‘บิ๊กตู่’ล้มเหลวเหตุย้ายปท. 3นิ้วยังคึกลุ้นปล่อยแกนนำ


เพิ่มเพื่อน    

 

"เพื่อโทย" โหนกระแสย้ายประเทศ อ้างคนรุ่นใหม่ผิดหวัง "ประยุทธ์" ล้มเหลวในการบริหารประเทศตลอด 7 ปี หวั่นไทยสูญเสียคนฉลาดคนเก่งโอกาสการพัฒนาก็จะหายไปด้วย "หมอวรงค์" เรียกร้องหยุดด้อยค่าประเทศใครจะย้ายก็เชิญตามสบาย ศาลอุทธรณ์ให้ประกันตัว สาวรีเดมคดีชุมนุมหน้าศาลพร้อมเงื่อนไขเข้ม ขณะที่กลุ่ม 3 นิ้วระดมพลคืนสุกดิบที่สกายวอล์ก ลุ้นปล่อย 'เพนกวิน-แอมมี่-ไมค์'

    เมื่อวันจันทร์ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า กระแสความต้องการของคนรุ่นใหม่ของไทยที่ต้องการย้ายประเทศ เพราะผิดหวังจากความล้มเหลวในการบริหารประเทศของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ตลอด 7 ปี และการขาดวิสัยทัศน์ของผู้นำ ได้มีผู้เข้าร่วมเพจเพิ่มมากขึ้นเป็นประมาณล้านคนแล้ว ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนที่มีการศึกษาสูง ฉลาด และเก่ง มีความสามารถเฉพาะทาง จะยิ่งมีกระแสความต้องการจะย้ายไปประเทศอื่นเพิ่มมากขึ้น จากเรื่องของรัฐมนตรีที่เคยมีคดียาเสพติดนี้ ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญมากและจะมองข้ามไม่ได้ เพราะหากคนไทยที่ฉลาดและเก่ง ย้ายออกจากประเทศมากๆ ประเทศไทยจะหมดอนาคต ซึ่งหากมองประเทศที่ประชาชนอยากย้ายออกในอดีต เช่น หลายประเทศในอเมริกาใต้ ประเทศเม็กซิโก ประเทศพม่า ประเทศฟิลิปปินส์ในอดีต ประเทศกัมพูชาในอดีต ฯลฯ ประเทศเหล่านี้จะมีการพัฒนาที่ต่ำมาก
    "เพราะเกิดสมองไหล คนฉลาดคนเก่งหนีไปทำงานประเทศอื่นหมด ซึ่งแนวคิดนโยบายของพรรคเพื่อไทยที่ตนเคยเสนอมาโดยตลอดคือ การเปิดประเทศให้คนฉลาดและคนเก่งๆ จากประเทศอื่นๆ ให้เข้ามาเป็นคนไทยให้สัญชาติไทยเลย เพื่อช่วยพัฒนาประเทศ ซึ่งตรงกับแนวคิดของนายธนินท์ เจียรวนนท์ อภิมหาเศรษฐีของไทยที่เพิ่งออกมาเสนอแนวคิดนี้เหมือนกันเมื่อไม่นานมานี้ เพราะเห็นตรงกันว่าในโลกยุคใหม่ คนเก่งหนึ่งคนจะสามารถเปลี่ยนแปลงและสร้างประโยชน์ให้กับประเทศได้อย่างมหาศาล ทั้งการสร้างเศรษฐกิจใหม่ การสร้างงาน และการสร้างเงิน เช่น นายอีลอน มาสก์ นายมาร์ก ซัคเคอร์เบิร์ก นายแจ็ก หม่า เป็นต้น แต่ถ้ากลับกันประเทศไทยกลับจะต้องสูญเสียคนฉลาดและคนเก่งไปให้ประเทศอื่น โอกาสการพัฒนาของไทยก็จะหายไปด้วย"
    นายพิชัยกล่าวว่า ประเทศไทยจึงมีความจำเป็นต้องมีผู้นำที่มีวิสัยทัศน์และสามารถสร้างความมั่นใจดึงดูดคนฉลาดและคนเก่งให้อยู่ในประเทศต่อไป ส่งเสริมให้พวกเขาพัฒนาและประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้น อีกทั้งในอนาคตประเทศไทยจะต้องเปิดรับคนฉลาดคนเก่งเข้ามาในประเทศไทยให้มากๆ เพื่อพัฒนาประเทศในยุคใหม่ต่อไป ทำให้ประเทศไทยจะเป็นศูนย์กลางของคนฉลาดและคนเก่งของภูมิภาค
    ขณะที่ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม รักษาการหัวหน้าพรรคไทยภักดี โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก ระบุว่า หยุดด้อยค่าประเทศไทย ผมเห็นมีบุคคลกลุ่มหนึ่งพยายามด้อยค่าประเทศไทย และไปยกตัวอย่างอเมริกา เรื่องการฉีดวัคซีน ว่าอเมริกาฉีดให้ฟรีเลือกได้อะไรทำนองที่ประเทศไทยเราแย่มาก ผมยังคิดว่ายังดีที่เขาเอาเรื่อง การฉีดวัคซีนมาเปรียบเทียบ ถ้าเอาเรื่องอเมริกาไปสำรวจดาวอังคาร แต่ไทยยังไม่ได้ไปสำรวจ เราอาจจะแย่กว่านี้มาก
    "ทางที่ดีพวกท่านน่าจะให้ นักการเมืองที่ท่านสนับสนุนหันมารักชาติบ้านเมืองมีอำนาจเมื่อไร ก็หยุดโกงชาติโกงแผ่นดิน มารณรงค์ให้คนไทยรักชาติ วันหนึ่งเราอาจจะพัฒนาใกล้เคียงกับอเมริกาก็ได้ ที่สำคัญพวกท่านต้องหยุดด้อยค่าประเทศไทยก่อนด้วยครับ ใครจะย้ายประเทศเชิญตามสบาย" นพ.วรงค์กล่าว
    ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำสั่งศาลอุทธรณ์ กรณีทนายความยื่นคำร้องอุทธรณ์ขอปล่อยชั่วคราว น.ส.หทัยรัตน์ แก้วสีคราม อายุ 20 ปี ผู้ต้องหาที่ 2 คดีชุมนุมหน้าศาลอาญาร่วมกับกลุ่มรีเดม เมื่อวันที่ 2 พ.ค.2564 ในข้อหาร่วมกันต่อสู้หรือขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติการตามหน้าที่โดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยมีหรือใช้อาวุธโดยร่วมกันกระทำผิดตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป ซึ่งทนายความได้ยื่นคำร้องเมื่อวันที่ 7 พ.ค.2564
    ศาลอุทธรณ์พิเคราะห์แล้วเห็นว่า ผู้ต้องหาที่ 2 อยู่ในระหว่างการศึกษาและมีที่อยู่เป็นหลักแหล่งแน่นอน จึงอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาที่ 2 ในระหว่างสอบสวน ตีราคาประกัน 100,000 บาท โดยกำหนดเงื่อนไขห้ามมิให้ผู้ต้องหาที่ 2 ไปกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง หรือกระทำการอันมีลักษณะที่ละเมิดต่อกฎหมาย กับให้ผู้ต้องหาที่ 2 มารายงานตัวต่อศาลชั้นต้นทุก 2 สัปดาห์ต่อครั้ง ตามวันเวลาที่ศาลชั้นต้นเห็นสมควรกำหนด ห้ามผู้ต้องหาที่ 2 เดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากศาลชั้นต้น
    ก่อนปล่อยตัวผู้ต้องหาที่ 2 ให้ศาลชั้นต้นแจ้งสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองทราบ ทั้งนี้ หากมีพฤติการณ์ว่าผู้ต้องหาที่ 2 ผิดเงื่อนไขข้างต้น หรือจะหลบหนี หรือจะไปก่อเหตุอันตรายประการอื่น ก็ให้ศาลชั้นต้นสั่งเพิกถอนประกันตัวผู้ต้องหาที่ 2 ทันที
    โดยวันนี้ศาลอาญาได้ดำเนินการตามขั้นตอน ตามที่ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว
    วันเดียวกัน เพจเฟซบุ๊ก "People GO network" โพสต์ข้อความว่า "ออกจากบ้าน วางแผนเดินทางวันนี้ มุ่งหน้า SkyWalk แยกปทุมวัน หกโมงเย็น ไป เปิดไฟให้ดาว LightUp JUSTICE กัน กำหนดการเปิดไฟให้ดาว ณ SkyWalk แยกปทุมวัน 18.00 ราษฎร์ดรัม  18.10 “ส่องสว่างเสรีภาพ” หยุดขังแสงดาว โดย ชลิดา บัณฑุวงศ์ เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมือง “ส่องสว่างยุติธรรม” อนาคตกฎหมายและตุลาการไทย โดย ยิ่งชีพ อัชฌานนท์ iLaw “ส่องสว่างสังคมไทย” เราจะไปทางไหนกัน? โดย ยุกติ มุกดาวิจิตร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
    18.45 น. บทเพลงแสงดาวสายรุ้งถึงคนบนฟ้า โดย t_047 19.00 น. “ส่องสว่างความหวัง” กลั่นจากใจ มายด์ ภัสราวลี 19.15 น. ร่วมเปิดไฟให้ดาว ฟังเพนกวินอ่านบทกวี การแสดงร่ายรำเคลื่อนไหวกับกวีจากเพื่อนถึงเพื่อน โดยศิลปะปลดแอก 19.30 น. จบกิจกรรม  มาเปิดไฟให้ดาวส่องสว่างกลางใจเมืองด้วยกัน
    คืนสุกดิบก่อนไต่สวนประกันตัว เพนกวิน แอมมี่ ไมค์ เรามาร่วมกันเปิดไฟให้ดาว LightUp Justice อีกครั้ง มารับดวงดาวสีรุ้งของเพื่อนๆ ได้ที่หน้างาน เตรียมมือถือที่เปิดไฟฉายได้ ชาร์ตแบตมาเต็มๆ แล้วมา เปิดไฟให้ดาวร่วมกัน เหมือนที่เพนกวินว่าไว้คุกอาจขังดวงดาวได้ แต่ไม่อาจขังแสงดาว #ให้วันรุ่งคือวันแห่งอิสรภาพของความจริง".
    ต่อมาเวลา 18.30 น. ที่บริเวณสกายวอล์ก แยกปทุมวัน นายยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ผู้จัดการโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (ไอลอว์) กล่าวตอนหนึ่งในกิจกรรม ”สนทนาปราศรัย ส่องสว่างกลางความมืด” ว่า ไม่เคยมีช่วงเวลาใดในประวัติศาสตร์ไทยที่มาตรา 112 ถูกนำมาใช้ดำเนินคดีทางการเมืองแบบนี้มาก่อน และไม่มีครั้งใดในประวัติศาสตร์ไทยที่เราจะต้องการอำนาจตุลาการให้มาเป็นเสาหลักถ่วงดุลอำนาจรัฐของฝ่ายบริหารที่นำด้วย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และฝ่ายเผด็จการทหารมากกว่านาทีนี้อีกแล้ว ถ้าหากว่าตุลาการทำหน้าที่เป็นเสาหลักที่ 3 ที่จะตรวจสอบการใช้อำนาจที่ไม่ถูกต้องของฝ่ายบริหาร ออกกฎหมายมาไม่ถูกต้อง จับกุมดำเนินคดีกับประชาชนที่ไม่ถูกต้อง ตุลาการดูแล้วบอกว่าไม่ผิด การจับไม่ถูกต้อง ต้องปล่อย ฟ้องคดีแบบนี้ไม่ชอบธรรมต้องยกฟ้อง กฎหมายแบบนี้ออกมาไม่ชอบธรรมใช้บังคับไม่ได้ ถ้าหากสถาบันตุลาการทำหน้าที่เช่นนี้ พวกเราจะต้องเคารพศาลอย่างแน่นอน
    “อยู่ที่สถาบันศาลว่าท่านอยากจะทำตัวเป็นเสาหลัก ให้ประชาชนรู้สึกว่ามีความหวังกับประเทศนี้ หรือจะร่วมมือกับฝ่ายเผด็จการแล้วยื้อเวลาต่ออายุขัย อยู่ที่ท่านว่าจะเลือกอะไร เราทุกคนอยากเห็นวันที่เราเดินไปถึงศาลแล้วเรารู้สึกสบายใจ ตำรวจแกล้งเรา รัฐบาลแกล้งเรา มีความไม่ยุติธรรมหลายอย่าง เราอยากเดินไปบนบันไดศาลแล้วรู้สึกว่าเรามาเจอที่พึ่งแล้ว เราขอสิ่งนั้น แล้วเราไม่ขอมากเกินไป วันนี้เพื่อนของเราขึ้นศาลแล้วไม่ได้รับการประกันตัว บางคนได้ บางคนไม่ได้ บางคนได้ แต่ได้ช้า กระบวนการที่เป็นอยู่ดูก็รู้ว่าไม่ปกติ เราขอเพียงให้ท่านทำตัวเป็นอำนาจตุลาการที่ถ่วงดุลกับอำนาจบริหารที่ไม่ถูกต้อง ที่เราเห็นว่าไม่ถูกต้อง เชื่อว่าเราไม่ได้ขอมากไป ถ้าไม่ได้ไม่เลิก” นายยิ่งชีพกล่าว.

 

 

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"