน์มันปาก “ไทยไม่ทน” รุมกะซวกปัญหาโควิด-พ.ร.ก.ฉุกเฉิน “จตุพร” ฟันธง ”ประยุทธ์” ไปแน่เดือน พ.ค. เพ้อหนัก ครม.ไม่มีใครกล้ากินน้ำกลัวถูกวางยา “นคร มาชิน” โผล่ปลุกฝ่ายค้านร่วมมือม็อบ 3 นิ้ว ปูดมี 4 ชื่อนายกฯ สำรอง

    เมื่อวันอาทิตย์ที่ 25 เม.ย. ที่ห้องประชุมไทยไม่ทน สถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมพีซทีวี มีการจัดเวทีอภิปรายออนไลน์เพื่อขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และคณะรัฐมนตรี ภายใต้ชื่อ “ไทยไม่ทน สามัคคีประชาชน เพื่อประเทศไทย” เป็นวันที่สอง โดยส่วนใหญ่เป็นการโจมตีการแก้ไขปัญหาโควิดของรัฐบาล โดยนายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 2535 กล่าวเปิดเวทีตอนหนึ่งว่า รัฐบาลเลือกสั่งวัคซีนที่ประสิทธิภาพต่ำ เป็นการค้าขายกับความตายของคนในชาติ ค้าชีวิตมนุษย์ ทำให้บัดนี้คนไทยต้องเสี่ยงได้รับวัคซีนที่มีประสิทธิภาพไม่สูงเท่าที่ควร
    นายไทกร พลสุวรรณ แกนนำอีสานกู้ชาติ ปราศรัยว่า การจัดการแก้ไขปัญหาโควิด พล.อ.ประยุทธ์ล้มเหลว มองประชาชนไร้ค่า รวบอำนาจการบริหารจัดการมาไว้ในมือตัวเองตั้งแต่ 25 มี.ค.2563 และได้ออก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จากวันนั้นถึงวันนี้ ทางข้างหน้าที่ทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ และนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข พาคนไทยไป จุดหมายปลายทางคือ ป่าช้า ไม่ฝังก็เผา ถ้า พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ ต่อไป โควิดไม่หยุดระบาด ประชาชนก็ตาย ถ้าให้ประชาชนรอด พล.อ.ประยุทธ์ต้องออกไป คือบันไดก้าวแรกที่จะหยุดวงจรหายนะ
    นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต่อต้านคอร์รัปชัน ปราศรัยโดยนำคลิปของนายอนุทินที่เคยอ้างว่าไทยมีวัคซีนมากสุดในเอเชีย ก่อนระบุว่าความเป็นจริงทำไมยังฉีดให้ประชาชนไม่ถึง 1% ทุกวันนี้นายอนุทินก็วิ่งไปหารัสเซียขอซื้อวัคซีน สิ่งนี้คือที่ประชาชนได้จากรัฐบาลประยุทธ์ ไม่เคยมีความรับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น     
    “หลายคนก็บอกว่าต้องไล่ทั้งนายอนุทิน นายสมศักดิ์ และนายศักดิ์สยาม ขอบอกว่าไล่ประยุทธ์คนเดียว ไปหมดทุกคน เอานายกฯ ออกให้ได้คนเดียวแก้ปัญหาได้แน่นอน มีนายกฯ คนต่อไปชื่ออะไร มีทั้ง ประวิตร และธรรมนัส ก็อยู่ในลิสต์จะได้เป็น ก็มาเลย ไม่มีปัญหา ถ้าบริหารได้ บริหารดี แก้ปัญหาได้ ไม่เป็นอะไร ถ้าบริหารประเทศไม่ได้ก็ไล่อีก” นายวีระระบุ                  
    นายไพศาล พืชมงคล อดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ปราศรัยว่า การแพร่ระบาดของโควิดในไทย ระยะแรกก็เป็นหนึ่งในคนที่สนับสนุนให้ใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แต่ควรใช้เพียง 15 วัน เมื่อจัดการแล้วเสร็จก็จบ แต่ทุกวันนี้เราอยู่ในสถานการณ์ฉุกเฉินมา 15 เดือนแล้ว ซึ่งรัฐบาลอย่าย่ามใจจะถูกฟ้องร้องไม่ได้ ขอให้สังวรณ์ให้จงหนัก อำนาจเมื่อสถาปนาก่อตั้งแล้วต้องมีความรับผิดชอบรวมอยู่ด้วย
    “ตอนนี้มีการเตรียมวัคซีนเวอร์ชั่นสอง เวอร์ชั่นสามออกมาอีก ดังนั้นใครที่ไปฉีดวัคซีนอาจเป็นผู้เสพติด ต้องฉีดวัคซีนในขั้นต่อไป กลายเป็นทาสวัคซีน ยามที่เขาอัปเดตเชื้อโรคใหม่มาอีกก็ต้องฉีดวัคซีนอีก” นายไพศาลระบุ  
    ต่อมา ส.อ.ณรงค์ชัย อินทรกวี หรือหมู่อาร์ม ที่เคยออกมาเปิดเผยเรื่องราวไม่ชอบมาพากลในกองทัพ กล่าวว่า ปัญหาจากที่ พล.อ.ประยุทธ์ประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และให้อำนาจผู้ว่าฯ แก้ปัญหาโควิด บางพื้นที่ทำให้เกิดปัญหาผู้ว่าฯ จะใช้โรงเรียนแห่งหนึ่งเป็นสถานที่กักตัวทั้งที่ไม่มีแม้แต่กระทั่งน้ำประปา     
    นายเมธา มาสขาว เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) ปราศรัยว่า ความผิดพลาดของ พล.อ.ประยุทธ์ คือการคอร์รัปชันอำนาจ นักธุรกิจที่ยังอุ้มชู ถึงเวลาที่จะเลิกอุ้มชู แล้วหันมาดูประชาชน สร้างเศรษฐกิจเป็นธรรม เอารัฐบาลฉ้อฉล ผูกขาดอำนาจออกไป 
    นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ปราศรัยว่า การบริหารประเทศของ พล.อ.ประยุทธ์ล้มเหลวสิ้นเชิงทุกด้าน โดยเฉพาะเรื่องการแก้ไขปัญหาโควิด ได้ยินมาว่า พล.อ.ประยุทธ์จะชิงยุบสภา และตอนนี้มีการเข้าชื่อขับไล่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข และจะเอานายธนาคารบางคนมาเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ นายอนุทินหากไม่อยากถูกถีบออกมา ก็รีบออกมา
    “การจัดเสวนาอภิปรายออนไลน์สองวันที่ผ่านมาได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี เชื่อว่าคนที่มาฟังปราศรัยสัปดาห์หน้าเรามาพบกันใหม่ เจอกัน เพื่อเตรียมการจัดการขั้นเด็ดขาดต่อไป เชื่อว่าประยุทธ์จะไปเร็ว เดือนพฤษภาคมรอดยาก สภาพข้างในเละเทะ ชนิดที่ไม่มีใครกล้ากินน้ำร่วมกันเพราะกลัวถูกวางยา” นายจตุพรระบุ
    วันเดียวกัน นายนคร มาฉิม อดีตรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า หากฝ่ายประชาธิปไตยขาดยุทธวิธีการต่อสู้ ยังใช้วิธีการเดิมๆ ก็จะถูกไล่ล่าและพ่ายแพ้ตลอดไป ถึงแม้รัฐบาลเผด็จการทรราชนี้จะล้มเหลวอย่างไม่เป็นท่าในการบริหารจัดการโรคระบาดโควิด-19 เพราะรัฐบาลได้ใช้เงินภาษีและเงินกู้มาซื้อเสียงล่วงหน้าผ่านโครงการต่างๆ การที่พรรคการเมืองฝ่ายค้านสู้เฉพาะแนวรบในสภา ไม่มาร่วมกับประชาชนสู้กับเผด็จการในแนวรบนอกสภา โดยตั้งเป้าหมายว่าจะกวาด ส.ส.ในการเลือกตั้งครั้งหน้าอย่างถล่มทลาย บอกเลยว่าคิดและประเมินผิดอย่างมหันต์ เพราะอีกไม่นานหลังจากมีการแจกเงินเยียวยาโควิดในเดือน มิ.ย.นี้ รัฐบาลมีแผนจะยุบสภา จัดให้มีการเลือกตั้งใหญ่บนความไม่พร้อมของพรรคร่วมฝ่ายค้านฝั่งประชาธิปไตย
    “ข้อมูลวงในระบุว่า ฝ่ายเผด็จการได้วางคนที่จะมาเป็นนายกฯ ไว้แล้ว 4 คน ทั้งตัวจริงและตัวสำรอง คือ พล.อ.ประยุทธ์, พล.อ.ประวิตร นายอนุทิน และ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า จึงมีคำถามถึงพรรคร่วมฝ่ายค้านทุกพรรคว่าพวกท่านจะดันทุรังสู้ภายใต้กฎกติกา แล้วปล่อยให้นักเรียน นิสิตนักศึกษา ปัญญาชนสู้อย่างโดดเดี่ยว ถูกไล่ล่า ถูกจับกุม คุมขัง ถูกอุ้มหายตลอดไปหรือ ขอเชิญชวนพรรคร่วมฝ่ายค้านตัดสินใจอย่างกล้าหาญ เด็ดเดี่ยว ออกมาร่วมกับนักเรียน นิสิตนักศึกษา ใช้วิธีการต่อสู้ทุกวิถีทาง ทุกรูปแบบ เพื่อโค่นระบอบเผด็จการซ่อนรูปนี้ให้ได้” นายนครกล่าว.

 

 

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"