ชงศุภชัยนายกฯคนนอก สั่งครม.รับมือถกงบปี65


เพิ่มเพื่อน    

 "บิ๊กตู่" กำชับ ครม.พร้อมรับมืออภิปรายงบปี 65 เตือนอย่าให้มีปัญหาแจงให้เคลียร์ทุกประเด็น  กลุ่มประชาชนคนไทยชง "ศุภชัย พานิชภักดิ์" นั่งนายกฯ คนนอก หลังยื่นหนังสือขอ "บิ๊กตู่" เสียสละลาออกจากตำแหน่ง

    เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2564 ที่ทำเนียบรัฐบาล นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี   แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่าที่ประชุมรับทราบการรายงานของนายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ถึงผลการประชุมวิป 3 ฝ่าย เมื่อวันที่ 14 พ.ค. ซึ่งสภาผู้แทนราษฎรได้กำหนดวาระสำคัญ ดังนี้ 1.การพิจารณาพระราชกำหนด 2 ฉบับ คือพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ พ.ศ.2564 (ลดดอกเบี้ยผิดนัด) และ พ.ร.ก.การให้การช่วยเหลือและฟื้นฟูผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ.2564 โดยกำหนดประชุมวันที่ 27 พ.ค. หากไม่แล้วเสร็จ ให้พิจารณาต่อวันที่ 28 พ.ค. และ 2.การพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 ระหว่างวันที่ 31 พ.ค.-2 มิ.ย. รวม 3 วัน
    “นายกฯ ได้กล่าวในที่ประชุมว่าขอให้รัฐมนตรีใช้เวลาในการประชุมสภาให้เกิดประโยชน์สูงสุด ชี้แจงข้อมูลถึงความจำเป็นและประโยชน์ของการใช้งบประมาณแผ่นดินในแผนงานและโครงการต่างๆ รวมถึงความสอดคล้องต่อสถานการณ์ของประเทศ ทุกอย่างต้องเป็นไปอย่างโปร่งใส งบประมาณของกระทรวงใดที่มีการปรับลดลงจากปีก่อนต้องชี้ให้เห็น เงินที่ใช้สำหรับการเยียวยากระตุ้นเศรษฐกิจและการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ต้องอธิบายด้วยว่ามีการใช้งบจาก พ.ร.ก.กู้เงินฯ และงบกลางกรณีฉุกเฉินอยู่แล้ว และที่สำคัญต้องตอบข้อซักถามทุกประเด็นให้เกิดความกระจ่าง เพื่อความเข้าใจร่วมกันและความสบายใจของประชาชน” นางสาวรัชดาระบุ
    รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลแจ้งว่า ในที่ประชุม ครม.ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กำชับพรรคร่วมรัฐบาลเตรียมพร้อมเรื่องการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายฯ ระหว่างวันที่ 31 พ.ค.-2 มิ.ย. ว่าอย่าให้มีปัญหา เพราะถือเป็นวาระสำคัญที่จะต้องประชุม พร้อมกับขอให้ดำเนินการตามมาตรการสาธารณสุขกันอย่างเคร่งครัด
    ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาล กลุ่มประชาชนคนไทย นำโดยนายพิชิต ไชยมงคล แกนนำของกลุ่ม และอดีตโฆษกเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.)เดินทางยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อเรียกร้องให้เสียสละลาออกจากตำแหน่งหลังตลอด 7 ปีที่ผ่านมาไม่สามารถปฏิรูปประเทศและแก้ไขวิกฤติของประเทศชาติได้ เพื่อเปิดโอกาสให้รัฐสภาเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ภายใต้รัฐธรรมนูญปี 2560 มาตรา 272 วรรคสอง
    โดยยกเว้นการเสนอชื่อนายกรัฐมนตรี ในบัญชีพรรคการเมืองจากกรณีไม่ได้เสียงเกินกว่ากึ่งหนึ่งของสมาชิกเท่าที่มีอยู่ของรัฐสภา โดยใช้เสียงสองในสามเพื่อเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีนอกบัญชีพรรคการเมืองมาทำหน้าที่ผู้นำรัฐบาลสร้างชาติ โดยมีนายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี เป็นผู้รับหนังสือ
    สำหรับรายชื่อนายกรัฐมนตรีที่ทางกลุ่มเห็นว่าเหมาะสมนั้น นายพิชิต ไชยมงคล กล่าวว่า เป็นเพียงการหารือกันคร่าวๆ ในกลุ่ม อย่างชื่อนายศุภชัย พานิชภักดิ์ อดีตเลขาธิการการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา (อังก์ถัด) และอดีตผู้อำนวยการใหญ่องค์การการค้าโลก (WTO) ซึ่งไม่ได้มีการเจาะจงเป็นพิเศษ แต่ให้ประชาชนเป็นผู้พิจารณาตามความเหมาะสม และผู้ที่จะเข้ามาเพื่อแก้ปัญหาประเทศ พร้อมเปิดเผยว่า ขณะนี้ได้มีการรวมกลุ่มทั้งอดีตแกนนำ กปปส.เก่า และอดีตแกนนำพันธมิตรหลายคนมีความเห็นไปในแนวทางเดียวกัน
    ด้านนายเสกสกลระบุว่า ขณะนี้ประเทศกำลังต่อสู้กับวิกฤติอย่างหนักควรเก็บเรื่องการเมืองไว้ก่อน ซึ่งจากการพูดคุยส่วนตัวกับแกนนำหลายคน ถ้าให้พล.อ.ประยุทธ์เสียสละทางกลุ่มประชาชนคนไทยเองก็ตอบไม่ได้ว่าจะเป็นใครที่จะทุ่มเททำงาน ส่วนเรื่องการปฏิรูปและสร้างปรองดองนั้น ที่ผ่านมาก็เดินหน้ามาตลอด หากไม่ติดวิกฤติโควิด เชื่อว่าทุกอย่างจะผ่านไปได้เร็ว ดังนั้น ขณะนี้ขอเอาชีวิตประชาชนเป็นประโยชน์สูงสุด
    เขายังกล่าวถึงนายโภคิน พลกุล อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร และผู้ร่วมก่อตั้งพรรคไทยสร้างไทย ร่วมอภิปรายออนไลน์หัวข้อ “ทางออกจากวิกฤติประเทศไทย” ถึงการบริหารงานของนายกฯ และรัฐบาล พร้อมแนะนายกฯ ควรลาออก เพราะบริหารงานล้มเหลว และควรมีรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ว่านายกฯ และรัฐบาลได้ทำงานให้กับบ้านเมือง และช่วยเหลือประชาชนทุกกลุ่มที่ได้รับความเดือดร้อน ทำงานอย่างเต็มที่ ซึ่งมั่นใจได้เลยว่าทำมากกว่ารัฐบาลอื่น
    ส่วนการออกกฎหมายการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น นายเสกสกลย้ำว่า เป็นเรื่องของรัฐสภาไปพิจารณา ซึ่งนายกฯไม่สามารถที่จะเข้าไปแทรกแซงได้ แต่ยังย้ำอยู่เสมอว่าพร้อมให้การสนับสนุนทุกเรื่องอยู่แล้ว  
    “หากการเรียกร้องให้นายกฯ ลาออกจากตำแหน่งเป็นเพียงเพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองของนายโภคินและพรรคไทยสร้างไทย ที่อยากเข้ามามีอำนาจเองนั้น ตนเองขอบอกว่าไม่ประสบความสำเร็จ นายกฯ ยังเหลือเวลาในการบริหารงานอีกปีเศษ หากพรรคไทยสร้างไทยอยากเข้ามาก็รอเลือกตั้งใหม่ ทำตามกติกาที่มีอยู่ อย่ามาอาศัยทางลัดให้นายกฯ ลาออก ยิ่งในช่วงที่ประเทศเกิดวิกฤติเช่นนี้ นายกฯ ยิ่งต้องอยู่เพื่อทำงานให้กับประชาชน"
    นายเสกสกลกล่าวว่า ที่นายโภคิน ออกมาวิพากษ์วิจารณ์กฎหมายของไทยเอื้อให้แต่นายทุนและเจ้าสัว เกิดความเหลื่อมล้ำนั้น ไม่เป็นความจริง นายโภคินอย่าไปตีความเอาเอง อยากให้นายโภคินย้อนกลับไปดู ในสมัยนายทักษิณ ชินวัตร ได้ออกกฎหมายเอื้อประโยชน์อะไรให้ธุรกิจตนเองและครอบครัว และตั้งแต่สมัยนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกฯ นั้น ก็จ้องแต่จะออกกฎหมายนิรโทษกรรมสุดซอย ล้างมลทินให้กับพี่ชายของตัวเองเท่านั้น ไม่เกิดประโยชน์เพื่อบ้านเมืองหรือประชาชนเลย
    ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายโภคินก็เป็นคนที่อยู่ในเหตุการณ์ รับรู้เรื่องนี้ดีกว่าคนอื่นเสียอีก จนทำให้ประชาชนลุกขึ้นมาประท้วงบนท้องถนน บาดเจ็บล้มตายไปมากมาย นายโภคินและคนในตระกูลชินวัตรก็ไม่เคยเห็นออกมาแสดงความรับผิดชอบเลย ในสมัยรัฐบาลนายทักษิณและนางสาวยิ่งลักษณ์ มีคนเบื่อหน่ายเต็มบ้านเต็มเมือง ว่าเป็นระบบทักษิณ ระบบยิ่งลักษณ์และเป็นเผด็จการรัฐสภา ทำไมไม่เชิญชวนคนออกมาขับไล่หรือวิจารณ์แบบนี้
    ขณะที่นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 รัฐบาลสั่งคุมเข้ม ทุกฝ่ายทำงานกันอย่างเต็มที่ ไม่อยากเห็นการเคลื่อนไหวหรือการปั่นกระแสเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ลาออกหรือยุบสภา เพราะการกระทำดังกล่าวสร้างความไม่มั่นใจ ไม่เชื่อมั่นของประชาชนในประเทศและต่างประเทศ ส่งผลกระทบต่อวิกฤติเศรษฐกิจของประเทศ เป็นการซ้ำเติมประเทศ ทางที่ดีทุกฝ่ายควรเอาเวลามาช่วยกันแก้ปัญหาโควิด-19 จะดีกว่า ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้สนใจเรื่องนี้ เพราะสิ่งเดียวที่ท่านนายกฯ ให้ความสำคัญที่สุดคือการแก้ปัญหาโควิดให้กับพี่น้องประชาชน ตนจึงอยากฝากไปยังพรรคการเมือง กลุ่มการเมืองต่างๆ ว่ามาช่วยกันทำงานเพื่อประชาชนจะดีกว่า.
         

   


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"