ฉีดวัคซีน..เอาที่สบายใจ (10 ) ผู้ป่วยเบาหวาน

 

ยังมีหลายคนที่กังวลกับการฉีดวัคซีน โดยเฉพาะคนที่มีโรคประจำตัว และ โรคเบาหวานก็เป็นอีกโรคที่มีคนไทยเป็นกันเยอะ และก็อาจจะยังไม่แน่ใจ สำหรับการเข้ารับการฉีดวัคซีนว่า จะมีผลกระทบร้ายแรงต่อโรคที่เป็นอยู่หรือไม่ 
ซึ่งคุณหมอผู้เชี่ยวชาญ ได้มาให้คำตอบเรื่องนี้ไว้แล้ว

พญ.วรรณี นิธิยานันท์ นายกสมาคมโรคเบาหวานแห่งประเทศไทย  เปิดเผยว่า  อันที่จริงแล้วแนะนำให้ผู้ป่วยโรคเบาหวานทุกคน ควรฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 สำหรับผู้ป่วยเบาหวานที่เป็นวัยสูงอายุ ก่อนที่จะไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 นั้น จะต้องไม่มีไข้สูง ซึ่งเป็นหลักการเดียวกับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ ที่สำคัญผู้ป่วยโรคเบาหวาน มักจะมีภูมิต้านทานโรคต่ำกว่าผู้ที่ไม่ได้ป่วย  จึงทำให้ผู้ป่วยกลุ่มดังกล่าว เสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ค่อนข้างสูง 
ส่วนผู้ป่วยโรคเบาหวานที่เป็นโรคมะเร็งร่วมด้วย จำเป็นต้องปรึกษาแพทย์ที่ให้การรักษาโรคมะเร็งเป็นหลัก เพราะผู้ป่วยโรคมะเร็งนั้น แพทย์จะให้ยากดภูมิภายในระยะเวลาที่กำหนด ดังนั้นจึงจำเป็นต้องรอให้ปริมาณยารักษาโรคมะเร็งอยู่ในระดับที่เหมาะสมก่อน จึงต้องปรึกษาคุณหมอโรคมะเร็งก่อนฉีดวัคซีน  

สำหรับการเตรียมตัวฉีดวัคซีนของผู้ป่วยโรคเบาหวานนั้น 

1.คนไข้จะต้องดูแลสุขภาพโดยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้ดี หรืออยู่ในระดับที่เหมาะสม (หากน้ำตาลในเลือดสูงก็จะทำให้ระบบในร่างกายเปลี่ยนแปลงไปมา หากน้ำตาลในเลือดต่ำขณะไปรับวัคซีน ก็จะทำให้ผู้ป่วยเป็นลมได้ง่าย) 

2.สำหรับกลุ่มผู้สูงอายุที่ป่วยโรคเบาหวาน แต่ไม่มีโรคหัวใจร่วมด้วยนั้น ระดับน้ำตาลในเลือดในช่วงเช้าก่อนรับประทานอาหารจะต้องอยู่ที่ประมาณ 100-125 มิลลิกรัม/เดซิลิตร หรือไม่เกิน 130 มิลลิกรัม/เดซิลิตร ส่วนช่วงหลังกินอาหารนั้นระดับน้ำตาลในเลือดที่เหมาะสมอยู่ระหว่าง 140-180 มิลลิกรัม/เดซิลิตร 

3.ไม่มีไข้สูง 

4.รับประทานอาหารให้เพียงพอครบ 5 หมู่ และไม่จำเป็นต้องงดอาหารหลัง 2 ทุ่มแต่อย่างใด  

อ่านเพิ่มเติม 

ฉีดวัคซีน..เอาที่สบายใจ (9 ) ผู้่ป่วยโรคมะเร็ง

ไขข้อข้องใจ 'ผู้ป่วยโรคหอบหืด' ฉีดวัคซีนโควิด-19 ได้หรือไม่??

ฉีดวัคซีน..เอาที่สบายใจ (7 ) ข้อปฏิบัติก่อนระหว่างและหลังการรับวัคซีน 

ฉีดวัคซีน..เอาที่สบายใจ (6 ) ขั้นตอนการความปลอดภัยผู้เข้ารับบริการฉีดวัคซีน

ฉีดวัคซีน..เอาที่สบายใจ (5) ข้อควรรู้ 'อาการไม่พึงประสงค์หลังการฉีดวัคซีน'