เหิม!ปาไข่พระบรมฉายาลักษณ์


เพิ่มเพื่อน    

  ม็อบรีเดมอีกแล้ว! จัดคาราวานรถประท้วงหน้าศาลให้ประกันตัวแกนนำม็อบ 3 นิ้ว พ่วงยกเลิกมาตรา 112 แวะ สตช.กดแตรสนั่น เหิมหนัก! ขู่อาฆาตครอบครัวรองอธิบดีผู้พิพากษาฯ ซ้ำปาไข่-มะเขือเทศใส่พระบรมฉายาลักษณ์ แกนนำอ้างไม่ได้คุกคามใคร แต่มาเร็วไปเร็ว ชุมนุมแค่ 3 ชั่วโมงสลายตัว

กรณีเพจเยาวชนปลดแอก - Free YOUTH โพสต์เมื่อวันเสาร์ที่ 1 พ.ค. ในเวลา 22.42 น. ระบุว่า เมื่อความอดทนมาถึงขีดจำกัด  เมื่อการต่อสู้ด้วยการอ้อนวอนไม่อาจเปลี่ยนใจคนเลวได้ ปฐมบทแห่งการลุกขึ้นสู้ สู้กับวงศ์ตระกูลของสุนัขรับใช้ที่เสวยสุขบนความทุกข์ของราษฎรจึงเริ่มต้นขึ้น อาทิตย์ที่ 2 พ.ค.นี้ ขอเชิญชวนรถทุกประเภทร่วมคาราวานประกาศคุณงามความดีตระกูลเหมือนพะวงศ์ จากอนุสาวรีย์ชัยฯ ไปศาลอาญารัชดาฯ เคลื่อนขบวนออกจากอนุสาวรีย์ชัยฯ เวลา 15.00 น. พบว่าเมื่อวันอาทิตย์ที่ 2 พ.ค. บรรยากาศภายในศาลอาญานั้น ศาลได้ปิดประตูทางเข้า-ออกทั้งหมด พร้อมกับเสริมลวดหนามหีบเพลงตามแนวรั้ว และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชน (คฝ.) 1 กองร้อย รถฉีดน้ำแรงดันสูง 1 คัน พร้อมรถควบคุมผู้ต้องหาหลายคันจอดรอเพื่อป้องกันเหตุ โดยเหตุการณ์ทั่วไปยังคงปกติ ส่วนที่หน้าศาลอาญาเริ่มมีกลุ่มผู้ชุมนุมจำนวนหนึ่งเดินทางมารอสมทบกลุ่มรีเดม (REDEM) ที่จัดคาราวานรถจักรยานยนต์จากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิมายังหน้าศาลอาญาแล้ว
ขณะที่ในเวลา 15.00 น. ที่บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ฝั่งเกาะพญาไท กลุ่มรีสตาร์ทเดโมเครซี หรือกลุ่มรีเดม (REDEM) ที่จัดกิจกรรมคาราวานรถยนต์จากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิไปยังศาลอาญา เพื่อเรียกร้องให้ปล่อยตัวนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน, น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือรุ้ง, นายพรหมศร วีระธรรมจารี หรือฟ้า 3 แกนนำกลุ่มราษฎรที่ถูกดำเนินคดีในความผิดมาตรา 112 ทั้งหมด พร้อมเรียกร้องให้ยกเลิกกฎหมายอาญามาตรา 112
โดยก่อนเริ่มขบวน รถเครื่องเสียงและรถจักรยานยนต์จะมีผู้ชุมนุมถือธง REDEM ซ้อนท้าย และนำกระดาษมีข้อความ “ยกเลิกกรุงเทพมหานคร 112” มาปิดทับแผ่นป้ายทะเบียนจริงไว้
และในเวลา 16.00 น. น.ส.พัชณีย์ คำหนัก นักเคลื่อนไหวด้านแรงงานและสมาชิกกลุ่มสังคมนิยมแรงงาน ได้เดินทางมาปักหลักบริเวณหน้าประตู 8 ศาลอาญา ประกาศอดข้าวประท้วงหน้าศาลเรียกร้องสิทธิ์ประกันตัวนักโทษทางการเมือง และแสดงความไม่เห็นด้วยกับกระบวนการยุติธรรม โดยมีกลุ่มนักนักศึกษาแนวร่วมกลุ่มธรรมศาสตร์และการชุมนุม รวมทั้งนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข แกนนำกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย และแนวร่วมกลุ่มราษฎร หนึ่งในผู้ต้องหาคดีมาตรา 112 ที่ศาลอนุญาตให้ประกันตัวโดยมีเงื่อนไขมาให้กำลังใจ
ต่อมาในเวลา 17.00 น. ขบวนรถกลุ่มรีเดมได้เดินทางมาถึงศาล ฝั่งตรงข้ามที่มุ่งหน้าแยกรัชดาฯ-ลาดพร้าว มวลชนได้เข้ารื้อแท่งปูนแบริเออร์กั้นที่กลับรถทันที ทำให้การจราจรทั้งฝั่งขาเข้าและขาออกติดขัดทันที ทั้งนี้ ก่อนที่จะมุ่งหน้ามาที่ศาลอาญา ขบวนรถกลุ่มรีเดมได้ไปที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรียกร้องให้ยกเลิกมาตรา 112 และให้ตำรวจเลิกรับใช้เผด็จการ โดยมีการบีบแตรส่งเสียงดังตลอดทาง
    เวลา 17.40 น. กลุ่มรีเดมได้นำรูปนายชนาธิป เหมือนพะวงศ์ รองอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา มาปิดที่ป้ายสำนักงานศาลยุติธรรม ขณะเดียวกันรถเครื่องเสียงได้เปิดเทปบันทึกเสียงโจมตีการทำงานของนายชนาธิป ว่าเป็นผู้พิพากษาฆาตกร พร้อมเปิดประวัติและโจมตีครอบครัวทั้งภรรยาและลูก รวมถึงธุรกิจของครอบครัว นอกจากนี้ยังมีการสาดสีและพ่นสีแดงที่ป้ายศาลอาญา รวมทั้งรูปของนายชนาธิปด้วย
โดยสถานการณ์เริ่มวุ่นวายเมื่อแกนนำได้เตรียมมะเขือเทศและไข่แจกให้มวลชนปาใส่ป้ายสำนักงานศาลยุติธรรม ขณะที่บางคนปาใส่พระบรมฉายาลักษณ์รัชกาลที่ 10 พร้อมปาไข่ใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ขณะที่รถประชาสัมพันธ์ของตำรวจได้ประกาศให้หยุดการกระทำ หากไม่หยุดจะใช้มาตรการควบคุมสถานการณ์ ตามยุทธวิธี
นายเจษฎา ศรีปลั่ง หรือเจมส์ สมาชิกกลุ่มคนรุ่นใหม่นนทบุรี กล่าวว่า กิจกรรมวันนี้เป็นการนัดหมายของกลุ่มรีเดม ซึ่งม็อบไม่มีแกนนำแต่ต้น โดยพวกตนมาคอยอำนวยความสะดวก เพราะเราไม่ทราบว่าใครทำอะไร และจะยุติเมื่อไหร่ ซึ่งทุกคนที่มารวมตัวกันวันนี้ไม่ได้มาคุกคามครอบครัวใคร แต่เขาต้องการแสดงให้กระบวนการยุติธรรมได้คิดสักนิด ไม่ว่าจะเป็นลูกของใคร เขาโดนพรากด้วยความอยุติธรรม หากวันนี้ครอบครัวคุณโดนคุกคามจะเป็นอย่างไร
นายรัฐภูมิ เลิศไพจิตร โฆษกกลุ่มวีโว่ กล่าวว่า กิจกรรมที่ทำวันนี้ต้องการแสดงออกว่าสังคมไม่พอใจเหตุการณ์ไม่ให้สิทธิการประกันตัวผู้ถูกล่าวหาในคดีมาตรา 112 ซึ่งการประกันตัวไม่ควรมีเงื่อนไขอะไรด้วยซ้ำ
    ในเวลา 17.55 น. แกนนำกลุ่มรีเดมได้ประกาศยุติการชุมนุม แต่ปรากฏว่ามวลชนหัวรุนแรงยังอารมณ์ค้าง ได้พยายามก่อกวนปาสิ่งของใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนที่รักษาการอยู่ด้านใน และตะโกนด่ากระบวนการยุติธรรมไทย และมีการปาประทัดเข้าไปด้านในจนเกิดความวุ่นวายขึ้นอีกครั้ง ซึ่งมวลชนด้วยกันพยายามหาตัวคนที่ปาประทัดเข้าไป
    ต่อมาเวลา 19.05 น. ตำรวจที่ตรึงกำลังอยู่ภายในบริเวณศาล ประกาศให้ผู้ชุมนุมเดินทางกลับบ้าน รวมทั้งให้สื่อมวลชนเตรียมบัตรประชาชนไว้ให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ และประกาศแจ้งเตือนเวลาที่เหลืออยู่เป็นระยะๆ พร้อมปิดการจราจรบริเวณหน้าศาลอาญา มุ่งหน้าแยกรัชโยธิน แต่ในเวลา 19.17 น. มีเสียงดังคล้ายประทัดดังขึ้นหลายสิบครั้ง จากนั้นเวลา 19.23 น. ตำรวจควบคุมฝูงชนได้เข้ากระชับพื้นที่บริเวณหน้าศาลอาญาและบริเวณสำนักงานอัยการสูงสุด รัชดาฯ ทำให้ผู้ชุมนุมบางส่วนหลบเข้าไปอยู่ในซอยรัชดาฯ 32
ขณะเดียวกัน มีความคืบหน้ากรณีมวลชน นำโดย น.ส.เบนจา อะปัญ สมาชิกกลุ่มแนวร่วมกลุ่มธรรมศาสตร์และการชุมนุม หนึ่งในแกนนำม็อบ 3 นิ้ว ก่อความวุ่นวายบริเวณหน้าศาลอาญาเมื่อวันที่ 29 เม.ย. ภายหลังศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัวเพนกวิน, รุ้ง, นายอานนท์ นําภา, นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือไมค์, นายไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ หรือแอมมี่ เดอะบอตทอมบลูส์, นายชูเกียรติ แสงวงค์ หรือจัสติน และนายปริญญา ชีวินกุลปฐม หรือพอร์ท วงไฟเย็น โดยกลุ่มศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) นำโดยนายนพคุณ ทองถิ่น เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนดำเนินคดีกับ น.ส.เบนจาแล้ว ในความผิดตามมาตรา 112,  พ.ร.บ.ควบคุมโรค, พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และ พ.ร.บ.เครื่องเสียง โดยยื่นหนังสือพร้อมพยานหลักฐานต่อพนักงานสอบสวน
“ผิดเงื่อนไขในการได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวหรือไม่ เนื่องจาก น.ส.เบนจาเป็นผู้ต้องหาตามมาตรา 112 ที่ ศปปส.เป็นผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษและแจ้งความไว้ที่ สน.ปทุมวัน  ซึ่งหลังจาก น.ส.เบนจามารับทราบข้อกล่าวหาที่ สน.ปทุมวันแล้ว ก็ได้รับการปล่อยตัวในชั้นสอบสวน” นายนพคุณกล่าว และว่า ศปปส.ยังได้ทราบข่าวว่ามีสมาชิกพรรคก้าวไกล ซึ่งนำโดยนายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรค พร้อม ส.ส.พรรคก้าวไกล อาทิ นายรังสิมันต์ โรม, น.ส.สุทธวรรณ สุบรรณ ณ อยุธยา และนางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ได้เดินทางมาร่วมสังเกตการณ์ที่หน้าศาลอาญาในครั้งนี้ จะเข้าข่ายร่วมยุยงส่งเสริมให้รวมตัวกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งสุ่มเสี่ยงต่อสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 หรือไม่.

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"