27 เม.ย.64 - ดร.มานะ นิมิตมงคล เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย)  โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Mana Nimitmongkol ว่า ทำไมศาลตัดสินอย่างนี้...

โรงพยาบาลรัฐส่วนใหญ่มักเรียกรับค่าคอมมิชชันยาและอุปกรณ์การแพทย์ จากผู้ขาย แม้กฎหมายจะห้ามและกระทรวงสาธารณสุขก็ออกกฎห้ามโดยมีรายละเอียดไว้ชัดเจน

ตามกฎหมาย ป.ป.ช. ก็ถือเป็นความผิด

พฤติกรรมทำนองนี้เป็น "ผลประโยชน์ทับซ้อน" (Conflict of Interest) ที่ผู้เกี่ยวข้องพึงระวัง 

ผู้ใต้บังคับบัญชาก็ต้องเข้าใจและเห็นใจผู้บริหาร ไม่ควรกดดันทวงถามว่า ที่ผ่านมาผู้บริหารคนก่อนๆ กล้าทำเพื่อลูกน้อง ที่ไหนๆเขาก็ทำ แต่ทำไมท่านนี้จึงกลัวเกินเหตุ (หรือยึดมั่นในความถูกต้อง)

แต่ที่ผ่านมายังคงทำกันอยู่บางที่เข้ากระเป๋าตัวเอง บางที่เอาเข้ากองทุนเอาไว้ใช้ส่วนรวม ซึ่งก็ผิดกฎหมายทุกฉบับรวมทั้งกฎหมายอาญาเหมือนกัน

จริงที่ว่า..ผู้บริหารหลายท่านมีเจตนาบริสุทธ์ เอาเงินคอมมิชชันเข้ากองทุนเป็นสวัสดิการของเจ้าหน้าที่ แต่เมื่อวิธีการ "ได้มา" ของเงินมันผิดกฎหมาย ก็มีความผิด 

หยุดคอร์รัปชัน ต้องเริ่มที่ตัวเรา.

ทั้งนี้ประเด็นที่ดร.มานะระบุถึงคือ คำพิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและและประพฤติมิชอบ ภาค 4 ยกฟ้อง ปลัดสธ.-พวกรวม 7 ราย  เข้าข่ายผิด 'ม.157' ปมสั่งย้าย หมอชาญชัย จันทร์วรชัยกุล พ้นรพ.ขอนแก่น ชี้เป็นไปโดยสุจริต-เที่ยงธรรม.